เจียงเทียนโย่วรักบุตรสาวผู้นี้ปานดวงใจ นางร้องขอเสียงอ่อยเช่นนี้ เขาก็โบกมือในทันที “ในเมื่ออวี้เจี่ยชอบก็ให้นางไปหมดนั่นเถอะ ส่วนที่นี่เลือกของในห้องเก็บของมาวางสักสองสามชิ้นก็หมดเรื่องแล้ว”
เขาพูดถึงขั้นนี้แล้ว เมิ่งอี๋เหนียงจึงตอบรับไปอย่างคล้อยตาม ทว่ายังคงกล่าวยิ้มๆ ว่า “นายท่านไม่ควรตามใจอวี้เจี่ยเยี่ยงนี้ไปตลอดนะเจ้าคะ ถ้าปล่อยให้นางกระทำตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวกฎระเบียบ วันหน้าเจอคนที่ไม่ตามใจนางขึ้นมา นางจะทำอย่างไร เกรงว่าคงจะทนไม่ไหว”
นี่คือเท่ากับฟ้องเจียงเทียนโย่วไว้ล่วงหน้าแล้ว อย่างไรเมิ่งอี๋เหนียงก็ไม่รู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจียงจะชอบเจียงชิงอวี้ที่เป็นหลานสาวหรือไม่
ทว่าเจียงเทียนโย่วไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเมิ่งอี๋เหนียงโดยสิ้นเชิง จึงพูดอย่างเปิดเผยไม่คิดมาก “บุตรสาวของข้า ข้ายินดีจะตามใจเยี่ยงนี้ไปตลอด วันหน้ายังจะหาสามีดีๆ ให้นางด้วย ใครกล้าไม่ตามใจนาง ข้าก็จะหยิบแส้ไปเยือนถึงที่”
ฟังดูเป็นบิดาที่ดีจริงๆ
เมิ่งอี๋เหนียงยิ้มน้อยๆ ก่อนเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นกับเขา
“วันนี้ผู้น้อยได้ยินคนที่หัวหน้าองครักษ์ส่งมารายงานว่าพวกฮูหยินผู้เฒ่าจะมาถึงเมืองหลวงในอีกสองวัน ผู้น้อยนับวันดูแล้ว วันนั้นตรงกับวันหยุดของนายท่านพอดี ฮูหยินผู้เฒ่ามาเมืองหลวงเป็นครั้งแรก ท่านเองก็ไม่ได้พบนางนานหลายปี ตามความเห็นของผู้น้อย พอถึงวันนั้นท่านออกไปต้อนรับฮูหยินผู้เฒ่าที่นอกเมืองด้วยตนเองเป็นอย่างไรเจ้าคะ ส่วนผู้น้อยจะพาหญิงรับใช้ทั้งเด็กทั้งชราในจวนไปรอต้อนรับฮูหยินผู้เฒ่า นายหญิง และคุณหนูสามอยู่ตรงกำแพงกั้นที่เรือนส่วนหน้า”
พูดถึงตรงนี้ นางก็พลันทำท่าทางไม่สบายใจออกมา “ผู้น้อยทราบว่าในใจฮูหยินผู้เฒ่านึกตำหนิผู้น้อยมาตลอด ไม่รู้ว่าจะยินดีเห็นผู้น้อยอีกครั้งหรือไม่ ตอนที่ผิงเกอสิ้นใจ อย่างไรผู้น้อยก็ไม่ควรตามนายท่านกลับไปด้วยเลย กลายเป็นว่าทำให้ฮูหยินผู้เฒ่ากับนายหญิงคิดว่าผู้น้อยหมายปองฐานะภรรยาอีกคน อันที่จริงขอเพียงได้อยู่ด้วยกันกับนายท่าน ไม่ว่าในฐานะใดผู้น้อยก็ไม่ถือสา แม้เป็นเพียงสาวใช้ ผู้น้อยก็จะไม่ตัดพ้อสักครึ่งคำ”
เดิมทีเจียงเทียนโย่วก็เป็นนักรบ ในใจไม่มีความคิดลดเลี้ยวมากมายเพียงนั้น อีกทั้งเนื่องจากพี่ชายของเมิ่งอี๋เหนียงตายเพราะช่วยเขาไว้ ในใจเขาจึงรู้สึกละอายต่อนางตลอดมา รู้สึกว่าติดค้างนางมากมายนัก ตอนนี้ได้ยินนางพูดเช่นนี้ เขาก็กุมมือนางไว้พลางพูดเสียงอ่อนโยน “เรื่องในตอนนั้นจะตำหนิเจ้าได้อย่างไร เรื่องของผิงเกอพูดได้เพียงว่าเป็นชะตาของเขา เจ้าไม่ต้องโทษตนเองหรอก”
ในตอนนั้นเมิ่งอี๋เหนียงตั้งครรภ์ เจียงเทียนโย่วอยากมอบฐานะให้แก่นาง จึงพานางกลับไปบ้านเกิดเพื่อเรียนเรื่องนี้ต่อฮูหยินผู้เฒ่าเจียง เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่าเจียงรับเมิ่งอี๋เหนียงเป็นบุตรสาวบุญธรรมอยู่ก่อนแล้ว เจียงเทียนโย่วจึงนับเป็นพี่ชายบุญธรรมของนาง ดังนั้นเมื่อทั้งสองคบหากันกะทันหัน ซ้ำเมิ่งอี๋เหนียงก็มีครรภ์แล้ว นี่นับว่ามีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงจึงโมโหมาก บริภาษเจียงเทียนโย่วที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าตนอย่างหนัก ถึงขั้นปาถ้วยชาแตกไปใบหนึ่ง ทำให้เจียงฉางผิงที่หลับอยู่ในห้องติดกันสะดุ้งตื่น