จวนกู้ชางป๋อ
ตู้เฟยเสวี่ยถูกเหอซื่อใช้ไม้ขนไก่ไล่ตะเพิดแล้วทั้งเสียหน้าทั้งเสียศักดิ์ศรี นางกลับถึงเรือนก็โผเข้าไปซบอกจูซื่อฮูหยินของกู้ชางป๋อ ร้องไห้คร่ำครวญยกใหญ่ “ท่านแม่ วันหน้าข้าสู้หน้าใครไม่ได้แล้ว ถึงกับถูกคนใช้ไม้ขนไก่ไล่ตีออกมา…”
จูซื่อโกรธจนควันออกหู เอ่ยกับมารดาสามี “ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ แม่เลี้ยงของหลานเจี่ยวไม่รู้ธรรมเนียมมารยาทเอาเสียเลย เห็นได้ว่าปกติหลานสาวของเรามีชีวิตความเป็นอยู่เช่นไร คราวนี้พวกเราจะแล้วกันไปเท่านี้ไม่ได้นะเจ้าคะ มิใช่เพื่อเฟยเสวี่ยเท่านั้น ยังทำเพื่อหลานสาวของเราด้วย อย่างไรก็ต้องขอคำอธิบายจากสกุลหลีให้ได้ อย่างน้อยต้องให้แม่เลี้ยงของหลานเจี่ยวได้รับบทเรียนบ้างจึงจะถูก”
บุตรสาวที่นางทะนุถนอมดั่งไข่ในหินถูกคนไล่ตีออกมาเช่นนี้ ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!
เพลานี้เองบ่าวรับใช้ก็เข้ามากล่าวรายงาน “ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินขอรับ ฮูหยินผู้เฒ่าของสกุลหลีไปนั่งทวงความเป็นธรรมที่หน้าประตูกององครักษ์จินหลิน…”
ฟังบ่าวรับใช้รายงานจบ ฮูหยินผู้เฒ่าตะลึงงันไป นางเอ่ยถาม “ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลหลีผู้นั้นเลอะเลือนไปแล้ว บุรุษในเรือนพวกนางเล่า ปล่อยให้ยายเฒ่าไปทำเรื่องเหลวไหล?”
บ่าวรับใช้ปาดเหงื่อออก “มิใช่เท่านี้นะขอรับ ท่านอาลักษณ์หลีผู้นั้นยังหิ้วกล่องอาหารไปส่งข้าวส่งน้ำให้ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลหลี ตอนนี้กลายเป็นอาลักษณ์หลีงัดข้อกับองครักษ์จินหลิน ตระกูลต่างๆ ล้วนแอบส่งคนไปรอดูเรื่องสนุกกันแล้วขอรับ”
“ไปสืบต่อ” ฮูหยินผู้เฒ่าโบกมือบอกให้บ่าวรับใช้ออกไป นางกับจูซื่อมองหน้ากันไปมา
มารดาสามีกับลูกสะใภ้สองคนจิตใจตรงกัน ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องไปคิดบัญชีกับสกุลหลีแล้ว
อย่าล้อเล่น สกุลหลีกล้าไปก่อเรื่องถึงที่ว่าการกององครักษ์จินหลิน พวกนางไปหาถึงจวนจะมิใช่แกว่งเท้าหาเสี้ยนหรอกหรือ
หอชุนเฟิงวันนี้มีลูกค้าบางตากว่าปกติไม่น้อยอย่างชอบกล เฉินกวงรู้ดีว่าเฉียวเจาได้รับบาดเจ็บคงไม่ออกจากเรือนในชั่วประเดี๋ยวประด๋าว เขาเลยลอบวิ่งโร่ไปหาเซ่าหมิงยวน
“ท่านแม่ทัพ เกิดเรื่องกับคุณหนูหลีแล้วขอรับ”
ดวงตาสีดำสนิทของชายหนุ่มเปล่งประกายคมปลาบ เขาถามเสียงเครียด “เกิดเรื่องอะไรกับคุณหนูหลี”
เฉินกวงรีบเล่าความเป็นมาเป็นไปทั้งหมดรอบหนึ่ง
“แผลบนใบหน้าคุณหนูหลีอาการสาหัสหรือไม่”
เฉินกวงพยักหน้าถี่ๆ “ข้าดูแล้วสาหัสเอาการ แผลลึกน่าดู คงต้องมีแผลเป็นแน่นอน ท่านแม่ทัพ ข้ามิได้คุ้มครองคุณหนูหลีให้ดี ท่านโปรดลงโทษข้าเถอะ”
เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
เซ่าหมิงยวนนิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วประคองเขาลุกขึ้น “เป็นข้าใคร่ครวญไม่รอบคอบเอง เจ้าเป็นบุรุษ มีสถานที่หลายแห่งไม่สะดวกจะติดตามไป เจ้ากลับจวนไปหยิบยาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆาชั้นดีที่ได้รับพระราชทานมาสองสามตลับไปมอบให้คุณหนูหลีก่อน”
“น้อมรับคำสั่งขอรับ”
เซ่าหมิงยวนเบนสายตาไปทางดอกกุหลาบที่สีสันสดสวยดุจเมฆอาบแสงสนธยานอกหน้าต่างพลางไต่ถาม “ชาวสกุลหลีมีท่าทีอย่างไร”
“ยังไม่ทราบขอรับ ข้าสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แล้วก็มารายงานท่านขอรับ”
“อื้อ เจ้ารีบไปรีบกลับ ภารกิจของเจ้าคือคุ้มครองคุณหนูหลีไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นกับนางอีก สำหรับเรื่องอื่นข้าจะจัดการสะสางเอง เฉินกวง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้บัญชาการกององครักษ์จินหลิน เจ้าอย่ากระทำการใดโดยพลการ”
เขารู้จักนิสัยของเฉินกวงดีว่าปกติอาจจะบุ่มบ่ามเลินเล่ออยู่สักหน่อย ทว่าไม่กระทบกับงานใหญ่ แต่กับเรื่องพรรค์นี้หากไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี กลับจะทำให้ตนเองตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
รอเมื่อเฉินกวงไปแล้ว เซ่าหมิงยวนถึงผลักประตูออกจากห้อง มุ่งหน้าไปทางที่ตั้งของที่ว่าการกององครักษ์จินหลิน