บทที่ 6
ครั้นเหมียวลั่วชิงมาถึงโรงเตี๊ยมเยวี่ยไหล นางก็สืบข่าวคราวจากเสี่ยวเอ้อร์ เสี่ยวเอ้อร์สาธยายถึงสถานการณ์ในวันนั้นอย่างออกรสออกชาติ ในที่สุดนางก็เข้าใจสภาพการณ์คร่าวๆ แล้ว
หลังจากที่อี้ลอบสังหารไม่สำเร็จก็หนีไป เขาไม่ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของหร่านเจียง
ดูท่านางคงจะอยู่ในจวนสกุลหร่านต่อไปไม่ได้แล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงว่านางไม่อยากมีความสัมพันธ์ใดๆ กับหร่านเจียง แค่ทรยศต่อคำสั่งลอบสังหารแล้วยังช่วยชีวิตหร่านเจียงไว้อีก ทางสำนักไม่มีทางปล่อยนางแน่
หากนางยังอยู่ในจวนสกุลหร่านต่อไป จุดจบก็มีเพียงความตายสถานเดียว
หลังจากออกจากโรงเตี๊ยมเยวี่ยไหลนางก็เดินก้มหน้าก้มตาไปตามท้องถนน ยามนี้นางแต่งกายด้วยผ้าหยาบเช่นสตรีทั่วไป ละเลงจุดดำบนดวงหน้า จึงดูไม่สะดุดตา ไม่เป็นที่สังเกต
ตั้งแต่นางล้มเลิกการลอบสังหารหร่านเจียง นางก็เตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้ว รอเพียงวันใดที่สบโอกาส จะได้ออกจากจวนสกุลหร่านอย่างราบรื่น ยามนี้ความปรารถนาของนางก็เป็นจริงแล้ว
นางสะพายย่าม ตัดสินใจเดินทางออกจากเมืองทันที เนื่องจากนางยังคงบาดเจ็บ ไม่สะดวกที่จะสิ้นเปลืองกำลังภายใน ด้วยเหตุนี้นางจึงเรียกรถเทียมวัวมาคันหนึ่ง จ่ายเงินให้คนขับรถด้วยเศษเหรียญเพื่อให้เขาส่งตนออกจากเมือง
ครั้นรถเทียมวัวเคลื่อนไปได้สักระยะหนึ่งจู่ๆ ก็หยุดลง
เหมียวลั่วชิงเลิกผ้าม่านหน้าต่างขึ้นถามพลางขมวดคิ้ว “ท่านลุง ไยจึงไม่เคลื่อนที่เล่า”
คนขับรถเป็นบุรุษวัยห้าสิบกว่าปีหันมาตอบนางว่า “แม่นาง องครักษ์เสื้อแพรสืบคดีอยู่ด้านหน้า พวกเขาขวางถนนเอาไว้ ต้องรอแล้วล่ะ” น้ำเสียงของท่านลุงราวกับว่าไม่แปลกใจกับสถานการณ์เยี่ยงนี้เลย
ครั้นเหมียวลั่วชิงได้ยินคำว่าองครักษ์เสื้อแพรนางก็หน้าถอดสีโดยพลัน
“ท่านลุง อ้อมไปทางอื่นเถิด ข้าจะจ่ายเงินให้ท่านเพิ่ม”
“ได้เลย!” ครั้นคนขับรถได้ฟังก็เลี้ยวรถเทียมวัวไปทางตรอกอื่นทันที
รถเทียมวัวอ้อมรอบใหญ่ หลังจากผ่านถนนไม่กี่สายก็พบกับรถเทียมวัวคันอื่น คนขับรถคล้ายว่าจะเจอพวกเดียวกันจึงหยุดรถสนทนากับฝ่ายตรงข้ามแล้วหันกลับไปบอกนาง
“แม่นาง ได้ยินว่าถนนสายอื่นที่จะไปยังประตูเมืองถูกขวางไว้หมด องครักษ์เสื้อแพรกำลังตรวจสอบคน อย่างไรคงต้องรออีกนาน”
เหมียวลั่วชิงหน้าคว่ำโดยพลัน นางหยิบเศษเงินออกมาให้ท่านลุง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ช่างเถอะ ข้าเดินไปเองแล้วกัน” นางลงจากรถเทียมวัวทันที คนขับรถไม่ต้องทอนเงินให้นาง นางเดินสะพายย่ามไปด้วยตนเอง
เหมียวลั่วชิงเดินปะปนไปกับกลุ่มผู้คน เห็นองครักษ์เสื้อแพรจำนวนไม่น้อยเดินไปเดินมา ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นก็ซุบซิบกันเป็นระลอก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น คงไม่ใช่ว่าขุนนางคนใดถูกค้นบ้านยึดทรัพย์อีกนะ” มีคนถามขึ้น
“ไม่ใช่ค้นบ้านยึดทรัพย์ ได้ยินว่าใต้เท้าหร่านจะมาจับคน”
“ใครน่ะ นักโทษหนีตายหรือ”
“ข้าก็ไม่แน่ใจนัก แต่คล้ายว่าจะมาตามหาสตรีนางหนึ่ง องครักษ์เสื้อแพรกลุ่มใหญ่ขวางถนนสายสำคัญที่จะมุ่งหน้าออกจากเมืองแต่ละสายไว้ กำลังตรวจสอบทีละคนๆ”
“ก็แน่สิ ข้าได้ยินว่าองครักษ์เสื้อแพรเฝ้าประตูเมืองไว้หมด ตรวจสอบทุกคนที่จะออกจากเมืองอย่างเข้มงวด!”