ตลอดทางเหมียวลั่วชิงหลับลึกมาก ครั้นนางลืมตาขึ้นอย่างงัวเงียก็ยังรู้สึกได้ถึงรถม้าที่โคลงเคลง แต่ก็ไม่ถึงขั้นส่ายไปส่ายมาจนไม่สบายตัว ถึงขนาดที่นางยังหลับได้อย่างสบาย
ทว่าจู่ๆ นางก็ตะลึงงันเมื่อพบว่ายามนี้ตนเองไม่ได้พิงผนังรถม้า แต่พิงร่างบุรุษผู้หนึ่งไว้…แผ่นอกของเขา?
สติครั้งนี้เรียกให้สมองนางตื่นตัวโดยพลัน ภายในตัวรถไม่มีใครอื่นอีกนอกจากนางและอี้ เช่นนั้นก็หมายความว่านางกำลังนอนพิงกับแผ่นอกของเขา
นางเลอะเลือนได้ถึงเพียงนี้ นอนอิงแอบแผ่นอกของใครยังไม่รู้ เห็นได้ชัดว่านางเชื่องช้าลงไปมาก
นางยังคงรักษาท่าทีไว้ไม่ยอมขยับ ขณะที่รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น นางไม่รู้ว่าจะแอบผละตัวออกมาหรือแกล้งหลับต่อไปดี แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องจะดีกว่าหรือไม่
ในขณะที่นางกำลังลังเล จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหายใจที่ราบเรียบดังมาจากด้านบน นางอดเหลือบมองอย่างสงสัยไม่ได้ แล้วก็พบว่าอี้กำลังหลับสนิทอยู่
นางกระจ่างแจ้งโดยพลัน มิน่าเล่า…หากเขายังตื่นอยู่จะยอมให้นางนอนพิงร่างเขาเช่นนี้หรือ เกรงว่าคงจะหลบไปนานแล้ว
ครั้นนึกถึงจุดนี้นางก็ผ่อนคลายลง ค่อยๆ ยืดตัวขึ้น เคลื่อนตัวไปด้านข้างจนมีระยะห่างระหว่างกัน
นางยื่นมือไปเลิกผ้าม่านเล็กน้อย อยากรู้ว่ายามนี้พวกเขาอยู่ที่ใดแล้ว
ครั้นมองออกไปนางก็งงงันไปเลยทีเดียว
ยามที่พวกเขาออกเดินทางท้องฟ้ายังคงมืดมิด ทว่ายามนี้แสงตะวันกลับส่องสว่าง รถม้าเคลื่อนไปบนถนน สองข้างทางกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีเทือกเขาสูงต่ำ ท้องฟ้าสีคราม เมฆขาวโพลน ออกห่างจากตัวเมืองที่อึกทึกครึกโครมและเหล่าองครักษ์เสื้อแพรที่ตรวจตราอย่างไม่หยุดหย่อน
ในที่สุดก็ออกจากเมืองแล้ว!
หลายวันนี้ความเคร่งเครียดที่นางออกจากเมืองไม่ได้ทำให้นางต้องหลบไปตรงนั้นทีตรงนี้ที รวมถึงความบีบคั้นจากอาการบาดเจ็บ ในที่สุดนางก็ปลดเปลื้องลงได้ในขณะนี้
หัวใจนางโบยบินอย่างยินดีปรีดา ดวงตางดงามเป็นประกายราวดวงดารา ทั่วทั้งร่างผ่อนคลายยิ่งนัก
ในที่สุดนางก็หลุดออกจากการข่มขู่ของหร่านเจียง ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าจะโดนเขาจับได้ว่าตนเป็นนักฆ่า ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปว่าจะตายอย่างน่าสมเพชในกำมือเขา ในที่สุดฝันร้ายชาติแล้วชาติเล่าก็สิ้นสุดลงเสียที โชคชะตาไม่หมุนวนกลับไปทางเดิมอีก
ในที่สุดชาตินี้นางก็เปลี่ยนชะตาของตนเองได้จริงๆ
ยามนี้เหมียวลั่วชิงอารมณ์ดียิ่งกว่าก้อนเมฆที่ลอยละล่องอย่างเบาหวิวที่ปลายขอบฟ้า ในสายตานาง ดอกไม้ใบหญ้าข้างทางที่ดูดาษดื่นกลับมีเสน่ห์ยิ่งกว่าดอกโบตั๋นเสียอีก เสียงร้องของอีกาบนต้นไม้ต้นนั้นยังไพเราะรื่นหูกว่านกขมิ้น
ทัศนียภาพเช่นนี้ ไม่ว่านางจะมองเห็นอะไรก็น่าดูน่าชมทั้งสิ้น
นางจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ ไม่รู้สักนิดว่ายามที่นางตื่นขึ้นมาอี้ก็รู้อยู่แล้ว ตลอดทางที่ผ่านมาเขาคงความตื่นตัวมาตลอด ดังนั้นทุกท่วงท่าของนางล้วนอยู่ในสายตาเขาทั้งสิ้น
อี้ไม่เข้าใจว่าไยตัวเองต้องแกล้งหลับ ไยจะต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่านางนอนพิงร่างเขา
ขณะที่นางผละกายออกจากแผ่นอกของเขานั้น นางก็ยังคงทิ้งความอ่อนนุ่มและความอบอุ่นของนางไว้บนร่างเขา กลิ่นอายของนางยังคงวนเวียนรอบตัวเขามาตลอดทาง
เขาจับจ้องดวงหน้าด้านข้างของนางอย่างเงียบเชียบ เหลือบเห็นมุมปากนางโค้งขึ้น
สัมผัสได้ว่านางเบิกบานใจยิ่งนัก ทั่วทั้งร่างแฝงไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ