“เจ้าเป็นใครกันแน่” แววตาเขาดูอันตรายยิ่งนัก สีหน้าน่าสะพรึงยิ่งขึ้น
“ข้ามีนามว่าหลี่ซื่อ อาศัยอยู่ในหมู่บ้านสกุลหวัง อยู่ในลำดับที่แปด ปกติขายไข่เป็นอาชีพ”
เขาตะลึงงัน ตอนที่พบนางในอี้จวงนางก็กล่าวเช่นนี้ เพียงแต่ตอนนั้นเขานึกว่านางแต่งเรื่อง
“เจ้ามีนามว่าหลี่ซื่อจริงหรือ”
กวนอวิ๋นซีหันไปมองเขา จู่ๆ ก็ฉีกยิ้ม หัวเราะฮ่าๆ ออกมา ชวนให้เขาแปลกใจอยู่พักหนึ่ง อดขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจไม่ได้
“เจ้าหัวเราะอะไร”
นางหัวเราะร่าพลางชี้ไปทางเขา เอ่ยว่า “หลี่ซื่อ สกุลหวัง อยู่ในลำดับที่แปด ขายไข่!”
ฉู่เหิงจือไม่เข้าใจ ทว่าพอไตร่ตรองวาจาของนางให้ดี…
หลี่ซื่อ สกุลหวัง อยู่ในลำดับที่แปด ขายไข่? ครั้นนำมารวมกันโดยตัดหัวตัดหางออกก็คือ…เจ้าโง่*
ใบหน้าอันหล่อเหลาด้านชาโดยพลัน
“ฮ่าๆๆ…” กวนอวิ๋นซีตบไหล่เขา หัวเราะไม่หยุด
ฉู่เหิงจือหนังตากระตุก เขาแน่ใจมากว่าสตรีนางนี้ไม่เพียงเมาแล้ว ยังน่าตียิ่งนัก
เขานวดขมับที่ปวดตุบๆ ไม่เข้าใจว่าคืนนี้ตนเองเป็นอะไรถึงกับคิดจะมาหานางเพื่อดื่มสุรา ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะมีเวลาว่างหรือไม่มีอะไรทำ นี่เป็นการหาเรื่องชัดๆ เลย
“พอแล้ว ข้าไม่คุยเรื่องไร้สาระกับท่านแล้ว เชิญท่านตามสบายนะ…” หืม?
เขาพลันรู้สึกว่าหัวเข่าหนักอึ้ง พอก้มลงมองก็เห็นนางนอนอยู่บนตักเขา หลับตานอนอย่างสบายใจ
“…” เขารู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนัก นี่หรือที่เรียกว่าคอแข็ง เพิ่งดื่มไปไม่กี่ชาม ทั้งยังไม่ถึงครึ่งไหด้วยซ้ำก็เมาจนมีสภาพเช่นนี้แล้ว
ฉู่เหิงจือคลายมือที่กำหมัดออก ระงับความหุนหันพลันแล่นที่จะโยนร่างนางลงไป จะดีจะเลวอย่างไรยามนี้นางก็ยังได้ชื่อว่าเป็นว่าที่ภรรยาของตน ถ้าเตะนางลงไปจากหลังคาก็คงเสื่อมเสียชื่อเสียงของเขานัก
เขามองไปที่นาง สตรีนางนี้เผยอปากเล็กน้อย นอนหลับกรนเบาๆ หน้าแดงก่ำจนคล้ายกับแต้มชาดกระนั้น ดวงหน้าไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัย อันที่จริงดูแล้วก็น่ารักน่าเอ็นดู
ดวงตาเคลื่อนไปมองเรือนร่างนาง นางสวมอาภรณ์บางเบา เพราะยามนี้นางหลับอยู่ ด้วยเหตุนี้เส้นเว้าโค้งตรงส่วนหน้าอกที่ถูกปกคลุมไว้ก็เผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอวบอิ่มยิ่งนัก
นางไว้ใจเขาเกินไป อีกทั้งยังใจกล้ามาก จะดีจะเลวอย่างไรเขาก็เป็นบุรุษเพศ นางยังไม่ระวังตัวเช่นนี้?
หากจะกล่าวว่านางจงใจยั่วเขา เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด เพราะดูแล้วนางไม่มีความโศกเศร้าจากการถูกถอนหมั้นเลย แล้วก็ดูไม่ออกว่านางมีใจให้เขา นางกลับแสดงความเป็นตัวตนออกมาต่อหน้าเขาอย่างไม่เก็บงำสักนิด พูดจากำเริบเสิบสาน บางครั้งยังมาเอาใจประจบสอพลอ ฉวยโอกาสแอบด่าคน
นางก็มีฝีมืออยู่เหมือนกัน ทั้งๆ ที่นางมีเรื่องจะขอร้องยังกล้าด่าเขาว่าเจ้าโง่อีก
ฉู่เหิงจือยื่นมือออกไปบีบจมูกนางทำให้เกิดเสียงสั่นๆ เสียงหนึ่ง แล้วนางก็หลับอย่างสบายต่อไป
เขาไม่อาจโยนนางลงไปได้ ทั้งไม่สามารถโบยนาง และยิ่งไม่อาจเมินเฉยต่อนาง มิเช่นนั้นวันรุ่งขึ้นก็จะมีศพสตรีนางหนึ่งแข็งตายอยู่บนหลังคา พอถึงเวลานั้นก็จะมีข่าวลือออกไปตามตรอก กล่าวว่าแม่นางกวนกระโดดน้ำไม่ตายก็เปลี่ยนมาปีนขึ้นไปดื่มสุราดับทุกข์บนหลังคา ท้ายที่สุดก็เมาตายอยู่บนนั้น
ฉู่เหิงจือส่ายหน้า ช้อนร่างนางทั้งที่ยังนอนอยู่กระโดดลงไปอย่างไร้สุ้มไร้เสียง ส่งนางกลับห้องนอน