ในจดหมายกล่าวถึงสองสามเรื่อง เรื่องเหล่านี้มีเพียงหัวหน้าใหญ่ตัวจริงเท่านั้นถึงจะรู้ ทำให้พวกเขาจะไม่เชื่อก็ไม่ได้ นี่เป็นจดหมายก่อนตายของหัวหน้าใหญ่จริงๆ
“พี่รอง ในจดหมายเขียนอะไรไว้บ้าง”
สือโม่เฉินช้อนตามองน้องสามแล้วก็มองไปที่สตรีนางนั้นแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเนิบช้า “ในจดหมายเขียนไว้ว่าเฟยอิงที่มาส่งจดหมายเป็นน้องสาวร่วมสาบานของนาง ทั้งยังย้ำว่าทุกคนในค่ายต้องเชื่อนาง ห้ามกลั่นแกล้งนาง จะต้องเห็นนางเป็นคนกันเอง เพราะนางจะช่วยพวกเรารับมือกับทางการต่อไป ทำตามแผนของหัวหน้าใหญ่ที่ยังไม่สำเร็จ”
ครั้นไฉหลางได้ฟังก็ดีใจยิ่งนัก อันที่จริงเขารู้สึกถูกชะตากับกวนอวิ๋นซีอยู่แล้ว
“ประเสริฐนัก พวกเรามีพวกเพิ่มมาอีกคนแล้ว”
สือโม่เฉินเหลือบมองน้องสาม “เจ้าเชื่อนาง?”
“เชื่อสิ”
ไฉหลางตอบอย่างไม่ลังเลสักนิด เมื่อเห็นพี่รองยังสงสัยอยู่เขาก็โน้มตัวไปด้านหน้า กระซิบข้างหูพี่รอง
“พี่รอง นางรู้เรื่องที่ข้าแพ้พนันแล้วถอดกางเกงกระโดดลงน้ำด้วย เรื่องนี้มีเพียงท่านและหัวหน้าใหญ่เท่านั้นที่รู้ นางกลับเล่ามาได้อย่างละเอียด แสดงว่าหัวหน้าใหญ่บอกนางหมดทุกอย่าง อีกอย่างค่ายนี้ลึกลับซับซ้อนนางก็หาทางมาได้ เห็นชัดว่าหัวหน้าใหญ่ไว้วางใจนางอย่างมาก แล้ว…”
“มีอะไรอีก”
ไฉหลางยิ้มแย้ม “ท่านอย่ามองว่านางงามหยาดเยิ้มเพียงอย่างเดียว นิสัยนางยังเหมือนหัวหน้าใหญ่ด้วย แม้แต่สำเนียงการพูดก็เหมือน”
ครั้นสยงไห่ที่อยู่ด้านข้างได้ฟังก็รู้สึกเห็นพ้อง
“หัวหน้ารอง ข้าก็มีความรู้สึกนี้เช่นกัน สตรีนางนี้พูดจาคล้ายหัวหน้าใหญ่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นสำเนียงหรือแววตาล้วนเหมือนหัวหน้าใหญ่ไม่มีผิดเพี้ยน บอกว่านางเป็นน้องสาวร่วมสาบานกับหัวหน้าใหญ่ก็มีความเป็นไปได้อยู่มาก”
จู่ๆ สือโม่เฉินก็แสดงสีหน้าเย็นยะเยือก
“ถึงจะเลียนแบบให้เหมือนอย่างไรนางก็ไม่ใช่เฟิงเอ๋อร์”
ครั้นสยงไห่ได้ฟังก็หุบปากทันควัน
ไฉหลางที่อยู่ด้านข้างพอเห็นพี่รองไม่พอใจก็เอ่ยเกลี้ยกล่อมให้จบลงด้วยดี “แน่นอน บนโลกนี้มีหัวหน้าใหญ่เพียงผู้เดียวเท่านั้น สตรีนางใดก็เทียบนางไม่ได้”
เขารู้ว่าพี่รองหลงรักหัวหน้าใหญ่ เขาเองก็เช่นกัน ในใจพวกเขาพี่น้องสองคนคิดถึงแต่สตรีนางเดียวกัน เพียงแต่พี่รองยึดมั่นในเรื่องนี้มากกว่าเขา คนที่รู้เรื่องนี้มีไม่มาก มีเพียงเขาและสยงไห่
สือโม่เฉินแสดงสีหน้าเย็นยะเยือกเพียงชั่วพริบตาแล้วก็กลับมาสู่ความสุภาพดังเดิม หันไปกล่าวขออภัยกับสยงไห่ “อาสยงอภัยให้ข้าด้วยที่ข้าพลั้งปากไป”
“พูดอะไรของท่าน หัวหน้ารองพูดถูกอยู่แล้ว ข้าเห็นด้วยทั้งหมด” สยงไห่รีบเอ่ย แต่ในใจกลับถอนใจ หัวหน้ารองยึดมั่นในตัวหัวหน้าใหญ่เพียงใดเขาย่อมรู้ดี เพียงแต่น่าเสียดายที่หัวหน้าใหญ่จากไปแล้ว
สือโม่เฉินลังเลชั่วครู่ เขาเงยหน้ามองสตรีที่เรียกตัวเองว่าเฟยอิง เอ่ยกับนางอย่างชัดเจน “ข้าจะเชื่อเจ้าก็ได้ แต่ข้าไม่ไว้ใจเขา”
เขาในที่นี้หมายถึงฉู่เหิงจือ