“แม่นางสี่จวี๋กล่าวได้ถูกต้อง ฝีมือเย็บปักถักร้อยของสะใภ้สี่ในเมืองหลวนเฉิงยากจะหาใครเทียม วันนี้ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ต้องวิจารณ์ด้วยตนเอง” วางถ้วยชาที่เพิ่งยกขึ้นมาลง หลี่หวามองหลวนอวิ๋นชูอย่างกระตือรือร้น “ท่านไม่รู้อะไร สาวๆ เหล่านี้พอได้ยินว่าท่านจะคัดเลือกสาวใช้ ต่างก็ตื่นเต้นราวกับอะไร งานปักที่เตรียมไว้แต่เดิมก็รู้สึกยังไม่พอใจ นอนไม่หลับลุกขึ้นมาขบคิดหาลวดลายใหม่ เพียงเฝ้ารอช่วงเวลานี้ สามารถได้รับการพยักหน้ายอมรับจากท่าน…” แล้วบอก “สะใภ้สี่ไม่รู้ คำวิจารณ์เพียงคำเดียวของท่าน เพียงพอให้พวกนางใช้ประโยชน์ไปชั่วชีวิตแล้ว”
คำพูดเพียงคำเดียวของหลี่หวาก็ประคองหลวนอวิ๋นชูขึ้นไปอยู่บนยอดเมฆแล้ว ภายในห้องโถงมีเสียงชื่นชมด้วยความเลื่อมใสดังขึ้นมาทันที ในหูของหลวนอวิ๋นชูมีเสียงดังอึงอล เสื้อแนบติดแผ่นหลัง คนเหล่านี้ไหนเลยจะรู้ นางทำงานเย็บปักถักร้อยไม่เป็นเลย จะให้นางแสดงความเห็นยังไม่สู้ให้นางกลับไปนอน
ทำอย่างไรดี
ความคิดหมุนไปอย่างเร็วรี่ หลวนอวิ๋นชูมองหลี่หวาแล้วยิ้มน้อยๆ
หลี่หวาเริ่มรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา
ความคิดของหลวนอวิ๋นชูตนมองไม่ออกแม้แต่น้อย ด้วยเคยเห็นงานฝีมือของนางมาก่อน ตนจึงกล้าสรรเสริญเยินยอเช่นนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงตัวลอย ชิงโอ้อวดตัวไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าสะใภ้สี่ผู้นี้กลับ…
ไม่ได้ชอบใจและไม่ได้โกรธ
ส่ายหน้า…นี่เป็นการแสดงออกเช่นไรกัน
บอกกำลังยิ้ม แต่เหตุใดตนเห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ ท่าทางลึกล้ำยากหยั่งถึง…
ความคิดพลันผุดขึ้น หลี่หวาตระหนักได้ในทันที อวิ๋นชูเป็นใคร เป็นบัณฑิตหญิง เป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุคผู้สูงส่งเหนือผู้คน!
คนที่พูดคุยด้วยมีแต่นักปราชญ์ราชบัณฑิต คนที่คบหาสมาคมไม่มีใครมีความรู้ตื้นเขิน คนที่ไปมาหาสู่กับนางล้วนเป็นกวีลือนามของเมืองหลวนเฉิง งานปักที่คู่ควรให้บัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุคเอ่ยปาก เกรงว่าคงมีแต่งานปักจากวังหลวงกระมัง ไม่ได้จะเปิดโรงงานปักผ้าเสียหน่อย ถึงจะให้นางคัดเลือกงานปักของเด็กสาวเหล่านี้ ถ้าเรื่องแพร่ออกไปก็จะเสื่อมเสียชื่อเสียงของนาง พอคิดมาถึงตรงนี้ หน้าผากหลี่หวาพลันมีเหงื่อเย็นผุดออกมา
จะตบสะโพกม้ากลับตบไปถูกขาม้าแล้ว!
ทำอย่างไรดี
น้ำที่สาดออกไปแล้ว คิดจะเก็บกลับคืนมาก็ไม่ทัน มองหลวนอวิ๋นชูด้วยสีหน้าเหยเก หลี่หวาคิดหาวิธีกอบกู้สถานการณ์
“สะใภ้สี่ ถ้า…”
คิดได้แล้วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่พอเอ่ยปากหลี่หวาพลันพบว่าคำพูดนี้ไม่อาจพูดออกมาได้ ดีไม่ดีกลับจะกลายเป็นไปว่าหลวนอวิ๋นชูใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องเพื่อแสวงหาชื่อเสียงและคำสรรเสริญเยินยอ หลี่หวาผู้กลิ้งกลมไปทั่วทุกด้านหลังจากเรียก ‘สะใภ้สี่’ ออกมาจึงพูดอะไรต่อไม่ออก
ในขณะที่หลี่หวากำลังรู้สึกลำบากใจอย่างที่สุดอยู่นั้น หลวนอวิ๋นชูกลับหัวเราะเบาๆ แล้วเปิดปากขึ้น
“หลี่มามาคงไม่รู้ เสื้อผ้าของใช้ประจำวันในจวน แต่ไรมาล้วนส่งไปให้ร้านปักผ้าทำ ไม่ต้องให้สาวใช้ในจวนต้องลงมือ พวกนางก็เพียงปักพวกเหอเปา* ผ้าเช็ดหน้า งานเย็บปักถักร้อยแค่พอทำได้ก็พอ ไม่ต้องฝีมือยอดเยี่ยมอะไร จะให้ข้าวิจารณ์ พูดลึกไปตื้นไปมีแต่จะทำลายขวัญและกำลังใจของพวกนาง”
ไม่เสียทีที่เป็นบัณฑิตหญิงผู้ยอดเยี่ยมแห่งยุค พูดได้คำเดียว ‘เหนือชั้น!’