กู้เจี้ยนหลีหันไปมองจีอู๋จิ้งแวบหนึ่งก่อนจะถอดเสื้อบุนวมออก จากนั้นก็ถอดเสื้อตัวใน นางชะงักมือเล็กน้อยก่อนจะถอดเอี๊ยมออกมาพร้อมกันแล้วค่อยถอดกระโปรงกับถุงเท้า บนร่างเหลือเพียงกางเกงขาสั้นสีชมพูอ่อนตัวเดียวที่ไม่กล้าถอดออกจริงๆ
นางออกแรงจับพนักเก้าอี้พยุงตนเองลุกขึ้นมามองจีอู๋จิ้ง
“ช่วยพยุงข้าเข้าไปได้หรือไม่” นางทำทีว่าไม่มีอะไร พยายามใช้น้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติอย่างที่สุด ทว่าใบหน้ากลับแดงเรื่อเป็นที่เรียบร้อย
จีอู๋จิ้งเดินเข้ามาใกล้แล้วค้อมตัวช้อนร่างอุ้มนางขึ้นมา ก่อนที่จะวางนางลงในอ่างอาบน้ำจู่ๆ เขาก็เอียงศีรษะลงแนบหูเข้ากับทรวงอกของนาง
กู้เจี้ยนหลีตกใจจนแทบกรีดร้องออกมา คิดจะผลักชายหนุ่มออกโดยสัญชาตญาณ ยกมือขึ้นแตะไหล่อีกฝ่ายแล้ว ทว่ากลับอดทนไว้ได้ในชั่วขณะที่จะผลักออก
จีอู๋จิ้งฟังเสียงอยู่ครู่หนึ่งด้วยท่าทางเช่นนี้ไม่ขยับเขยื้อน จู่ๆ ก็ยกมุมปากข้างหนึ่งยิ้มพลางมองใบหน้าแดงเรื่อของกู้เจี้ยนหลีแล้วเอ่ยกลั้วหัวเราะ
“กู้เจี้ยนหลี ใจเจ้าเต้นแรงมาก ไม่สบายหรือไม่”
กู้เจี้ยนหลีบังคับไม่ให้ตนเองหอบหายใจเพื่อกันไม่ให้หน้าอกกระเพื่อม นางแทบจะเค้นคำพูดออกมาทีละคำๆ “เพราะท่านทำเช่นนี้ ข้าจึงรู้สึกอาย…”
จีอู๋จิ้งมองนางอีกแวบก่อนวางร่างนางลงในอ่างอาบน้ำ
“ระวังขาด้วย” เขากล่าว
กู้เจี้ยนหลีกอดเข่าซ้ายไว้อย่างโง่งมเพื่อไม่ให้ขากระแทก ทั้งร่างนางรายล้อมด้วยน้ำอุ่น ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านเข้าร่าง โอบล้อมทั่วสรรพางค์กาย
นางถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง
จีอู๋จิ้งหยิบผ้าที่พาดไว้ด้านข้างมาถูหลังให้นางด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ กู้เจี้ยนหลียืดหลังตรงปล่อยให้เขาช่วย รอจนเขาเช็ดถูเรียบร้อยและพาดผ้าไว้กับขอบอ่างส่งๆ นางค่อยหันไปมองเขาพลางถาม
“ท่านไม่โกรธท่านพ่อแล้วใช่หรือไม่”
ผิวน้ำสะท้อนภาพใบหน้าของนาง ทว่ากลับสะท้อนแววตาที่ชวนให้ลุ่มหลงมัวเมาในดวงตาไม่ได้
จีอู๋จิ้งเบนสายตาหนี เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “คร้านจะโกรธคนน่าเบื่อเช่นเขาแล้ว”
กู้เจี้ยนหลีวางมือเปียกชื้นลงบนขอบอ่างพลางมองเขา ถามต่ออีกว่า “แล้วก็ไม่โกรธข้าแล้วใช่หรือไม่”
จีอู๋จิ้งเลื่อนสายตากลับมามองหน้านางอีกครั้ง เงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบว่า “โกรธ”
“อา…” เครื่องหน้าของกู้เจี้ยนหลียับยู่ยี่โดยพลัน “ตั้งหนึ่งเดือนแล้วเหตุใดยังโกรธอยู่อีก”
หางตาจิ้งจอกของจีอู๋จิ้งยกโค้งขึ้นเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่เห็นขณะกล่าวอย่างเชื่องช้า “ให้อาเช็ดตัวให้ทั้งตัวก็ไม่โกรธแล้ว”
กู้เจี้ยนหลีอึ้งงันก่อนมองตาอีกฝ่ายอย่างละเอียด จากนั้นก็ส่งเสียงหึอย่างกระเง้ากระงอดแล้วหันหน้าหนี เอ่ยเสียงเบาหวิว “เช่นนั้นท่านก็โกรธต่อไปเถอะ!”
ยามที่หันหน้ากลับมุมปากของนางยกยิ้มอยู่บางๆ
สองมือของจีอู๋จิ้งวางลงบนขอบอ่างก่อนโน้มตัวลง กระซิบเรียกที่ข้างหูนาง “กู้เจี้ยนหลี”
“หือ?” ตอนกู้เจี้ยนหลีหันกลับมา ริมฝีปากนุ่มชื้นพลันปัดผ่านแก้มของชายหนุ่ม นางรีบร้อนถอยหนีด้วยความตกใจ ทว่าฝ่ามือของจีอู๋จิ้งกลับคว้าศีรษะของนางไว้ไม่ให้ถอยแล้วขบกัดริมฝีปากเย้ายวนนั้น
เจ็บ
จีอู๋จิ้งปล่อยกู้เจี้ยนหลีก่อนลูบศีรษะนาง จากนั้นจึงเหยียดหลังตรงเดินออกจากห้องอาบน้ำไปด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม กู้เจี้ยนหลีมองตามแผ่นหลังเขาพลางลูบริมฝีปากตนเองอย่างทึ่มทื่อ บนปลายนิ้วเรียวผ่องมีโลหิตเปรอะเปื้อน
กัดจนปากแตกแล้ว
หลังจากกู้เจี้ยนหลีอาบน้ำเรียบร้อยจีอู๋จิ้งไม่ได้เข้ามาแต่เป็นจี้ซย่าที่คอยปรนนิบัตินาง
“ซิงหลันตื่นหรือยัง” กู้เจี้ยนหลีถาม
“ได้ยินหลินหมัวมัวบอกว่าเพิ่งตื่นเจ้าค่ะ”
กู้เจี้ยนหลีพยักหน้าก่อนเดินไปที่เรือนหลัง เพิ่งจะถึงประตูห้องของจีซิงหลันก็เห็นเยี่ยอวิ๋นเยวี่ยนั่งป้อนยาให้เด็กน้อยอยู่ที่ข้างเตียง
จี้ซย่าสีหน้าแปรเปลี่ยนในฉับพลัน ในใจลอบร้องว่า ‘แย่แล้ว!’ ผู้เป็นนายสั่งให้นางจับตาดูเยี่ยอวิ๋นเยวี่ย ทว่านางกลับตามไปปรนนิบัติผู้เป็นนายที่เรือนสกุลกู้ถึงหนึ่งเดือนกว่า คิดไม่ถึงว่าสตรีหน้าไม่อายเช่นเยี่ยอวิ๋นเยวี่ยจะฉวยโอกาสนี้มาเข้าหาเจ้านายน้อยแทน!
“ท่านป้าอวิ๋นเยวี่ย ท่านช่างดีกับข้าจริงๆ” จีซิงหลันพูดเสียงอ้อแอ้พลางยิ้มหวาน
“หลันเอ๋อร์ช่างเป็นเด็กดี!” เยี่ยอวิ๋นเยวี่ยอ่อนโยนอย่างยิ่ง มิใช่ว่านางไม่เคยคิดจะดึงจีซิงโล่วมาเป็นพวก ทว่าจีซิงโล่วเอาใจไม่ง่ายนัก ดังนั้นนางจึงใช้เวลาทั้งเดือนเอาใจจีซิงหลัน
ดึงจีซิงหลันเป็นพวกแทนก็ได้ อย่างไรนางก็อาจจะได้เป็นฮองเฮาน้อยในวันหน้า!