มุมปากหลวนอวิ๋นชูยกขึ้น ประหนึ่งมีบัวหิมะงดงามเยียบเย็นผลิบานออกมาดอกหนึ่ง เพื่อเป้าหมายที่ยาวไกล นางต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำ สามารถใช้ประโยชน์จากผู้นำสูงสุดของบ้านอย่างสองคนนี้ย่อมดีที่สุด
“เจ้าค่ะ คืนนี้บ่าวจะทำเพิ่มอีก ทำให้นายท่านกับนายหญิงใหญ่อีกคนละสองคู่” คิดได้แล้วฝูหรงก็กระตือรือร้นขึ้นมา เงยหน้าขึ้นมองหลวนอวิ๋นชูด้วยดวงตาเป็นประกาย “ฝีมือวาดภาพของสะใภ้สี่ดี ท่านช่วยวาดลวดลายให้สักหลายภาพได้หรือไม่เจ้าคะ จะได้เอามาลอกแบบทำเป็นหน้ารองเท้า”
เช่นนี้นายหญิงใหญ่จะได้นึกถึงความจริงใจและความกตัญญูกตเวทีของหลวนอวิ๋นชูมากขึ้น วันหน้าจะได้ดีต่อนางมากอีกสักหน่อย
หลวนอวิ๋นชูเพียงยิ้มน้อยๆ ร่างเอนพิงไปข้างหลัง ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ไฉนจึงบอกว่าข้ากับคุณหนูสามสนิทสนมกันที่สุด ข้าดูอย่างไรก็ไม่คล้าย”
คงไม่ใช่มาตรฐานของ ‘ความสนิทสนม’ ในสมัยโบราณแตกต่างจากสมัยปัจจุบันกระมัง ต่งซูที่พอเจอหน้าก็ด่านางว่าเป็นตัวอัปมงคล ดาวหายนะ ถึงกับเป็นสหายรู้ใจที่สนิทสนมที่สุดของนางเชียว!
“คุณหนูสามชื่นชอบบทกวี เลื่อมใสศรัทธาท่านเป็นที่สุด มีความลับส่วนตัวอะไรก็พูดกับท่าน ทุกครั้งที่ท่านมาก็รบเร้าจะนอนเตียงเดียวกับท่าน นายหญิงใหญ่ยังชอบหยอกล้อพวกท่าน บอกนางไม่ต้องแต่งออกไปแล้ว รอท่านแต่งเข้ามา พวกท่านพี่สะใภ้น้องสามีก็เขียนกลอนท่องบทกวีอยู่ด้วยกันทุกวันตลอดไปก็แล้วกัน” ชั่วพริบตาเดียวฝูหรงก็ลืมข้อเสนอเมื่อครู่ ทุบขาให้หลวนอวิ๋นชูต่อ “ก็ไม่ทราบเพราะเหตุใด ราวเดือนกว่าก่อนหน้านี้ จู่ๆ คุณหนูสามก็พูดจาร้ายกาจขึ้นมา นับแต่นั้นก็ปฏิบัติต่อท่านราวกับเป็นศัตรูคู่แค้นเสียอย่างนั้น”
“เรื่องนี้ยังต้องพูดด้วยหรือเจ้าคะ ย่อมเป็นเพราะเรื่องที่ฝ่าบาทพระราชทานสมรส คุณชายสวินผู้นั้นกับคุณชายเจียง ยังมีคนในจวนของเราผู้นั้นอีกคน” ชูนิ้วมือขึ้นมาสามนิ้ว ก่อนสี่จวี๋จะชี้ไปยังทิศทางของเรือนชิ่นย่วน “ต่างขึ้นชื่อเรื่องดื่มกินการพนันเที่ยวผู้หญิง ถูกแอบขนานนามว่าสามเสเพลแห่งเมืองหลวนเฉิง”
“อืม ก็ประมาณนั้น” มือที่เคลื่อนไหวหยุดนิ่งลงด้วยจิตใต้สำนึก ฝูหรงครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้วพยักหน้าหงึกหงัก “ก่อนหน้านี้ราวเดือนกว่า คุณหนูสามเจอกับคุณชายสวินที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน หลังจากถูกนายหญิงใหญ่ทำโทษแล้ว ต่อมาเรื่องก็กลายเป็นเช่นนี้”
“พวกท่านไม่รู้อะไร” สี่จวี๋ค้อมตัวลงมาพูดด้วยท่าทางลึกลับ “ได้ยินว่าในบ้านคุณชายสวินมีอนุอยู่แล้วถึงสี่นาง มีบุตรสาวสามคน ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันอนุคนที่โปรดปรานมากที่สุดก็คลอดบุตรชายมาหนึ่งคน จวนแม่ทัพจัดโต๊ะเลี้ยงฉลองใหญ่โต ด้วยเรื่องเหล่านี้คุณหนูสามของเราจะไม่โวยวายได้หรือ พวกท่านไม่เห็น หลายวันนั้นคุณหนูสามอาละวาดหนักเพียงใด นายหญิงใหญ่ตกใจจนเพิ่มหญิงรับใช้สูงวัยไว้ในเรือนหลันฟางอีกไม่น้อย ทุกวันต้องผลัดเปลี่ยนกันจับตาดู กลัวมากว่านางจะคิดสั้น”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ หลวนอวิ๋นชูพยักหน้าอย่างรู้แจ้งชัดเจน มีอนุอยู่เป็นฝูงไม่พูดถึง เวลานี้กระทั่งบุตรชายคนโตที่เกิดจากอนุก็คลอดออกมาแล้ว ไม่ว่าใครถูกกำหนดให้ไปอยู่ในครอบครัวเช่นนี้ย่อมดีใจไม่ออก เพียงแต่หลวนอวิ๋นชูคิดจนหัวแทบแตกก็ไม่เข้าใจ ต่งซูเจอคนไม่ดีเกี่ยวอะไรกับนาง นางเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องเป็นม่าย หรือต่งซูคิดนางว่ายังโชคดีกว่า
เห็นหลวนอวิ๋นชูหัวคิ้วขมวดมุ่น สี่จวี๋จึงเอ่ยปลอบเบาๆ
“นางอารมณ์ไม่ดี ไม่ว่ากับใครก็ดุร้ายด้วยหมด รอให้ผ่านช่วงนี้ไปแล้วก็จะดีขึ้นเจ้าค่ะ สะใภ้สี่อย่าได้ไปถือสานางเลย ท่านไม่เห็นสะใภ้ใหญ่หรือ ยังยอมอ่อนข้อให้นางไปเสียทุกอย่าง นายหญิงใหญ่ก็เหลือนางที่เป็นบุตรสาวแท้ๆ อยู่เพียงคนเดียวแล้ว”