จีอู๋จิ้งก้มลงปลดสายรัดเอวอย่างคล่องแคล่ว
กู้เจี้ยนหลีมองการกระทำของเขาแล้วลนลานขึ้นมาในฉับพลัน เขาคงไม่ได้คิดจะทำเพิ่มอีกครั้งจริงๆ กระมัง สกปรกจะตาย…
“อย่านะ!” กู้เจี้ยนหลีรีบร้อนซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง
อ้อ ที่แท้ก็คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะตั้งครรภ์นี่เอง
จีอู๋จิ้งแสร้งทำท่าทางเสียดายพลางถาม “ไม่ลองทำลูกแฝดจริงหรือ”
กู้เจี้ยนหลีส่ายหน้าอย่างแรง มือที่ไพล่ไว้ด้านหลังถูไถไปกับเนื้อผ้าของชุดที่สวมใส่เล็กน้อย เพียงแค่คิดถึงประสบการณ์ยามทำลูกในคืนนั้น นางก็รู้สึกว่าฝ่ามือสกปรกยิ่งนัก
“ก็ได้” จีอู๋จิ้งลูบศีรษะนางเบาๆ “เช่นนั้นก็ผูกให้อาเสีย”
กู้เจี้ยนหลีมองชายหนุ่มอย่างสงสัย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งมือที่ซ่อนไว้ข้างหลังจึงค่อยๆ ยื่นออกมาด้านหน้าเพื่อผูกสายรัดเอวที่หลุดลุ่ยของจีอู๋จิ้งด้วยท่าทางระมัดระวัง หลบเลี่ยงไม่ให้สัมผัสโดนสิ่งที่ไม่ควรสัมผัส
จีอู๋จิ้งมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของกู้เจี้ยนหลีนิ่งๆ อยู่นาน ไม่ว่าจะมองจากมุมใดนางล้วนงดงาม แทบจะกล่าวได้ว่าไร้ที่ติ
“เรียบร้อยแล้ว” นางถอนมือออกแล้วค่อยๆ หดกลับไปซ่อนข้างหลังใหม่ มือทั้งสองกุมกันอยู่อย่างนั้น
กู้เจี้ยนหลีเคยได้ยินหญิงรับใช้สูงวัยพูดโดยบังเอิญว่าขณะที่ตั้งครรภ์อยู่ไม่อาจทำเรื่องอย่างว่าได้ พอคิดเช่นนี้แล้วหมายความว่าต่อไปอีกหนึ่งปีนางก็จะไม่ต้องหวาดกลัวหัวหด ยิ่งไม่ต้องกังวลว่าจะต้องถูกจีอู๋จิ้งทำให้เปรอะเปื้อนอีก ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี
นางตบแต่งเข้ามายามที่ตกอยู่ในสถานการณ์พิเศษจึงไม่มีใครสอนมาก่อนว่าขั้นตอนการเข้าหอเป็นอย่างไรกันแน่ และเพราะใช้ชีวิตอยู่ในกรอบของธรรมเนียมอันเคร่งครัด นางจึงไม่ได้ศึกษาเรื่องอื่นจนกระจ่างแจ้ง สองสามเดือนก่อนไม่ง่ายเลยกว่านางจะขอตำราภาพวังวสันต์จากพี่สาวเพื่อมาลองเรียนรู้ดู เพิ่งอ่านไปได้เพียงสองหน้าก็ถูกจีอู๋จิ้งแย่งไปแล้ว…
“กู้เจี้ยนหลี” จีอู๋จิ้งเอ่ยเรียก
“หือ?” นางหันไปมอง ประสานสายตาเข้ากับอีกฝ่าย
ผ่านไปครู่ใหญ่วงแขนของจีอู๋จิ้งค่อยโอบรอบเอวสวมกอดกู้เจี้ยนหลีไว้ จากนั้นก็โน้มลงแนบหูกับหน้าท้องของนาง หญิงสาวรู้สึกไม่คุ้นชินนักจึงอยากถอยหลบ ทว่าแผ่นหลังกลับถูกวงแขนของอีกฝ่ายยึดไว้แน่น
“อย่าขยับ” จีอู๋จิ้งกล่าว
กู้เจี้ยนหลีไม่ขยับดังคำเขา ทว่าถามขึ้นอย่างงุนงง “ไม่น่าจะได้ยินสิ่งใดใช่หรือไม่”
จีอู๋จิ้งฟังอยู่นานราวกับได้ยินเสียงเด็กดิ้นอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นค่อยกลับมาเหยียดหลังตรง สายตายามมองกู้เจี้ยนหลีแปลกประหลาดอยู่บ้าง เป็นแววตาที่นางไม่ค่อยเข้าใจนัก
“กู้เจี้ยนหลี คลอดลูกเจ็บมาก” เขากล่าว
กู้เจี้ยนหลีมุ่นคิ้ว เครื่องหน้างดงามเริ่มจะยับย่น
จีอู๋จิ้งงอนิ้วชี้เล็กน้อยก่อนไล้ไปตามหว่างคิ้วขมวดมุ่นของนาง เอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าใกล้จะตายอยู่แล้ว จะมามีลูกให้ข้าด้วยเหตุใด”
กู้เจี้ยนหลีโต้กลับอย่างดื้อรั้น “จะมีลูกให้ท่านด้วยเหตุใด นี่ก็เป็นลูกข้าเหมือนกัน”
“อืม” จีอู๋จิ้งรับคำอย่างเชื่องช้าพลางดึงมือขาวนุ่มนิ่มของกู้เจี้ยนหลีมาวางบนฝ่ามือตนเองแล้วบีบเล่นอย่างสนอกสนใจ “ทว่าหากข้าตายแล้วเด็กก็ไม่มีพ่อ จะถูกรังแกได้”
“ข้าจะปกป้องเอง จะไม่ให้ใครมารังแกเขา” กู้เจี้ยนหลีกล่าวอย่างจริงจัง
จีอู๋จิ้งยังพูดต่อไม่เร็วไม่ช้า “แต่หากเจ้ามีลูกติดแล้วตบแต่งให้กับผู้อื่น ตระกูลสามีใหม่ของเจ้าย่อมไม่มีทางยอมให้เจ้าเก็บลูกไว้ข้างกาย ต่อให้ยอมก็จะทุบตีด่าว่าเขา”
กู้เจี้ยนหลีลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนก้มลงมองหน้าท้องแบนราบของตนเองแล้วกล่าวขึ้น “หากไม่มีใครยอมรับเขา ข้าก็จะเรียนทำการค้าเลี้ยงดูเขาด้วยตนเอง ไม่แต่งงานใหม่แล้ว”
จีอู๋จิ้งเหลือบตามองกู้เจี้ยนหลี ค่อยๆ มองลึกลงไปในแววตาจริงใจของนาง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“ท่านหัวเราะอะไร” กู้เจี้ยนหลีถาม
จีอู๋จิ้งไม่ตอบคำ เขาเพียงบีบนิ้วเรียวของหญิงสาวค้างไว้แล้วดึงมือนางมาหยุดอยู่ตรงริมฝีปาก มือนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ บอกไม่ถูกว่าเป็นกลิ่นอะไร แต่กลับทำให้รู้สึกว่าหอมนัก จีอู๋จิ้งจุมพิตที่หลังมือแล้วใช้ลิ้นอุ่นไล้เลียก่อนจะจบลงที่ขบกัดด้วยแรงไม่มากนัก
กู้เจี้ยนหลีมองเขานิ่งๆ ไม่ได้หลบเลี่ยง ในใจนางลอบคาดเดาอารมณ์ของเขา หรือเขารู้สึกเศร้าที่ตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ยืนยาวกัน?
จีอู๋จิ้งปล่อยมือ กลับมามีรอยยิ้มแต่งแต้มใบหน้าในที่สุด ก่อนจะเคาะหน้าผากหญิงสาวเบาๆ พลางกล่าวว่า “ยังไม่แน่ว่าจะตั้งครรภ์จริงๆ พรุ่งนี้จะให้หมอมาจับชีพจรให้เจ้า”
“ได้” กู้เจี้ยนหลีพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟังก่อนก้มลงมองหน้าท้องของตนเอง
จีอู๋จิ้งใช้ท้องนิ้วลูบปลายคางอย่างหมดคำจะพูดอยู่บ้าง จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วช้อนร่างนางขึ้นอุ้ม พาไปส่งที่เตียงพลางเอ่ยวาจาที่ขัดกับความรู้สึกตนเองด้วยท่าทีราวกับกล่อมเด็ก
“ช่วงนี้ฮูหยินน้อยของข้าต้องบำรุงครรภ์ให้ดีจึงจะใช้ได้”
กู้เจี้ยนหลีนอนลงบนเตียงอย่างเรียบร้อย พยักหน้ารับอย่างจริงจัง “อื้ม!”