คนขายแตงไม่เคยบอกว่าแตงขมหลวนอวิ๋นชูมองหลี่หวาแวบหนึ่ง แม้จะสัมผัสได้ถึงความจริงใจในดวงตาของอีกฝ่าย นางกลับไม่ได้เห็นเป็นจริงเป็นจัง เพียงยิ้มน้อยๆ แล้วบอก
“หลี่มามาชมเกินไปแล้ว คนที่เจ้าพามา ข้าเห็นแล้วดีทุกคน แต่ละคนล้วนยอดเยี่ยม เพียงแต่ข้าใช้คนมากเพียงนี้ไม่ไหว จำต้องตัดใจคัดออกไปจำนวนหนึ่ง”
คำพูดนี้ออกจะไม่เป็นจริง แต่หลี่หวายังคงรู้สึกดีใจ อย่างน้อยคำพูดนี้แสดงให้เห็นว่าหลวนอวิ๋นชูผู้มีสายตาสูงส่งยอมรับในตัวนางแล้ว
“คัดเลือกขั้นแรกออกมาได้แล้ว ก้าวต่อไป…สะใภ้สี่คิดจะ…”
พูดแล้วหลี่หวาก็หยุดปาก ในรอยยิ้มมีความตื่นเต้นจางๆ ผุดขึ้นมา ในใจของนางก็คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าก้าวต่อไปหลวนอวิ๋นชูจะจัดการเช่นไร
หลวนอวิ๋นชูยิ้มน้อยๆ หันไปกล่าวกับฝูหรงและสี่จวี๋
“ข้าร่อนตะแกรงใหญ่แล้ว ต่อไปก็มอบให้พวกเจ้าออกหัวข้อทดสอบ”
ให้พวกนางออกหัวข้อทดสอบ?
มีหน้ามีตาเพียงไรไม่พูดถึง บ่าวไพร่ที่ได้รับเลือกครั้งนี้ต่อไปย่อมเห็นตนเป็นอาจารย์ เชื่อฟังถ้อยคำของตน ได้ยินคำพูดนี้แล้ว หัวคิ้วหางตาของสี่จวี๋ล้วนแย้มยิ้ม มองไปที่หลวนอวิ๋นชูด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ คิดจะยืนยันว่าคำพูดนี้มีความจริงอยู่กี่ส่วน
ฝูหรงกลับรู้สึกว่าออกจะไม่เหมาะสม บอกอย่างลังเล
“สะใภ้สี่ นี่…”
“เจ้าแค่ลงมือทำไปก็พอ” หลวนอวิ๋นชูโบกมือให้ฝูหรง ตัดบทนาง “คนเหล่านี้เลือกกลับไปแล้วเจ้าก็ต้องเป็นคนฝึกอบรม ต่อไปสาวใช้ในเรือนลู่ย่วนตั้งแต่ขั้นหนึ่งลงมา เจ้าต้องเป็นคนจัดการ ถ้าทำงานได้ไม่เหมาะสมเรียบร้อย ข้าก็เพียงลงโทษเจ้า ตอนนี้ก็ต้องดูสายตาในการมองคนของเจ้าแล้ว”
สี่จวี๋ที่ตื่นเต้นกับฝูหรงที่จิตใจสับสนวุ่นวายต่างไม่ได้ตั้งใจฟังว่าที่หลวนอวิ๋นชูพูดเป็น ‘เจ้า’ ไม่ใช่ ‘พวกเจ้า’ แต่เด็กสาวที่รอให้เลือกกลับได้ยินอย่างชัดเจน สายตาที่มองฝูหรงจึงแตกต่างไปบ้าง
วิธีการยอดเยี่ยม!
หลี่หวาแอบยกนิ้วหัวแม่มือให้ เพียงควบคุมคนสนิทไม่กี่คน แล้วให้พวกเขาไปบังคับควบคุมคนที่อยู่ใต้ล่างอีกที บังคับควบคุมกันเป็นขั้นๆ เช่นนี้ ทุกคนต่างทำงานตามหน้าที่ของตน ผู้เป็นนายก็ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย คนใต้ล่างทำความผิด หัวหน้าเบื้องบนแต่ละขั้นก็ถูกลงโทษ
เวลาปฏิบัติจริงขึ้นมาเมื่อเจอปัญหาย่อมไม่มีใครกล้าปัดความรับผิดชอบ คนเหล่านี้พอถูกลงโทษแล้วก็ต้องพยายามบังคับควบคุมคนใต้ล่างอย่างเต็มที่…
ไม่เพียงหลี่หวา แม้แต่พ่อบ้านเฮ่อก็อดไม่ได้ที่จะผงกศีรษะติดๆ กัน สายตาที่เคยมองหลวนอวิ๋นชูอย่างคนไม่รู้อะไรลดน้อยไปหลายส่วน
ฝูหรงกับสี่จวี๋ปรึกษาหารือกันเบาๆ อยู่ครู่หนึ่ง สี่จวี๋ก็เงยหน้าขึ้นร้องเรียก
“สะใภ้สี่…”
“ไม่ต้องรายงานข้า พวกเจ้าปรึกษากันเสร็จแล้วก็ลงมือทำได้เลย”
“เจ้าค่ะ”
รับคำอย่างว่องไว สี่จวี๋ก็ร่วมกันกับฝูหรงสั่งให้คนเอาชุดน้ำชามาหลายชุด แล้วยกโต๊ะสี่เหลี่ยมเข้ามา เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็มาที่ด้านล่างด้วยกัน ฝูหรงเป็นคนออกคำสั่งก่อน ให้ทุกคนเปลี่ยนท่าทาง แล้วเดินไปมาสองสามรอบเพื่อดูรูปร่างอากัปกิริยา ดูหน้าตา จากนั้นก็ทดสอบมารยาทต่างๆ การยกน้ำชา การทักทายทำความเคารพ การต้อนรับและส่งแขก การโต้ตอบ จากนั้นก็ซักถามธรรมเนียมปฏิบัติบางอย่างในชีวิตประจำวัน หลังจากทดสอบผ่านไปรอบหนึ่งก็คัดคนที่ทำได้ไม่ดี ไม่ละเอียดรอบคอบ ตอบคำถามไม่ได้ออกไป เป็นเด็กสาวสามคน หญิงสูงวัยสองคน แล้วรายงานขึ้นมา หลวนอวิ๋นชูเพียงกวาดตามองแวบเดียวก็โบกมือให้ออกไป