บทที่ 18 เรื่องคารวะ
เมิ่งอี๋เหนียงหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
ความหมายของคำพูดเจียงชิงหว่านนี้ชัดเจนว่ากำลังเตือนว่านางก็เป็นเพียงอนุภรรยาผู้หนึ่งเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเจียง
ในใจเมิ่งอี๋เหนียงรู้สึกไม่ดีอย่างยิ่ง
นางย่อมรู้เรื่องที่อนุภรรยาไม่มีสิทธิ์ไปเข้าคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเจียง แต่เมื่อก่อนตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงกับเหยาซื่อยังไม่มา ล้วนเป็นซุนอี๋เหนียงกับโจวอี๋เหนียงมาคารวะนางทุกวัน นางเองก็ไม่ต้องไปคารวะผู้ใด ทว่าบัดนี้นางถึงกับต้องมาคารวะเหยาซื่อ แม้แต่สิทธิ์ไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเจียงก็ยังไม่มี
แต่ต่อให้ในใจนางรู้สึกไม่ดีเพียงไร ก็ไม่มีหนทางจะโต้แย้งคำพูดของเจียงชิงหว่าน
เหยาซื่อนั้นช่างเถอะ ด้วยความรักใคร่โปรดปรานจากเจียงเทียนโย่ว นางไม่มีสิ่งใดให้ต้องกลัว หากแต่ฮูหยินผู้เฒ่าเจียง…
เมิ่งอี๋เหนียงได้แต่สั่งให้แม่นมอุ้มคุณชายตามนายหญิงไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเจียงดีๆ แต่ที่สุดแล้วก็ไม่วางใจ จึงยังเรียกให้สาวใช้อีกคนหนึ่งตามไปกับแม่นม บอกให้นางดูแลคุณชายดีๆ จากนั้นถึงกล่าวลาเหยาซื่อ หันหลังเดินออกประตูไปพร้อมกับซุนอี๋เหนียงและโจวอี๋เหนียง
ทว่าอย่างไรในใจเมิ่งอี๋เหนียงก็ไม่พอใจยิ่ง ดังนั้นหลังออกมาแล้วจึงเดินดุ่มๆ ไปข้างหน้าโดยไม่สนใจซุนอี๋เหนียงและโจวอี๋เหนียง
ซุนอี๋เหนียงกับโจวอี๋เหนียงย่อมไม่กล้าพูดอะไร แม้พวกนางสองคนจะต่างให้กำเนิดบุตรสาวทั้งคู่ แต่ตอนนี้คนทั้งสองต่างค่อยๆ อายุมากขึ้น ไม่ได้รับความโปรดปรานจากเจียงเทียนโย่วสักเท่าไร มีหรือจะเทียบกับเมิ่งอี๋เหนียงได้ ทำได้เพียงใช้ชีวิตไปอย่างเรียบร้อยซื่อตรงเท่านั้น
ขณะเมิ่งอี๋เหนียงเดินมาได้ครึ่งทางก็นึกขึ้นได้ว่าเจียงชิงอวี้ยังไม่ได้มา ด้วยห่วงว่านางตื่นสายจะถูกฮูหยินผู้เฒ่าเจียงทำโทษ จึงรีบบอกให้ฮุ่ยเซียงไปเรือนจิ่นอวิ๋นเพื่อเร่งเจียงชิงอวี้ไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเจียงยังเรือนซงเฮ่อ
วันนี้เจียงชิงอวี้ตื่นสายจริงๆ
แม้รุ่ยเซียงจะมาเร่งให้นางลุกจากเตียงตั้งแต่เช้า บอกว่าต้องไปคารวะนายหญิงและฮูหยินผู้เฒ่าเจียง แต่เจียงชิงอวี้เห็นท้องฟ้าข้างนอกยังไม่สว่าง อีกทั้งเมื่อก่อนนางก็ไม่เคยตื่นเช้าไปคารวะผู้ใดมาก่อนจึงไม่แยแสการเร่งเร้าของรุ่ยเซียงโดยสิ้นเชิง พอฝ่ายหลังเร่งหนักเข้าก็ยังคว้าหมอนมาปาใส่ก่อนด่านางเสียงดังลั่นด้วยความไม่พอใจ
รุ่ยเซียงหมดปัญญา ทำได้เพียงเงียบแล้วยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก
จากนั้นนางก็เห็นฮุ่ยเซียงรีบร้อนเดินมา ครั้นเห็นบรรดาสาวใช้ล้วนยืนอยู่นอกห้องก็ถามว่า “คุณหนูรองยังไม่ตื่นอีกหรือ นายหญิงพาพวกคุณหนูใหญ่ คุณหนูสาม คุณหนูสี่ และคุณชายสี่ไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเจียงที่เรือนซงเฮ่อแล้ว อี๋เหนียงเห็นคุณหนูรองยังไม่ได้ไปจึงใช้ให้ข้ามาเร่ง”
รุ่ยเซียงจึงเล่าเรื่องที่เกิดเมื่อครู่ให้ฟังอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด “ข้าไม่กล้าไปปลุกคุณหนูรองแล้ว เจ้าเข้าไปปลุกดูสิ”
ในใจยังคิดอย่างคับข้องด้วยว่า…เจ้านายน้อยที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงเช่นนี้ ไฉนอี๋เหนียงต้องให้ข้ามาคอยปรนนิบัติด้วย ข้าไม่อยากอยู่รับใช้ที่นี่จริงๆ