ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 429-บทที่ 430 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม บทที่ 429-บทที่ 430

เมื่อนึกถึงว่าซานหนีกับซานตั้นลักลอบพลอดรักกันในซากเรือนสกุลเฉียว เฉียวเจาตะขิดตะขวงใจอยู่มาก ทว่าเพลานี้คนหนึ่งเสียชีวิตคนหนึ่งเสียสติไปแล้ว นางก็ทำได้เพียงทอดถอนใจ

ชาวบ้านเดินออกมามุงดูไม่น้อย พวกเขาชี้มือชี้ไม้พูดซุบซิบกันอยู่ไม่ไกล

“พวกเจ้าสองคนมัวยืนทื่อทำอะไร ยังไม่พาซานหนีกลับเรือนอีก!” บุตรชายคนรองของผู้ใหญ่บ้านรู้สึกอับอายขายหน้า เขาตวาดเสียงดังลั่น

คนหนุ่มสองคนก้าวเข้าไปจับแขนซานหนีคนละข้างแล้วออกแรงลากนางกลับไป

“รอประเดี๋ยว” เฉียวเจาพลันเอ่ยปากขึ้น

ทุกคนหยุดชะงักหันไปมองนางทันที

เฉียวเจาก้าวขาเดินเข้าไป

เซ่าหมิงยวนเห็นดังนั้นก็ติดตามไปเงียบๆ พร้อมกับส่งสายตาบอกเฉินกวง

ความหมายนั้นแจ่มชัดมากว่า ‘จับตาดูซานหนีให้ดี อย่าให้นางคลุ้มคลั่งทำร้ายคุณหนูหลี’

เฉินกวงคับอกคับใจเป็นอันมาก ชายหญิงไม่พึงถูกเนื้อต้องตัวกัน เมื่อครู่นี้เป็นเรื่องสุดวิสัยเพราะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เหตุใดตอนนี้ยังต้องให้ข้าออกโรงอีกด้วยเล่า

ท่านแม่ทัพเลิกคิ้วสูงทว่าสีหน้าเรียบเฉย ชายหญิงไม่พึงถูกเนื้อต้องตัวกัน เจ้าไม่ออกโรง หรือต้องให้ข้าออกโรงเอง เช่นนั้นฮูหยินแม่ทัพของพวกเจ้าจะโมโหเอาได้นะ

ทั้งสองเพียงส่งสายตาโต้ตอบกัน เฉินกวงกลับเข้าใจความหมายของท่านแม่ทัพได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เขาได้แต่ถอนใจเฮือกอย่างปลงตก ยกมือยึดแขนของซานหนีไว้

เฉียวเจายื่นมือไปแตะข้อมือซานหนีแล้วสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทีละน้อย ก่อนที่นางจะดึงมือกลับแล้วมองเซ่าหมิงยวนแวบหนึ่ง

“มีอะไรหรือ”

“กลับเข้าเรือนค่อยคุยกัน” นางหมุนกายเดินนำหน้ากลับไปในลานเรือนทันใด

“พาคนเข้ามา”

เพราะเกิดศึกหนักขึ้นเมื่อคืน พื้นดินโดยรอบเรือนของหญิงขายเต้าหู้ล้วนเป็นสีแดงคล้ำ พวกชาวบ้านยืนอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ แต่จะกลับไปก็เสียดายเลยเขย่งเท้าชะเง้อคอมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“พวกเจ้าเป็นอะไรกับซานหนี”

“ข้าคืออารองของนาง ส่วนพวกเขาสองคนเป็นพี่ชายของซานหนี” บุตรชายคนรองของผู้ใหญ่บ้านอ้าปากพูด

“บิดามารดาของนางเล่า”

“ซานหนีเกิดมาอาภัพ ตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลกก็กำพร้ามารดา บิดาของนางก็จากไปเมื่อหลายปีก่อน” บุตรชายคนรองของผู้ใหญ่บ้านมองเฉียวเจาอย่างระมัดระวัง “คุณหนู ซานหนีเป็นอย่างไรบ้าง พอนางสติไม่ดีแล้วเรี่ยวแรงเยอะมาก ระวังจะทำร้ายท่าน ให้พวกข้าเอาตัวนางกลับไปจะดีกว่า”

ในตอนนี้เองเสียงของผู้เฒ่าคนหนึ่งดังมาจากหน้าประตู “ท่านโหว ข้าได้ยินว่าซานหนีอยู่ที่นี่”

“ท่านพ่อ ท่านมาได้อย่างไร”

ผู้ใหญ่บ้านย่างเท้าเข้ามา เขาทำหน้าบึ้งกล่าวขึ้น “ยังมีหน้าถามอีกหรือ มีกันตั้งหลายคนกลับเฝ้าเด็กคนหนึ่งไว้ไม่ได้”

เขาเดินไปตรงหน้าเฉียวเจากล่าวทักทายแล้วมองซานหนีพลางถอนใจเฮือกหนึ่ง “ซานหนี ตามท่านปู่กลับเรือนนะ”

เฉียวเจาตกใจเมื่อพบว่าผู้ใหญ่บ้านซึ่งท่าทางแข็งแรงกระฉับกระเฉงตอนที่นางเพิ่งมาถึงหมู่บ้านไป๋อวิ๋นราวกับจะแก่ชราลงหลายปีในชั่วเวลาสั้นๆ แม้แต่การเดินเหินก็เริ่มกระย่องกระแย่ง ชะรอยว่าเขาจะรักใคร่เอ็นดูหลานสาวผู้นี้จากใจจริงกระมัง

ครั้นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ในใจหญิงสาวบังเกิดความกังวลรางๆ

นางอาจจะรังเกียจพฤติกรรมของซานหนีที่ลักลอบพลอดรักกับบุรุษในซากเรือนสกุลเฉียวของนาง แต่ความรู้สึกที่มีต่อเด็กสาววัยแรกแย้มผู้นี้ นางก็นึกสงสารเวทนาตามประสาสตรีเหมือนกัน

การลักลอบลิ้มลองผลไม้ต้องห้ามอย่างยั้งใจไม่อยู่ชั่ววูบ ชีวิตที่รอเด็กสาวผู้นี้อยู่จะเป็นเช่นไร เฉียวเจาไม่รู้ แต่นางรู้ว่าต่อให้นางไม่บอกเรื่องนี้ออกมาตอนนี้ วันหน้าก็ปิดบังไว้ไม่ได้อยู่ดี

“ผู้ใหญ่บ้าน ข้ารักษาอาการฟั่นเฟือนของซานหนีได้”

ผู้ใหญ่บ้านตะลึงงันไปทันใด เขาพูดละล่ำละลัก “ท่านพูดว่าอะไรนะ ท่านรักษาอาการฟั่นเฟือนของซานหนีได้หรือ”

คนอื่นๆ มองเฉียวเจาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

นางพยักหน้าเบาๆ

ผู้ใหญ่บ้านเข่าอ่อนทรุดตัวลงคุกเข่า “หากคุณหนูรักษาอาการป่วยของซานหนีให้หายดีได้ ข้าจะจุดธูปโขกศีรษะให้ท่านทุกวัน”

เซ่าหมิงยวนฟังแล้วขมวดคิ้วมุ่น เขากล่าวอย่างไม่พอใจ “ผู้ใหญ่บ้าน อย่าพูดจาส่งเดช!”

จุดธูปโขกศีรษะให้ทุกวันอะไรกัน นี่จะสาปแช่งเจาเจาของเขาใช่หรือไม่ ขืนกล้าทำเช่นนี้เขาจะพังเรือนผู้ใหญ่บ้านทันทีเลย

“ข้าหมายความว่าจะขอให้พระโพธิสัตว์คุ้มครองคุณหนูให้ร่างกายแข็งแรงและมีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์พูนสุขทุกวัน”

เซ่าหมิงยวนพยักหน้าหงึกหงัก เช่นนี้ค่อยยังชั่ว

“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านลุกขึ้นมาพูดคุยกันเถอะ” เฉียวเจากล่าวเสียงเรียบๆ

ผู้ใหญ่บ้านลุกขึ้นยืนปาดน้ำตาออก “คุณหนูคงไม่รู้ว่าหลานสาวข้าผู้นี้กำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เด็ก นางอยู่กับพวกข้าจนเติบใหญ่ นางทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พวกข้าก็ต้องรับผิดชอบด้วย คุณหนู ท่านรักษาซานหนีให้หายเป็นปกติได้จริงๆ ใช่หรือไม่”

“ซานหนีไม่ได้เป็นบ้าจริงๆ นางเพียงตกใจเกินไปจนจิตหลอน ดังนั้นจะรักษาอาการฟั่นเฟือนของนางให้หายมิใช่เรื่องยาก” นางกวาดตามองซานหนีแวบหนึ่งก่อนกล่าวทอดถอนใจ “แต่ยังมีเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกให้ผู้ใหญ่บ้านรู้ไว้”

“ท่านว่ามา”

“ซานหนีตั้งครรภ์แล้ว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com