กวนอวิ๋นซีกอดอก มองตรงไปยังอีกฝ่ายที่แสดงอำนาจบาตรใหญ่ เอ่ยยิ้มๆ “ข้าสามารถหาที่นี่เจอ รู้เรื่องของพวกท่าน ล้วนเป็นเพราะหัวหน้าใหญ่บอกข้าทั้งนั้น นี่คือข้อพิสูจน์”
สยงไห่ถลึงตาใส่นาง จู่ๆ ก็แสยะยิ้มอย่างน่าสะพรึงกลัว
“เรื่องพวกนี้หากจะสืบให้ละเอียดก็ไม่ใช่เรื่องยาก นางตัวแสบ เจ้านึกว่าพูดมาแค่ไม่กี่ประโยคก็จะหลอกข้าได้หรือ หากวันนี้เจ้าไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ พวกเจ้าทั้งสองคนก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดกลับออกไปได้”
ฉู่เหิงจือขมวดคิ้ว หันไปมองกวนอวิ๋นซี เขาเห็นว่านางยังคงใจเย็นอยู่และยิ้มอย่างมีเสน่ห์มากขึ้น น้ำเสียงแฝงไปด้วยความซุกซน
“ท่านเป็นคนบอกให้ข้าพิสูจน์เองนะ ข้ายังรู้ว่าทุกสองสามวันท่านจะต้องไปยังทะเลสาบหลังเขา มองผิวเผินนึกว่าท่านไปอาบน้ำ แต่อันที่จริงเพราะภายในทะเลสาบนั้นมีถ้ำเล็กๆ ท่านซ่อน…”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” สยงไห่ตะโกนเสียงดังลั่น เดิมทีเสียงเขาก็ใหญ่อยู่แล้ว พอตะโกนก็ทำให้คนรอบด้านตกใจไปหมด มีเพียงกวนอวิ๋นซีที่ยังยิ้มอย่างสงบอยู่ได้ราวกับคาดเดาถึงท่าทีของเขาก่อนหน้าแล้ว
สยงไห่ในยามนี้หน้าถอดสีไปนานแล้ว เขาถลึงตามองนางด้วยความหวาดกลัวราวกับเห็นผี มองซ้ายทีมองขวาที มีคนมากมายอยู่รอบด้าน เขาจึงส่งสัญญาณให้นางไปคุยกันด้านข้าง
กวนอวิ๋นซีเดินตามเขาไป หลังจากแน่ใจแล้วว่าอยู่ห่างจากคนอื่นสยงไห่จึงกระซิบถามพลางกัดฟันกรอด “สาวน้อย เจ้ารู้ได้อย่างไร” คนที่รู้ว่าเขาซ่อนสุราไว้ในทะเลสาบหลังเขามีเพียงหัวหน้าใหญ่เท่านั้น
“ข้ายังรู้ว่าหากน้าหลิ่วรู้เรื่องท่านผิดคำสาบาน แอบนางไปดื่มสุรา นางก็จะเลิกกับท่านแล้วพาลูกหนีไป”
สยงไห่ถลึงตามองนางราวกับเห็นผี นางรู้แม้กระทั่งเรื่องนี้?
ครั้นเห็นนางยิ้มอย่างพิเรนทร์ รอยยิ้มนั้นละม้ายคล้ายกับหัวหน้าใหญ่ที่เสียชีวิตไปแล้วทำให้เขารู้สึกดีอย่างน่าประหลาด คราวนี้เขาคงจะต้องเชื่อแล้วล่ะ สตรีนางนี้อาจจะเป็นน้องสาวร่วมสาบานของหัวหน้าใหญ่จริงๆ มิเช่นนั้นจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
สยงไห่มองนางด้วยอารมณ์ซับซ้อนแล้วค่อยมองไปทางคนอื่น คนพวกนั้นก็กำลังจ้องมาทางพวกเขาอย่างแปลกใจ เขาอดรนทนไม่ไหว เพียงกระแอมกระไอแล้วเอ่ยเสียงดังลั่น “เข้าใจแล้ว ในเมื่อเจ้าเป็นน้องสาวร่วมสาบานของหัวหน้าใหญ่ก็ถือว่าเป็นแขกพิเศษของพวกเรา ตามข้ามา”
สยงไห่หมุนตัวนำพวกเขาทั้งสองเข้าไปในค่าย คนอื่นเห็นว่าสยงไห่อนุญาตแล้วก็เก็บหอกและหลาวถอยไปด้านข้าง ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาในค่าย ขณะเดียวกันก็มองตรวจสอบพวกเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น
ฉู่เหิงจือเดินไปกับนางพลางกระซิบถาม “เขาซ่อนสุราไว้ในทะเลสาบหลังเขาจริงๆ หรือ”
กวนอวิ๋นซีค้อนเขาขวับหนึ่ง เกลียดคนที่มีวรยุทธ์สูงส่งนัก หูดีเกินไป ซุบซิบอะไรเขาก็ได้ยิน
นางจึงทำได้เพียงกระซิบบอกกับเขา “เรื่องนี้ท่านจะต้องเก็บเป็นความลับ อย่าพูดออกไปเชียวนะ”
“เจ้าจะใช้อะไรมาซื้อข้าหรือ”
เดิมทีเขาคิดแค่ว่าจะเอ่ยไปเรื่อยเปื่อย คิดไม่ถึงว่านางจะมองสยงไห่ที่อยู่เบื้องหน้าแวบหนึ่งแล้วหันกลับมาเอ่ยกับเขาอย่างจริงจัง “ขอเพียงท่านรับปากว่าจะไม่พูด ข้าก็จะให้ท่านดื่มสุราหูจงเซียน”
“สุราหูจงเซียน?”
“สุราที่เขาแอบซ่อนไว้ในทะเลสาบ”
เจ้าจะขโมยสุรามาติดสินบนข้า?
ครั้นเห็นเขาจ้องนางอย่างเงียบงัน นางนึกว่าเขาไม่เชื่อจึงเอ่ยเสริมอย่างจริงจังอีกครั้ง “ท่านวางใจ ข้ารู้ตำแหน่งที่เขาซ่อนสุราไว้”
“เจ้ามาจัดการเรื่องสำคัญหรือจะมาปล้นพวกโจรกันแน่”
“นี่ข้ามาทำกุศลนะ ถ้าหมีตัวนั้นดื่มสุรามากไปจะเป็นผลเสียต่อร่างกาย พวกเราไปดื่มสุราของเขาบ้าง เขาก็จะได้มีชีวิตรอดอีกหลายปี พวกเราเห็นคนกำลังจะตายแล้วไม่ช่วยไม่ได้นะ”
“…” เขาพูดไม่ออกในทันใด