‘ยังมีหน้ามาถามฉันอีกว่าจะทำอะไร ฉันถามนายหน่อย ทำไมอยู่ๆ นายก็ไม่มาเรียน ช่วงนี้นายเอาแต่ไปเหลวไหลอยู่ที่ไหน แล้วนายเอาเงินมาจากไหน’
เธอมองดูก้านบุหรี่บนพื้นใต้เท้าเขาที่ยังมีควันก็เข้าไปเหยียบให้ดับ
‘ยังสูบบุหรี่อีก? นายอายุเท่าไหร่ นายขับรถแบบนี้เหรอ นายมีใบขับขี่ไหม ถ้าให้ตำรวจมาจับ นายจะ…’
‘พอได้รึยัง! ฉันรำคาญพวกที่ปากเอาแต่พูดจาบูชาคุณธรรมอย่างเธอเต็มทีละนะ ทนเธอมานานแล้ว! คิดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้ามาโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์เหรอ ถ้าสูงส่งนักก็กลับไปเล่นในที่ของตัวเอง อย่ามากวนฉัน!’
ดูเหมือนเขาจะรวบรวมสติได้ ดึงบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้ออย่างเกียจคร้าน แล้วล้วงไฟแช็กออกมา ก้มหน้าจุดบุหรี่อีกครั้ง
สิ่งที่จ้าวหนานเซียวเกลียดที่สุดก็คือการที่เขาทำตัวเป็นหนุ่มเสเพลไม่แยแสสนใจอะไรทั้งนั้น เห็นแล้วขัดตา
ถ้าเป็นเมื่อหลายเดือนก่อน ได้ยินเขาพูดจาแบบนี้กับเธอ เธออาจจะยังเสียใจอยู่ แต่ว่าตอนนี้เธอเลิกกลัวเขาไปนานแล้ว อีกอย่างเขายังเด็กกว่าเธอด้วยซ้ำ
ถึงจะเด็กกว่าแค่หนึ่งปีก็ถือว่าเด็ก
จ้าวหนานเซียวเข้าไปแย่งบุหรี่ที่เขาเพิ่งจุดแล้วเหยียบให้ดับอีกครั้ง
‘ทนไม่ไหวนายก็บอกมาตั้งแต่แรกสิ ตอนแรกทำไมไม่บอก เป็นใบ้เหรอ ฉันเสียเวลากับตัวนายไปมากมายขนาดนี้ ตอนนี้นายยอมแพ้กลางคันยังมาบอกว่าฝืนทนฉันอีกเหรอ สวีซู่ฉันจะบอกให้นะ ไม่มีทาง! นายก็เลิกเล่นไม้นี้ต่อหน้าฉันสักที! นายบอกมาว่านายกำลังทำอะไร’
เขาจ้องเธออยู่พักใหญ่ พลันยกมือตบที่เบาะหลัง
จ้าวหนานเซียวชะงัก ‘ทำอะไร’
‘ก็เธอถามไม่ใช่เหรอ ฉันจะเติมเต็มความอยากรู้ของเธอเดี๋ยวนี้แหละ พอใจยัง!’
จ้าวหนานเซียวคิดไม่ถึงว่าอยู่ๆ เขาจะเปลี่ยนท่าที จึงลังเลอีกครั้ง
ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว ที่นี่เป็นชานเมือง ห่างจากตัวเมืองไกลพอสมควร เธอยังตัวคนเดียว…
‘ไม่ไปใช่ไหม งั้นก็กลับบ้านไปท่องหนังสือของเธอดีๆ อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้าน’
สวีซู่พูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง พูดจบก็หันตัว ยื่นมือไปบิดกุญแจรถมอเตอร์ไซค์สตาร์ตเครื่อง ท่ามกลางเสียงบรื้นๆ ทุ้มต่ำ ท่อไอเสียขนาดใหญ่ที่สองข้างของล้อหลังก็พ่นควันออกมา
เห็นเขากำลังจะจากไปอย่างรวดเร็ว จ้าวหนานเซียวรู้สึกร้อนอยู่ในอก สาวเท้าเดินไปถึงข้างหลังเขาแล้วใช้มือและเท้าปีนขึ้นไปด้วยความว่องไวยิ่งยวด เมื่อสะโพกนั่งลงบนเบาะหลัง สองมือก็จับเสื้อเขาเอาไว้
ครั้งนี้ถึงคราวที่เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายแปลกใจ
เขาหันหน้ามา มองดูมือที่จับเสื้อตนเองของเธอทีหนึ่ง สีหน้าบิดเบี้ยว ‘ทำอะไร ปล่อยนะ! ลงไปซะ!’
‘นายเรียกให้ฉันขึ้นมาเอง!’
จ้าวหนานเซียวตอกกลับประโยคหนึ่ง วันนี้เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าวันทั้งวันเขามัวแต่ทำเรื่องเหลวไหลอะไรกันแน่
สวีซู่นิ่วหน้ามองเด็กสาว สายตาเธอจ้องไปข้างหน้าไม่มองเขา
อยู่ๆ เบื้องหน้าจ้าวหนานเซียวก็มืดลง หมวกกันน็อกใบหนึ่งหล่นลงมาจากฟ้า สวมลงบนศีรษะเธอ
‘นั่งให้ดี เกาะแน่นๆ นะ!’
สิ้นเสียงพูด รถมอเตอร์ไซค์ก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว