ไม่อย่างนั้นทำไมต้องขอโทษ ทำไมถึงขั้นต้องลงไปกราบตักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และทำไม…หลานสาวของท่านถึงได้ไร้ออร่าความสุขของคนจะเป็นเจ้าสาว
ธิติธรซึ่งยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นหลับตา กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนลืมตาขึ้นมาสารภาพความจริงสีหน้าหนักแน่นซื่อตรง…อย่างที่เขาเคยเป็นมาตลอด
“วันนั้นผมไม่ได้ขอน้องไพรม์แต่งงาน…แต่ขอเลิกกับน้องไพรม์ครับ”
สิ้นคำพูดของธิติธร ทั้งที่มีคนอยู่กว่าสิบชีวิต ทว่านอกจากเสียงคลื่นลมแล้ว ทุกอย่างกลับตกอยู่ในความเงียบ แววตาของหลายคนสะท้อนให้เห็นว่ามีสิ่งที่สงสัยแต่ไม่รู้ว่าควรเปิดปากถามอย่างไร
พันธิตรามองสถานการณ์ตรงหน้าแล้วถอนหายใจ ผู้หญิงที่ถูกถอนหมั้นเมื่อไม่กี่วันก่อนขยับตัวเพียงนิดเดียวก็ตกเป็นเป้าสายตาของเครือญาติทั้งหมด โดยเฉพาะบิดา…ที่แววตาของท่านเจ็บร้าวยิ่งกว่าคนถูกขอเลิกอย่างเธอ
อดีตสถาปนิกสาวขยับตัวเข้าไปแทรกระหว่างเก้าอี้บิดามารดา โอบกอดพวกท่านไว้และรับกอดจากน้องสาวอีกทีหนึ่ง ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ ผละออกจาก ‘เซฟโซน’ ของตัวเอง เงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามจากทุกคน
“ค่ะ วันนั้นพี่ตรีไม่ได้ขอไพรม์แต่งงาน…แต่ขอถอนหมั้นกับไพรม์…หรือให้ถูกก็คือขอเลิกกันไปเลยต่างหาก ส่วนเหตุผล…” พันธิตราถอนหายใจ รังเกียจเกินจะเอ่ยถึงสาเหตุที่เธอสุดแสนจะชิงชัง “ไพรม์ช่วยพูดขนาดนี้แล้ว ที่เหลือรบกวนพี่ตรีอธิบายเองเถอะค่ะ ไพรม์รังเกียจที่จะพูด”
คำว่า ‘รังเกียจ’ จากปากจิ้มลิ้มนั้นดูรุนแรงเกินกว่าปกติที่พันธิตราจะพูดออกมา นั่นทำให้เกือบทุกคนพอเดาได้รางๆ ว่าสาเหตุมาจากอะไร
“ธิติธร!” คุณปริมลุกขึ้นยืนพรวด ฟาดเข้าที่หัวไหล่ลูกชายอย่างไม่ออมแรง ดวงตารื้นด้วยน้ำตา เดาได้เลยว่าอะไรทำให้ท่านกำลังจะสูญเสียว่าที่ลูกสะใภ้สุดที่รักไป
“ผมผิดเอง…ผมนอกใจน้องไพรม์ ผม…ไปรักผู้หญิงอีกคน”
ธิติธรสารภาพความจริงออกมา แววตาชายหนุ่มแฝงซึ่งความเจ็บปวด เสียใจ และรู้สึกผิด ทว่าสำหรับคนอื่นๆ โดยเฉพาะบุพการีของเขา ของพันธิตรา และผู้เชียร์ออกนอกหน้ามาตลอดอย่างปรนิมมิตา ไม่มีใครให้อภัยหรือมองเห็นความรู้สึกเหล่านั้น
คุณปริมสูดลมหายใจลึก ก่อนจะค่อยๆ เอนตัวลงทำท่าเหมือนจะเป็นลม ร้อนถึงคุณธนวัฒน์และธิติธรต้องรีบประคองไว้ ทว่าท่านกลับปัดมือบุตรชายออกอย่างไม่ไยดี
“ไม่ต้อง! ไม่ต้องมาแตะตัวฉัน!” เพราะดีร้ายอย่างไรคุณปริมก็ไม่ยอมให้ลูกถูกตัว จึงต้องให้เมธาวีช่วยประคองกลับไปนั่งตามเดิมแทน
ดวงตาคนเป็นแม่แดงเรื่อ น้ำตาแห่งความผิดหวัง เสียใจ และ…ละอายใจต่อครอบครัวของว่าที่ศรีสะใภ้หลั่งริน อดเค้นน้ำเสียงถามไม่ได้
“ทำไม…ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้! ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใคร ทำไมมันถึงทำให้ลูกที่ซื่อสัตย์รักเดียวกับน้องไพรม์มาเป็นสิบปี…เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”
“ผมไม่รู้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ” ชายหนุ่มส่ายหัว เขาก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร…หัวใจที่มั่นคงของเขาถึงได้ไหวเอนไปกับหญิงสาวที่อยู่ในสถานะ ‘คู่กัด’ มาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยจนกระทั่งมาทำงานที่เดียวกันก็ยังคงเป็นแบบนั้นมาตลอดหลายปี
บางที…อาจจะเป็นตอนที่เขาค้นพบว่าภายใต้ท่าทางร่าเริงสดใสดุจตะวันดวงน้อยๆ ผู้คอยมอบความสุขสดชื่นให้คนอื่น ผู้หญิงที่ดูแกร่งกล้าปากดีและไม่กลัวใครคนนั้นได้ซุกซ่อนอีกตัวตนที่แสนจะอ่อนแอเปราะบางเอาไว้
“ที่ผมรู้คือ…ตอนนี้สำหรับผม น้องไพรม์จะเป็นน้องสาวที่ผมรักและเอ็นดูตลอดไป”
“เหอะ!” คุณเควินแค่นหัวเราะ ก่อนค่อยๆ ดึงลูกสาวขึ้นอย่างนุ่มนวลแล้วร้องถามเสียงแข็ง “ถามหน่อยมั้ยว่าลูกสาวฉันอยากได้แกเป็นพี่ชายรึเปล่า”
พ่อที่เดือดจัดเพราะลูกรักโดนนอกใจแทบอยากจะถลาไปต่อยอดีตว่าที่ลูกเขย ติดที่ท่านยังเกรงใจบุพการีอีกฝ่ายอยู่ มิฉะนั้น…