ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 49.1-49.3 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 49.1-49.3

หลังเข้ามานั่งในเรือนแล้วฉู่จิ่นเหยาก็มองซูฮุ่ยพลางเอ่ยอย่างระมัดระวังทีละคำ “พี่สาว ฉู่จิ่นเมี่ยวนางก็เป็นเช่นนี้ มักพูดจาทิ่มแทงคนอื่น ไม่เหน็บแนมถากถางจะครั่นเนื้อครั่นตัว ท่านอย่าไปสนใจนาง”

“ข้ารู้” ซูฮุ่ยมองฉู่จิ่นเหยา ท่าทางเหมือนทอดถอนใจ “จะว่าไปแล้วสกุลซูนอกจากให้กำเนิดนางออกมาก็หาได้พยายามทำอะไรเพื่อนางสักนิดไม่ หลายปีมานี้ล้วนเป็นครอบครัวอื่นเลี้ยงดูนาง นางไม่ยอมรับข้า อันที่จริงข้าก็คาดการณ์ได้นานแล้ว”

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าฉู่จิ่นเมี่ยวจะขับไล่ไสส่งครอบครัวผู้ให้กำเนิดนางก็เท่านั้น

ฉู่จิ่นเหยาไม่รู้เช่นกันว่าควรพูดอะไร เรื่องนี้นางเป็นคนกลาง พูดอะไรล้วนไม่เหมาะ จึงไม่พูดเสียเลยดีกว่า ทำได้เพียงจับมือซูฮุ่ยไว้แน่นอย่างเงียบๆ ซูฮุ่ยเศร้าใจได้ครู่เดียวก็มีท่าทางเบิกบานขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ช่างเถิด ไม่พูดถึงนางแล้ว นางไม่ยินดีพบญาติที่เป็นสามัญชนอย่างพวกเรา รังเกียจว่าพวกเราจะทำให้นางขายหน้า ข้าก็จะถือเสียว่าไม่มีน้องสาวคนนี้ เดิมทีก็ไม่เคยใช้ชีวิตด้วยกันแม้เพียงวันเดียว จะไปบีบคั้นเรียกร้องหาไมตรีอะไรเล่า”

ซูฮุ่ยปล่อยวางได้เช่นนี้กลับทำให้ฉู่จิ่นเหยาตกใจ แต่เมื่อคิดดูแล้วก็เห็นว่าจริง วันนี้นับได้ว่าเป็นการพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างซูฮุ่ยกับฉู่จิ่นเมี่ยว ฉู่จิ่นเมี่ยวถึงกับพูดจาเช่นนั้นต่อหน้าซูฮุ่ย ใครจะไม่ผิดหวังได้เล่า แต่เดิมทีก็เป็นคนแปลกหน้าที่ปราศจากความรักความผูกพัน ฉู่จิ่นเมี่ยวไม่ยินดียอมรับ ซูฮุ่ยก็ไม่แน่ว่าจะยินดีเช่นกัน ไฉนเลยจะคาดหวังให้ซูฮุ่ยโอบรับทุกการกระทำของฉู่จิ่นเมี่ยวอย่างไร้เงื่อนไขได้เหมือนจ้าวซื่อ

ฉู่จิ่นเมี่ยวตัดสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับพี่สาวร่วมอุทรกับมือเช่นนี้ ดีไม่ดีอาจเป็นสิ่งที่ฉู่จิ่นเมี่ยวต้องการที่สุดก็เป็นได้

ฉู่จิ่นเหยาคร้านจะสนใจคนพรรค์นั้นให้ส่งผลต่ออารมณ์ของตนเองโดยใช่เหตุอีก นางเริ่มพูดคุยถึงเรื่องราวหลังแยกจากกันกับซูฮุ่ย พูดคุยถึงร้านผ้าอวิ๋นจือ ทั้งยังพูดคุยว่าสามารถทำเสื้อผ้าสำเร็จรูปขายได้หรือไม่ พวกนางสองพี่น้องมีเรื่องให้พูดคุยมากมายเพียงนี้ เหตุใดต้องถูกคนเนรคุณอย่างฉู่จิ่นเมี่ยวทำให้เสียอารมณ์ด้วย

จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันจนติดลม ฉู่จิ่นเหยานำชุดที่ตนเองทำในเวลาว่างออกมาให้ซูฮุ่ยดูชิ้นแล้วชิ้นเล่า

ซูฮุ่ยดูฝีเข็มและวิธีเย็บอย่างละเอียด สุดท้ายก็กล่าวว่า “วิธีที่เจ้าเย็บแถบผ้ากับพู่ลงบนจีบนี้แปลกใหม่ดี แม้จับจีบเช่นนี้จะยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ใช้เวลามากหน่อยก็ทำออกมาได้ ข้าจำได้คร่าวๆ แล้วว่าต้องทำอย่างไร กลับไปจะใช้เศษผ้ามาลองทำดู หากทำออกมาได้จะต้องขายดีแน่นอน”

พวกนางสองคนลำบากมาตั้งแต่เล็ก ยามพูดคุยถึงเรื่องการหาเงินจึงกระตือรือร้นเป็นพิเศษ

ฉู่จิ่นเหยาถามโดยไม่คิดอะไรว่า “พี่สาว หมู่นี้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง เงินทองพอใช้หรือไม่”

ซูฮุ่ยมีสีหน้าอึ้งงันไปเล็กน้อยอย่างแทบไม่สังเกตเห็น อ้าปากอยู่สองสามที ซูฮุ่ยมองใบหน้าด้านข้างของฉู่จิ่นเหยาเงียบๆ ก็เห็นว่านางผิวขาวเนียน ดวงตากระจ่างใส แค่เห็นก็รู้ว่ามีชีวิตที่ดีอย่างยิ่ง ซูฮุ่ยจึงตัดสินใจว่าฉู่จิ่นเหยาอุตส่าห์ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวตนเองแล้ว มิหนำซ้ำบัดนี้ยังมีชีวิตที่ดีปานนี้ด้วยความพยายามของตนเอง เรื่องน่ารำคาญใจเหล่านั้นอย่าบอกนางจะดีกว่า

สุดท้ายซูฮุ่ยก็ส่ายหน้า ตอบว่า “ไม่มีอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี แบบชุดที่เจ้าพูดถึงเมื่อครู่นี้เย็บแล้วจะเป็นอย่างไร”

เดิมทีฉู่จิ่นเหยายังอยากจะถามให้ละเอียด แต่ได้ยินซูฮุ่ยถามถึงเรื่องการค้า นางก็ไม่กล้าปล่อยผ่าน รีบเย็บให้ดูอย่างละเอียดทันที พอเป็นเช่นนี้หัวข้อสนทนาย่อมเปลี่ยนประเด็นไป

ฉู่จิ่นเหยากับซูฮุ่ยหารือกันอยู่เป็นนานจวบจนฟ้าเริ่มมืด หากซูฮุ่ยยังไม่ไปก็จะกลับเข้าเมืองไม่ทันแล้ว ทั้งสองถึงได้บอกลากันอย่างอาลัยอาวรณ์

ฉู่จิ่นเหยาออกไปรออยู่บนทางผ่านเป็นเพื่อนซูฮุ่ย รอคนของหลงจู๊ใหญ่เว่ยมาจะได้นั่งรถม้ากลับเข้าเมืองด้วยกัน ฉู่จิ่นเหยายืนได้ครู่หนึ่งก็ถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่

“พี่สาว เหตุใดคราวนี้เป็นหลงจู๊ใหญ่เว่ยมาเอง ทุกครั้งล้วนเป็นหลงจู๊น้อยเว่ยมาส่งของ ข้ายังไม่เคยพบหลงจู๊ใหญ่สักครา”

“อวยพรวันคล้ายวันเกิดชายาเฒ่ามิใช่ต้องเป็นหลงจู๊ใหญ่มาเองหรือไร!” ซูฮุ่ยเองก็ไม่กระจ่างแจ้งนัก นางกล่าวอีกว่า “อันที่จริงข้าก็ไม่ค่อยได้พบหลงจู๊ใหญ่เว่ยสักเท่าไร ได้ยินว่าเขามีกิจการมากมาย แต่ละวันแทบไม่ปรากฏตัวให้เห็น วันๆ ข้าวนเวียนอยู่แค่ที่ร้านผ้า หากมิใช่เพื่อมาพบเจ้าในวันนี้ เกรงว่าข้าก็คงไม่ได้พบหลงจู๊ใหญ่เว่ยเช่นกัน”

ฉู่จิ่นเหยาพยักหน้า รู้สึกว่าคนผู้นี้ลึกลับยิ่ง “หลงจู๊ใหญ่เว่ยช่างประหลาดเสียจริง ทว่าคนที่สามารถทำให้กิจการใหญ่โตเพียงนี้ได้จะทำอะไรประหลาดก็มิใช่เรื่องแปลก”

ซูฮุ่ยพยักหน้าเช่นกัน นางแค่ช่วยงานในร้าน ออกมาต้อนรับเวลามีลูกค้าสตรี แม้จะเป็นเช่นนี้นางก็ยังรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของกิจการสกุลเว่ย ส่วนฉู่จิ่นเหยาที่ได้รับเงินปันผลอยู่ทุกเดือนนั้นรู้สึกได้ยิ่งกว่า

ซูฮุ่ยหาได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉู่จิ่นเหยากับหลงจู๊ใหญ่เว่ยไม่ นางนึกว่านี่เป็นกิจการที่จวนฉางซิงโหวร่วมหุ้นอยู่ สุดท้ายเงินปันผลก็ตกอยู่ในนามฉู่จิ่นเหยาจึงมิได้รู้สึกว่าแปลก พวกนางสองคนรอไปพลางพูดคุยกันไปพลาง ยืนอยู่นานก็ยังไม่เห็นเงาหลงจู๊ใหญ่เว่ย บ่าวชายที่ส่งไปวิ่งไปกลับอยู่หลายรอบล้วนบอกว่าหลงจู๊ใหญ่เว่ยกำลังยุ่งอยู่ ไม่ให้เข้าพบ

“เขายุ่งกับอะไรอยู่ ถึงกับไม่ให้เข้าพบ”

ซูฮุ่ยกล่าว “รออีกหน่อยก็แล้วกัน หากเจ้ายืนเหนื่อยแล้วก็กลับไปก่อนเถิด ข้ารอคนเดียวก็ได้”

“จะได้อย่างไร” ฉู่จิ่นเหยายืนกรานจะอยู่เป็นเพื่อนซูฮุ่ย นางพร่ำบ่นขึ้นมา “หลงจู๊ใหญ่เว่ยกับจวนไหวหลิงจวิ้นอ๋องไม่ได้ไปมาหาสู่กันเสียหน่อย วันนี้หลงจู๊ใหญ่เว่ยมาทำอะไรที่นี่ มิหนำซ้ำยังอยู่เสียนานปานนี้”

ยังดีที่หลงจู๊ใหญ่เว่ยคงจะตระหนักได้แล้วเช่นกันว่าเวลาไม่เช้าแล้ว ไม่นานนักก็รีบรุดมาพาซูฮุ่ยกับคนอื่นๆ กลับไป ฉู่จิ่นเหยามองส่งคนออกจากประตูรองแล้วถึงได้เดินกลับไปอย่างอาลัยอาวรณ์

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 137-138

บทที่ 137 ยามนั้นอวี้ฉือเฟยเยี่ยนเองก็เปลี่ยนเป็นชุดพันรอบอกสำหรับเล่นน้ำแล้ว นางเกิดมาแขนขายาว ดังนั้นท่อนล่างถัดจากเสื...

community.jamsai.com