ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 8 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 8

3 of 3หน้าถัดไป

วันถัดมาคำถามนี้ก็มีคำตอบแล้ว

วันนั้นซูหงเหมิงตื่นแต่เช้าโกนหนวดเคราสางผม เตรียมตัวไปปฏิบัติหน้าที่ที่กองการค้าหลวงเป็นครั้งแรก

ติงเพ่ยยังให้สาวใช้ไปที่หอสุราสู่เซียงซื้ออาหารซื่อชวนกลับมาจัดวางไว้เต็มโต๊ะเป็นพิเศษ ตั้งใจจะฉลองแสดงความยินดีที่สามีได้เป็นขุนนางครั้งแรกอย่างเต็มที่

แต่ก่อนนายท่านใหญ่สกุลซูจะกลับถึงจวน ติงเพ่ยสั่งให้ไปเชิญคุณหนูใหญ่มาพบ อ้างเหตุผลว่าอยากวัดตัวตัดอาภรณ์ให้นางสองสามชุด แต่แท้จริงแล้วติงเพ่ยเตรียมจะบอกเรื่องที่อีกไม่กี่วันจะส่งนางกลับบ้านเดิม

ถึงแม้ซูหงเหมิงมีความคิดนี้ ทว่าจะเอ่ยปากกับบุตรสาวคนโตเองก็ไม่ค่อยดี จึงโยนเผือกร้อนลวกปากนี้ให้ติงเพ่ยที่มีชั้นเชิงแพรวพราวในการจัดการเรื่องต่างๆ

ติงเพ่ยยิ้มพริ้มพรายขณะให้สาวใช้วัดตัวซูลั่วอวิ๋น นางกล่าวอย่างอัศจรรย์ใจว่า “สองปีมานี้ดูเหมือนเจ้าจะตัวสูงขึ้นอีก ดูเหมือนว่าสภาพแวดล้อมที่บ้านเดิมดีต่อร่างกายเจ้า”

ซูลั่วอวิ๋นยิ้มน้อยๆ “ตอนไปถึงบ้านเดิมแรกๆ ไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมจนป่วยหนักครั้งหนึ่ง ซูบผอมจนหนังหุ้มกระดูก คิดไม่ถึงว่ากลับไม่ทำให้ร่างกายหยุดสูง ทำให้ฮูหยินใหญ่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองตัดเย็บอาภรณ์ชุดใหม่ให้ข้าอีก”

ติงเพ่ยยังคงยิ้ม “อยู่นานไปก็จะค่อยๆ เคยชินไปเอง ความจริงที่ไหนๆ ก็เหมือนกัน เรือนหลังเก่านั้นเหมาะให้คนป่วยพักรักษาตัวมากกว่า ท่านพ่อของเจ้ายังบอกว่าในอนาคตตอนเขาเกษียณหวนคืนสู่บ้านเดิมก็จะกลับไปที่อิ้นโจวเช่นกัน เพียงแต่ไม่มีคนที่รู้จักดูแลรักษาสภาพเรือนหลังเก่าไว้ให้ดี จะมอบหน้าที่ให้พวกบ่าวไพร่ก็กลัวพวกนั้นเกียจคร้านละเลยไม่ใส่ใจ ไม่เหมือนตอนที่เจ้าอยู่ จัดการดูแลเรือนได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย”

แม้ว่าดวงตาของซูลั่วอวิ๋นจะไม่เห็นอะไร แต่นางยังมองไปทางติงเพ่ยอย่างเย็นชา “ดูเหมือนฮูหยินใหญ่มีเรื่องอยากพูด เอ่ยมาตามตรงเถิดเจ้าค่ะ”

ติงเพ่ยกล่าวต่อไปอย่างยิ้มแย้ม “เจ้ากลับมาเมืองหลวงครานี้เพื่อพบหน้าท่านน้า ตอนนี้ได้พบกันแล้ว ไม่ต้องเฝ้าห่วงใยกันและกันอีก อีกสักพักน้องสาวของเจ้าจะออกเรือน ในจวนมีงานยุ่งวุ่นวาย กลัวจะดูแลเจ้าไม่ทั่วถึง ข้ากับท่านพ่อเจ้าหารือกันแล้วก็เห็นว่าส่งเจ้ากลับไปอยู่ชนบทดีกว่า เจ้าจะได้อยู่อย่างสงบสุขไม่ต้องถูกเสียงดังเอะอะในจวนรบกวน”

พอได้ยินถ้อยคำนี้ เถียนมามาที่อยู่ด้วยก็กำมือแน่นด้วยความโมโห แต่ฝืนทนไว้ไม่ส่งเสียงพูด

ซูไฉ่เจียนด้านข้างได้ยินแล้วกลับมีสีหน้ายินดีปรีดา แต่พยายามสำรวมกิริยาไม่แสดงออกนอกหน้าจนเกินไป ครั้นนึกขึ้นได้ว่าพี่สาวมองไม่เห็นก็เผยรอยยิ้มกว้างอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่ เพียงรู้สึกว่าชีวิตแต่งงานในอนาคตของตนจะราบรื่นไร้อุปสรรคใดๆ แล้ว

ทางด้านซูลั่วอวิ๋นกลับสงบนิ่งเป็นปกติ “นี่ฮูหยินใหญ่ถามไถ่ความเห็นของข้าหรือว่าตัดสินใจแล้วบอกกล่าวให้รับรู้เจ้าคะ”

ขณะนี้ไม่มีคนนอก ติงเพ่ยไม่ต้องกริ่งเกรงอะไร นางวางท่าเป็นประมุขหญิงของจวน กล่าวอย่างหวังดีจากใจจริง

“อันที่จริงเรื่องของบุตรล้วนต้องให้บิดามารดาตัดสินใจ ไม่เคยได้ยินว่าเรือนไหนจะทำอะไรต้องเชื่อฟังคำสั่งบุตร เจ้าจงจำไว้ว่าข้ากับท่านพ่อของเจ้าล้วนปรารถนาดีต่อเจ้าเท่านั้นเป็นพอ…งานมงคลของน้องสาวเจ้าก็ใกล้เข้ามาแล้ว ในจวนขาดบ่าวไพร่ที่มีประสบการณ์เชื่อใจได้ ข้าคิดว่าครั้งนี้จะให้เซียงเฉ่ากับเถียนมามารั้งอยู่ที่นี่แล้วหาสาวใช้คล่องแคล่วหัวไวให้เจ้าเพิ่มอีกสองคน เถียนมามาแก่ชราแล้ว กำลังวังชาคงสู้ไม่ไหว”

นางกล่าวจบ เถียนมามาก็ถลึงตากล่าวเสียงกระด้างทันใด “ฮูหยิน สัญญาขายตัวเป็นทาสของบ่าวไม่ได้อยู่กับสกุลซู ท่านทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่ค่อยดีกระมัง”

ติงเพ่ยหุบยิ้มแล้วพูดช้าๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นหญิงรับใช้ที่ติดตามพี่หูซื่อออกเรือนมาถึงได้ให้ความเคารพเจ้ามาโดยตลอด แต่ตอนนี้ลั่วอวิ๋นตาบอด ต้องการคนเรี่ยวแรงดีอยู่ข้างกาย ข้าถึงวางใจได้ เจ้าก็อายุปูนนี้แล้ว เดิมทีควรได้อยู่สบายๆ ในชีวิตบั้นปลาย ถ้าเห็นว่าข้าไม่คู่ควรขอตัวเจ้าไว้ที่นี่ก็ไม่จำเป็นต้องคอยตั้งแง่กับข้าทุกวัน ไปเบิกเงินเอาเองแล้วกลับสกุลหูไปเถิด”

ยายเฒ่าหนังเหนียวนึกว่าสัญญาขายตัวเป็นทาสไม่อยู่กับสกุลซูแล้ว ข้าก็ไม่มีปัญญาจะทำอะไรนางได้รึ ซูลั่วอวิ๋นเป็นลูกเลี้ยงของข้า กระทั่งจะให้ใครรับใช้ข้างกาย ซูลั่วอวิ๋นยังตัดสินใจเองไม่ได้ด้วยซ้ำ!

ก่อนหน้านี้ติดขัดที่คำสั่งเสียของหูซื่อ จะขับไล่เถียนมามาไปก็ไม่เหมาะ ทว่าซูลั่วอวิ๋นอายุสิบแปดปี ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ต้องฝากฝังไว้กับบ่าวเก่าแก่อีก นางส่งตัวยายเฒ่ากลับไปอย่าง ‘สุภาพ’ ก็ไม่มีใครกล้าครหา

เถียนมามาได้ฟังคำนี้แล้วก็เดือดดาลจนสุดระงับ นางไม่วางใจอะไรกัน นี่คงฉวยโอกาสที่คุณหนูใหญ่ตาบอดกำจัดคนสนิทรู้ใจออกไป จากนั้นทุกอย่างก็จะตกอยู่ในกำมือนางแล้ว

ซูลั่วอวิ๋นกลับพูดด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง “นี่…เป็นความประสงค์ของท่านพ่อด้วยหรือเจ้าคะ”

ติงเพ่ยยกถ้วยชาขึ้นดื่มคำหนึ่งอย่างช้าๆ แล้วกล่าวตอบ “เรื่องของเรือนหลังไฉนเลยต้องให้พวกบุรุษวุ่นวายใจ เวลานี้ท่านพ่อของเจ้าต้องช่วยใต้เท้าของกองการค้าหลวงเลือกซื้อเครื่องหอม งานยุ่งไม่น้อย หากเจ้ารู้ความก็อย่าไปรบกวนท่านพ่อของเจ้า”

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 9 ต.ค. 67 

3 of 3หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ก็เปรียบดั่งผ้าพันเท้าของสตรี เป็นของเก่าเน่าเหม็นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่มี...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 3-4

บทที่ 3 หัวหน้าขันทีไม่แม้แต่จะเหลือบแลอวี้ฉือรุ่ย แต่ถามออกมาตรงๆ “ท่านใดคือคุณหนูเฟยเยี่ยน” เสียนเกอเอ๋อร์ข่มโทสะไม่อย...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6

บทที่ 5 เถ้าแก่ร้านตกใจจนเบิกตากว้าง โบกไม้โบกมือเอ่ย “แม่นาง นี่มันสิงโตอ้าปากกว้าง นี่! เห็นว่าพวกงานปักของเจ้าเป็นงาน...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 9-10

บทที่ 9 หวังอวี้หล่างไม่นึกฝันว่าจะได้มาเจอกับองค์ชายรองที่นี่ เมื่อครู่นี้เขายังแสดงกิริยาเสียมารยาทอีกด้วย ในเวลานั้นจ...

community.jamsai.com