บทที่ 5 เกล็ดงู
“หงเฉิน เจ้าสงสัยอะไรอยู่กันแน่” น้ำเสียงของเซี่ยหลิงปี้แฝงแววตักเตือนและหวังดีเช่นผู้เป็นอาจารย์ จากนั้นเขาก็เอ่ยอย่างอดทน “โจรสี่คนนี้แม้ฐานะไม่ชัดเจน แต่ขบคิดเพียงเล็กน้อยก็พอคาดเดาฐานะของพวกเขาได้ หากไม่มีกรมซือเทียนคอยหนุนหลัง ใครจะบังอาจถึงเพียงนี้ แต่เจตนาของอีกฝ่ายคืออะไร นี่เป็นสิ่งที่ข้ายังคงไม่เข้าใจ”
เซี่ยหงเฉินได้สติกลับมา ยามเผชิญหน้ากับคำอธิบายของอาจารย์ ท้ายที่สุดแล้วในใจเขาก็รู้สึกละอาย จึงกล่าวขึ้น
“ข้าอาศัยร่องรอยที่โจรทิ้งไว้ เก็บอาวุธของคนผู้หนึ่งได้ น่าจะเป็นเหอซีจินแห่งสำนักกระบี่หรูอี้ขอรับ”
“เหอซีจิน…” เซี่ยหลิงปี้ขมวดคิ้ว ใคร่ครวญเนิ่นนานก่อนพูดว่า “เขามาทำอะไร”
เซี่ยหงเฉินตอบ “อยู่ระหว่างการตรวจสอบขอรับ”
เซี่ยหลิงปี้ส่งเสียงตอบรับ “ไม่ว่าอย่างไรกรมซือเทียนลงทัณฑ์ศิษย์ชั้นนอกของสำนักเราอย่างเปิดเผย เรื่องนี้มิอาจเลิกแล้วต่อกันเพียงเท่านี้”
เซี่ยหงเฉินหลุบตาลง “ข้าเข้าใจแล้วขอรับ”
“เจ้าคิดจะทำเช่นไร” เซี่ยหลิงปี้ไม่ยอมเลิกรา ด้วยนิสัยของเขาย่อมไม่มีทางยอมให้ใครมาดูหมิ่นรังแกเช่นนี้เด็ดขาด
น้ำเสียงของเซี่ยหงเฉินยังคงนิ่งสงบ “เพื่อความเป็นอมตะ ฮ่องเต้ซือเวิ่นอวี๋เสวยยาลูกกลอนอายุวัฒนะมาเป็นเวลาหลายปี ยาลูกกลอนนี้ราคาไม่น้อยทีเดียว”
“เรื่องนี้หาใช่ความลับไม่” เซี่ยหลิงปี้ได้ยินชื่อ ‘ซือเวิ่นอวี๋’ แล้ว น้ำเสียงก็หนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย “ร้อยกว่าปีมานี้ตาเฒ่าผู้นั้นเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด”
เซี่ยหงเฉินกล่าวต่อ “ปีนี้ยาลูกกลอนอายุวัฒนะที่กรมซือเทียนเตรียมถวายล้วนเป็นของปลอมทั้งสิ้น”
“กรมซือเทียนปลอมแปลงยาลูกกลอนอายุวัฒนะหรือ” เซี่ยหลิงปี้ตกใจแล้วซักถามอีก “เจ้ารู้ได้อย่างไร”
เซี่ยหงเฉินมิได้อธิบายที่มาของข่าวนี้ เพียงเอ่ยว่า “ในราชสำนักมีขุนนางใกล้ชิดซือเวิ่นอวี๋ไม่น้อย ขอเพียงพวกเราแพร่งพรายข่าวนี้ออกไป เดิมทีซือเวิ่นอวี๋มีนิสัยช่างระแวง เขาไม่มีทางละเว้นตี้อีชิวแน่นอน”
เซี่ยหลิงปี้ผงกศีรษะ “เช่นนี้ก็ดียิ่ง รีบไปจัดการโดยเร็ว หาไม่แล้วผู้คนจะคิดว่าสำนักเซียนอวี้หูหวาดกลัวสุนัขรับใช้ของราชสำนักจริงๆ”
เซี่ยหงเฉินรับคำ ก่อนจะค้อมกายคารวะแล้วจากไป เซี่ยหลิงปี้มองดูแผ่นหลังของเขาอย่างครุ่นคิด
คนหนุ่มเติบโตเร็วจริงๆ แค่ร้อยกว่าปีขนปีกก็ค่อยๆ หนาขึ้น เขี้ยวเล็บก็สมบูรณ์แล้ว
เมืองหลวงชั้นใน
ตอนตี้อีชิวกับหลี่ลู่กลับกองเสวียนอู่ก็เป็นเวลาอาหารกลางวันแล้ว
เซียนเซิงในโถงเรียนยังไม่เลิกสอน…ตี้อีชิวพาหวงหร่างมาทิ้งไว้ที่นี่ ทำให้เขาไม่กล้าจากไปที่ใด จำต้องเฝ้านางไว้ให้ดี เด็กกึ่งโตพวกนี้ซุกซนเพียงใดเขารู้ดีที่สุด สตรีที่ดูเหมือนวัตถุเวทผู้นี้งามจนชวนตกตะลึงราวกับคนที่มีชีวิตจริงๆ ยากจะแยกแยะจริงเท็จได้ มองดูก็รู้ว่าล้ำค่ายิ่ง
หากมีเด็กเสียมารยาทมือไม้อยู่ไม่สุข ทำให้ข้าวของของเจ้ากรมเสียหายจะทำเช่นไร
เขาเป็นเซียนเซิงที่ระวังรอบคอบทีเดียว
หวงหร่างฟังการสอนมาตลอดช่วงเช้า พอเข้าใจสถานการณ์ของการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์จำหน่ายในตอนนี้ได้บ้างแล้ว อย่างไรเสียนางก็ถูกกักขังลงทัณฑ์มาสิบปี และการเปลี่ยนแปลงในโลกภายนอกก็มักจะรวดเร็วเสมอ ในใต้หล้านี้มีพันธุ์พืชดัดแปลงหลายอย่างที่นางไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
เมื่อเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยดังขึ้นนอกประตู หวงหร่างก็รู้ว่าตี้อีชิวมาแล้ว
อยู่ร่วมกันแค่เพียงหนึ่งวัน นางสามารถแยกแยะเสียงฝีเท้าของเขาได้แล้ว หลังจากนั้นนางก็ตระหนักได้ว่า…เวลายามเช้าผ่านไปไวปานนี้เชียว เหมือนแค่กะพริบตาก็ผ่านพ้นไป
สิบปีที่ผ่านมา หนึ่งวันของนางนานนับปี ครั้นรู้สึกว่าเวลาไหลผ่านดั่งสายน้ำก็ประหลาดใจเหลือหลาย
ตี้อีชิวเข็นนาง หลี่ลู่ถือขวดและกระปุกเหล่านั้นเดินตามหลังไปเงียบๆ
…รู้มาแต่ไหนแต่ไรว่าสตรีผลาญเงินเก่งนัก แต่คิดไม่ถึงว่าตุ๊กตาปลอมตัวหนึ่งก็ผลาญเงินดุจสายน้ำได้เช่นกัน! แค่ข้าวของเหล่านี้ก็เกือบเท่าเบี้ยหวัดครึ่งเดือนของข้าแล้ว!