วันรุ่งขึ้น พอฉู่จิ่นเหยาตื่นขึ้นมา ฉินอี๋ก็ไม่อยู่แล้ว
ข้างกายยังมีความอบอุ่นจากร่างเขาหลงเหลืออยู่ ฉู่จิ่นเหยาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ความอบอุ่นน้อยๆ นี้ รู้สึกสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เสี่ยวฉีฮองเฮาบีบบังคับให้นางรับอนุ นางสามารถแสร้งคล้อยตามได้ คนในตำหนักบูรพาลับหลังไม่ยอมรับนับถือนาง นางก็ค่อยๆ กำราบได้ แต่ถ้าสามีของนางไม่ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับนาง นางก็หมดสิ้นหนทางแล้ว
รับอนุ ดูแลตำหนัก ปกครองบ่าวไพร่ จริงอยู่ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกลอุบายสายฟ้าฟาดสำหรับทดสอบผู้เป็นนายหญิง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นท่าทีของนายท่านผู้เป็นสามี
ฉู่จิ่นเหยาคิดถึงตรงนี้ในใจก็พลันมีกระแสความร้อนแผ่ซ่านขึ้นมา ในชั่วชีวิตจวบจนถึงตอนนี้ซึ่งไม่นับว่ายาวนานของนางไม่มีใครดีต่อนางมากไปกว่าฉินอี๋แล้ว เขาให้การชี้แนะนาง ให้ตำแหน่งฐานะแก่นาง บัดนี้ยังมอบความไว้เนื้อเชื่อใจที่หาได้ยากไว้ในมือนางอีก ในใต้หล้านี้มีบุรุษสักกี่คนที่พูดคำว่า ‘มีเพียงเจ้า’ ออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นถึงรัชทายาท
คนสมัยนี้ให้ความสำคัญกับการรักษาคำพูด ในเมื่อเขาพูดเช่นนี้ออกมาได้ คิดว่าในใจจะต้องคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว ฉินอี๋ยื่นมือมาให้ก่อน ฉู่จิ่นเหยาก็ยินดีจะเชื่อใจเขาอย่างสุดกำลัง มิใช่มัวแต่ไปคิดว่าถ้าเกิดภายภาคหน้าเขาเปลี่ยนใจจะทำอย่างไร ใจคนล้วนทำจากเนื้อ ความรู้สึกจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนกัน ต่างฝ่ายต่างต้องตั้งใจดูแลปกป้องกัน โดยเฉพาะสามีภรรยา
ฉู่จิ่นเหยาคิดได้เช่นนี้ในใจพลันเกิดความฮึกเหิม เสี่ยวฉีฮองเฮาจ้องจะตะครุบ ซูเฟยยุแยงตะแคงรั่ว วันข้างหน้ายังมีน้องสะใภ้ที่มีท่าทีคลุมเครืออย่างจ้าวหลันฮุยอีกคน มีที่ที่ต้องการชายารัชทายาทอย่างนางอยู่อีกมากเชียว
ฉู่จิ่นเหยากระฉับกระเฉงตลอดทั้งเช้า เหล่าบ่าวหญิงที่รับใช้ต่างพากันระแวง ในวังล้วนเล่าลือกันว่านกกระจอกสองตัวอย่างเอ่อร์ฮวากับเอ่อร์เสวี่ยกำลังจะบินขึ้นยอดไม้กลายเป็นพญาหงส์แล้ว เหตุใดชายารัชทายาทไม่เห็นมีท่าทีระแวดระวัง ยังคงมีความสุขเป็นพิเศษ
หลิงหลงที่รู้เรื่องราวภายในเพียงยิ้มโดยไม่พูดอะไร วันนี้นางเห็นชายารัชทายาทก็รู้แล้วว่าปมในใจของอีกฝ่ายกับรัชทายาทน่าจะคลายลงแล้ว ส่วนเรื่องที่ถูกหักเบี้ยหวัดนางหาได้ใส่ใจไม่ โทษนี้ได้รับอย่างมีเกียรติยิ่ง
เมื่อผ่านพ้นเทศกาลซั่งหยวน บรรยากาศปีใหม่ก็สลายไป ที่ต่างๆ กลับมาทำงานตามเดิม ครั้นเข้าเดือนสองในวังก็เริ่มงานยุ่งอีกครั้ง วันอภิเษกสมรสขององค์หญิงใหญ่มาถึงแล้ว เนื่องด้วยพิธีอภิเษกสมรสขององค์หญิงใหญ่ คนงานโยกย้ายบ่อยครั้ง คนหน้าใหม่เริ่มเคลื่อนไหวหมุนเวียนอย่างไร้สุ้มเสียง ผู้ที่จับตาดูอย่างหงหมัวมัวเข้ามารายงานเงียบๆ
“พระชายา ทางนั้นส่งคนมาอีกแล้วเพคะ”
ฉู่จิ่นเหยาหน้าไม่เปลี่ยนสี สายตาสงบนิ่ง คิดว่าครั้งนี้ฮองเฮาคงเก็บงำท่าทีดูถูกนางลงไปแล้ว ทั้งยังหยั่งเชิงนางโดยเห็นเป็นคู่ต่อสู้อย่างแท้จริง ถัดจากนี้ฉู่จิ่นเหยามิอาจใช้การแสร้งโง่ตบตารับมือให้ผ่านไปได้แล้ว
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 พ.ค. 68