บทที่สิบ
“พวกเราไม่ได้ทำเรื่องผิดบาปอะไร วันนี้ท่านน่าจะโต้กลับสะใภ้สามให้หนักๆ” เห็นหลวนอวิ๋นชูขึ้นไปบนเตียงเตาแล้ว ฝูหรงก็หยิบหมอนอิงใบใหญ่มาให้นางพิงหลัง “ไม่อาจเอาแต่ปล่อยให้พวกนางข่มเหงเช่นนี้”
“มีอะไรต้องโมโห” หลวนอวิ๋นชูเอนพิงไปข้างหลัง หาตำแหน่งที่สบาย “สุนัขกัดคนทีหนึ่ง คนยังจะกัดสุนัขตอบกลับไปได้หรือ”
สี่จวี๋งงงัน “นั่นไยมิใช่ขนเต็มปากหรือเจ้าคะ” ก่อนหัวเราะเบาๆ “จะต้องเป็นเพราะเมื่อวานคุณชายสามถูกผีหลอก บังเอิญท่านก็ไปที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยนมา นางไม่รู้ไปฟังใครยุแยงมา ถึงได้พุ่งเป้ามาที่ท่าน” สี่จวี๋หมุนตัวไปรินน้ำชาถ้วยหนึ่ง ยกมาที่ข้างเตียงเตา “ตนเองคุมคุณชายสามไม่อยู่ รู้จักแต่หาเรื่องคนอื่น แม้แต่นายหญิงใหญ่ก็ไม่พอใจนาง ถ้าไม่ใช่นายท่านพึ่งพากำลังเงินของคฤหาสน์สกุลพานไปเสียทุกเรื่อง ด้วยความประพฤติและคุณธรรมของนาง คงถูกหย่าไปนานแล้วเจ้าค่ะ”
รู้ว่าตนเองพลั้งปากเสียงของสี่จวี๋พลันหยุดชะงัก นางตรวจดูระดับความร้อนของน้ำชา แล้วยื่นส่งให้หลวนอวิ๋นชู
“อุ่นกำลังดีเจ้าค่ะ”
เอ่ยถึงเรื่องต่งเหรินตกน้ำ ฝูหรงมีความลับในใจที่ไม่อาจบอกคนอื่นได้ ได้แต่ทุบขาให้หลวนอวิ๋นชูเงียบๆ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา
“อืม” จิบน้ำชาไปคำหนึ่ง หลวนอวิ๋นชูผงกศีรษะด้วยความพอใจ “กลิ่นหอมกรุ่น รสชาติเข้มข้นนุ่มนวล”
“นี่เป็นชาหลงจิ่งชั้นเลิศที่บ่าวเสาะหามาจากเรือนนายหญิงใหญ่โดยเฉพาะ เป็นใบชาหลวงที่ฝ่าบาทพระราชทานมาให้ ดีกว่าใบชาปี้หลัวชุนมากนัก” แล้วเอ่ยเสริมอีกคำ “ใครอยากดื่มชาปี้หลัวชุนกัน!”
สี่จวี๋ยังคงขุ่นเคืองใจที่เหยาหลันไม่ได้เชิญหลวนอวิ๋นชูไปดื่มชาปี้หลัวชุน
ฝูหรงก็หัวเราะเบาๆ
“หือ?” เห็นบนเตียงเตามีแผ่นผ้าเรียบแบนเกลี้ยงเกลาชิ้นหนึ่งซึ่งทำจากผ้าฝ้ายติดกันหลายชั้นวางอยู่ หลวนอวิ๋นชูหยิบขึ้นมาด้วยความอยากรู้ “นี่คืออะไรหรือ”
“นี่ใช้สำหรับทำพื้นรองเท้า เตียงในห้องบ่าวไม่ร้อน จึงเอาออกมาอบที่นี่เจ้าค่ะ” ฝูหรงมองหลวนอวิ๋นชูด้วยความแปลกใจ ใบหน้ามีแววกังวล “สะใภ้สี่ แม้แต่ของสิ่งนี้ก็…ต้องทดสอบบ่าว”
คงไม่ใช่กระทั่งสิ่งเหล่านี้นางก็ลืมไปแล้วกระมัง อยู่ต่อหน้าสี่จวี๋ ฝูหรงไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา
“อ้อ…”
ชาติที่แล้วหลวนอวิ๋นชูยังไม่เคยเห็นของสิ่งนี้จึงพยักหน้า มุมปากอมยิ้มน้อยๆ
“แผ่นผ้าหนาขนาดนี้ยังทำให้เรียบเสมอกันได้เพียงนี้” สี่จวี๋รับแผ่นผ้ามากดๆ ดูก่อนเอ่ยชื่นชม “ฝูหรงฝีมือดียิ่ง”
“นี่ใช้ผ้าเก้าชั้น พื้นรองเท้าผ้าด้ายดิบที่ในจวนส่งมาให้บางเกินไป สะใภ้สี่ร่างกายอ่อนแอ กลัวความเย็น ข้าถึงได้ทำขึ้นเป็นพิเศษ” ยากนักที่สี่จวี๋จะเอ่ยชมนาง ฝูหรงยิ้มแย้มหน้าบาน “ทั้งหมดนี้สะใภ้สี่เป็นคนสอน รองเท้าคู่หนึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดคือพื้นรองเท้า สะใภ้สี่บอก แป้งเปียกต้องเหนียวกำลังเหมาะ ไม่อาจเหลวเกินไปและไม่อาจแข็งเกินไป หาไม่ตอนเย็บขึ้นมาจะยุ่งยากสิ้นเปลืองกำลัง”
ฝูหรงพูดเจื้อยแจ้ว ท่าทางเต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาสะใภ้สี่ของนางอย่างที่สุด