“ไฉนจึงเป็นเช่นนี้ไปได้!” ตู้ฮุ่ยอุทานออกมา
ซย่าโหวอวี๋หมุนตัวกลับมาพลางเงื้อมือขึ้น โคมไฟรูปนกกระเรียนคาบเห็ดหลิงจือข้างเตียงพลันล้มลงบนพื้นเสียงดัง น้ำมันตะเกียงสาดลงบนพื้นทั้งหมด ไฟลุกขึ้นพร้อมเสียงดังพรึ่บ
“เป็นใคร! เป็นฝีมือของผู้ใดกัน!” กลิ่นอายดุดันวนเวียนอยู่ตรงหว่างคิ้วของซย่าโหวอวี๋ นางยกเท้าถีบไปที่หน้าอกของเถียนเฉวียน “บ่าวเฒ่าผู้นี้! เจ้าถึงกับกล้าให้โอรสสวรรค์เสพหานสือซั่น รึ เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ!”
เถียนเฉวียนถูกถีบจนส่งเสียงครางเบาๆ แต่กลับไม่กล้าแม้แต่จะปริปากร้อง “จ่างกงจู่ จ่างกงจู่!” น้ำตาของเขาไหลพราก ไม่มีคำโต้แย้งแม้แต่คำเดียว
ซย่าโหวอวี๋รู้ว่าไม่ใช่เถียนเฉวียน ชาติก่อนหลังจากซย่าโหวโหย่วเต้าสวรรคต เขาก็ตามนางออกจากวังไปด้วย ภายหลังยังติดตามไปที่ไร่ชานเมือง ช่วยนางดูแลงานทั่วไปภายในนั้น มีความจงรักภักดียิ่ง ทำงานไม่เคยผิดพลาดมาก่อน แล้วใครกันที่เป็นคนมอบหานสือซั่นให้กับน้องชายนาง
น้าชายคนเล็กของนางตายเพราะหานสือซั่น ซย่าโหวอวี๋กับซย่าโหวโหย่วเต้าเห็นสภาพตอนตายของน้าชายกับตาตนเอง ดังนั้นนางจึงรังเกียจคนที่เสพหานสือซั่นเป็นพิเศษ เวลาเลือกสามีถึงขั้นยกเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขข้อแรก เป็นไปไม่ได้ที่น้องชายนางจะไม่รู้โทษของหานสือซั่น แล้วเขาจะเสพหานสือซั่นได้อย่างไร
ซย่าโหวอวี๋ถีบเถียนเฉวียนอีกครั้ง แล้วเอ่ยถามเสียงเฉียบ “หมอเล่า”
อาจเพราะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว หมอหลวงจึงค้อมกายเดินเข้ามา แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าซย่าโหวอวี๋ พูดตะกุกตะกัก “โอรสสวรรค์…โอรสสวรรค์ร่างกายอ่อนแอ ฤทธิ์ของหานสือซั่นจึงสลายไปไม่หมด ดังนั้น…ดังนั้น…”
ซย่าโหวอวี๋ยิ้มเย็น “ข้าต้องให้เจ้าบอกด้วยรึ! เจ้าแค่บอกมาว่าเจ้ามีปัญญารักษาหรือไม่!”
หมออ้ำอึ้งอยู่นานก็ไม่อาจเอ่ยประโยคที่สมบูรณ์ออกมาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีวิธีรักษาอะไร
“พวกไม่ได้เรื่อง วังหลวงเลี้ยงพวกเจ้าไว้จะมีประโยชน์อะไร!” ซย่าโหวอวี๋เดือดดาลยิ่ง นางหันไปตวาดเถียนเฉวียน “ในราชสำนักมีขุนนางท่านใดเสพหานสือซั่นบ่อยครั้งบ้าง รีบไปตามเขาเข้าวังมาดูอาการของโอรสสวรรค์โดยเร็ว!” คนพวกนั้นย่อมรู้วิธีสลายพิษยา
เถียนเฉวียนตอบเสียงค่อย “กระหม่อมส่งคนไปเชิญเซี่ยตันหยางมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เซี่ยตันหยาง นามว่าสยา เป็นบุตรชายของเซี่ยเม่าผู้เป็นอันโหวและดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ ราชเลขาธิการและลู่ซั่งซูซื่อของราชวงศ์ฮั่นเดิมเป็นผู้สันทัดเรื่องการดนตรี เก่งกาจด้านอักษร เชี่ยวชาญการทำพิณ มีชื่อเสียงมาตั้งแต่เด็ก ทว่ากลับมีนิสัยรักอิสระชอบทำตามใจตนเอง ยอมดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองตันหยางโดยไม่ยอมเลื่อนขั้น จึงถูกผู้คนเรียกขานว่าเซี่ยตันหยาง
เขาชอบเสพหานสือซั่นจนขึ้นชื่อ ครั้งหนึ่งยังเคยแก้ผ้าเดินไปทั่วเขตชุมชนเพราะเสพหานสือซั่นจนถูกอู่จงฮ่องเต้ตำหนิ
ซย่าโหวอวี๋สบายใจขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงไม่วางใจ “ยังมีผู้ใดอีก ไปเชิญมาให้หมด!”
เถียนเฉวียนตอบ “ส่งคนไปเชิญแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ซย่าโหวอวี๋พยักหน้า นางนั่งลงข้างเตียงของซย่าโหวโหย่วเต้า กุมมือเขาเอาไว้ มือของซย่าโหวโหย่วเต้าเย็นเฉียบ ปลายนิ้วเป็นสีเขียวม่วงเล็กน้อย ซย่าโหวอวี๋หัวใจพลันหดเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง
นางก้มหน้า ก่อนจะจับมือของน้องชายวางบนหน้าผากนาง อ้อนวอนกับเทพเซียนบนท้องฟ้า ขอเพียงให้น้องชายนางพ้นเคราะห์ครานี้ไปได้ จะให้นางทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!
น้ำตาไหลรินจากขอบตาของซย่าโหวอวี๋เงียบๆ นางคิดว่าในเมื่อเทพเซียนให้นางมีชีวิตใหม่แล้ว แสดงว่าต้องรักใคร่และสงสารนางมากเป็นแน่ หากนางร้องขอแทนน้องชาย เทพเซียนเหล่านั้นต้องเผื่อแผ่ความรักมาถึงน้องชายนางด้วยแน่ และช่วยชีวิตน้องชายนางให้รอดพ้นจากความตาย หาไม่แล้วจะให้นางมีชีวิตใหม่อีกครั้งเพื่ออะไร