ทดลองอ่าน Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์ เล่ม 1 บทที่ 7 – 8 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์

ทดลองอ่าน Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์ เล่ม 1 บทที่ 7 – 8

โจ้วชวน : ก่อนอื่นคือเราไม่ได้มีความรักบนโลกออนไลน์ เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์และสวยงามระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยง อีกอย่างเธอไม่รู้ว่าฉันคือ Mr. L แต่สัญญา หนังสือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำลั่ว ที่กำลังจะเซ็นก็ไม่ได้แย่ สุดท้ายเธอเห็นคอลเล็กชั่นภาพวาดฉบับลิมิเต็ดอีดิชั่นของแม่นางเจี่ยนตรงโถงทางเดินก่อนออกจากบ้าน ตอนนั้นเราอดหลับอดนอนแย่งมันมาด้วยกัน ฉันกลัวว่าเธอจะคว้ามันมาไม่ได้โอ๊ย ไม่พูดละ พอพูดถึงตรงนี้แล้วฉันไม่ควรใจอ่อนทำความดี นายว่ากรรมมันจะตามมาหรือยังแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งสำคัญคือท่าทีฉันมันเลวร้ายจนทำให้เธอต้องหอบสัญญาการตีพิมพ์สี่หมื่นห้าพันเล่มนั้นเดินออกไปจนลับตา

เจียงอวี่เฉิง : กับจำนวนการตีพิมพ์แค่นี้ จริงๆ ก็สมควรแล้วที่เธอจะเดินออกไป ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไรเลยในเมื่อเธอไม่รู้สักหน่อยว่านายคือ Mr. L แล้วนายจะตื่นตกใจไปทำไม

โจ้วชวน : ความจริงน่ะ ต่อให้ปิดไว้ยังไงก็ไม่มิดหรอก ฉันกลัวว่าเธอจะมารู้ทีหลัง พอนึกถึงวันนี้ที่ไม่ให้เกียรติเธอและหยาบคายจนน่ารังเกียจจนเธอต้องเดินออกไป ฉันคงจะเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า บ๊ายบาย หลายปีที่เคยรัก แม่นางเจี่ยนขององค์ชายโจ้วชวนผู้อ่อนโยนดั่งหยกให้ตัวเอง จากนั้นมันก็จะอยู่ในร้านหนังสือชั้นนำ และเป็นหนังสืออีบุ๊กที่อยู่ในรายการหนังสือขายดี

เจียงอวี่เฉิง : ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!

โจ้วชวน : …หัวเราะพอหรือยัง นี่เห็นฉันเล่าเรื่องตลกให้ฟังเหรอ

เจียงอวี่เฉิง : กำลังอยากนอนอยู่พอดี ขำจนหายง่วงเลย

โจ้วชวน : ถามนายหน่อยว่าจะทำยังไงดี!

เจียงอวี่เฉิง : อะไรคือทำยังไง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ก็เซ็นน่ะสิ!!!

โจ้วชวน : สัญญาที่จำนวนการตีพิมพ์ครั้งแรกอยู่ที่สี่หมื่นห้าพันอะนะ! สี่หมื่นห้าพัน! ถ้าเป็นนาย นายจะเซ็นเหรอ นี่นายกำลังพูดภาษาคนอยู่หรือเปล่าเนี่ย

เจียงอวี่เฉิง : จะตีพิมพ์เท่าไรแต่ก็ยังไม่ได้หมายถึงการขายนี่ ตราบใดที่สามารถขายได้ ค่าลิขสิทธิ์นายจะลดลงไหม อีกทั้งกำลังพูดถึงลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนมังงะและลิขสิทธิ์เกมอยู่ไม่ใช่เหรอ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดก็เป็นเลขเจ็ดหลัก จะว่ายังไงถ้านายได้ค่าตีพิมพ์เป็นแสนๆ หยวนอีก

โจ้วชวน : ทำไมนายถึงมีข้ออ้างเหมือนกันกับเธอ สมรู้ร่วมคิดกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ค่าลิขสิทธิ์การตีพิมพ์ไม่ใช่ประเด็น เงินนั่นยังไม่พอค่าอาหารสุนัขของเจ้าเอ้อร์โก่วเลยนายรู้ดีว่าฉันต้องการอะไร

เจียงอวี่เฉิง : อ๋อ ไม่อยากอยู่ตรงก้นพีระมิดแล้วใช่หรือเปล่า อยากจะปีนเขาว่างั้น ก๊ากๆ

โจ้วชวน : เมื่อฉันกำลังมีช่วงวัยที่รุ่งโรจน์ กลับต้องมาเป็นฐานให้นายเหยียบขึ้นไปข้างบน มันน่าโมโหชะมัด

เจียงอวี่เฉิง : ฮ่าๆๆๆๆๆ นายกำลังมีช่วงวัยที่รุ่งโรจน์ งั้นก็เลิกทำหนังสือเล่มนี้ ค่อยขยันทำเล่มหน้าแล้วขี่คอฉันขึ้นยอดพีระมิด ฉันจะไม่ไปไหนแน่นอน!

เจียงอวี่เฉิง : ที่นายดื้อดึงอยู่แบบนี้ไม่ได้อยากให้ฉันเกลี้ยกล่อมให้เซ็นสัญญาหรอกเหรอ ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่นายเลี้ยงไว้ตั้งสามปี หรือว่านายไม่สนใจอะไรเลย ถ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยโกรธขึ้นมาแล้วกลายเป็นก็อตซิลล่า นายจะทำยังไง ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เซ็นๆ ไปเถอะ

เจียงอวี่เฉิง : อีกอย่างหนึ่ง สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยมีระดับ ต่อให้เซ็นก็ไม่เป็นผลเสียต่อการก้าวไปสู่เป้าหมายสูงสุดของนายหรอก

โจ้วชวน : เซ็นกับผีอะไร นายไปเถอะไป

 

เจียงอวี่เฉิงที่พึ่งพาอะไรไม่ได้เลยก็ออกจากการสนทนาไป ส่วนโจ้วชวนปิดคอมฯ พร้อมกับจิตใจที่สับสนวุ่นวายมากกว่าเดิม

เขาลุกขึ้นไปอาบน้ำและลงไปนอนบนเตียงรอบหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งไขว่ห้างพร้อมกับกระดิกขาแล้วจ้องไปยังกระดาษแผ่นเล็กที่เขียนด้วยมือและเลือนรางจนแทบมองไม่เห็นตัวหนังสือ เขาใจลอย…เป็นแบบนี้อยู่สองชั่วโมง กระทั่งใกล้ถึงตอนตีสอง ในหัวของชายหนุ่มเต็มไปด้วยประโยคนั้นของเจียงอวี่เฉิง ‘ฮ่าๆๆๆๆๆ นายกำลังมีช่วงวัยที่รุ่งโรจน์ งั้นก็เลิกทำหนังสือเล่มนี้ ค่อยขยันทำเล่มหน้า’…

โจ้วชวน “…”

ที่อวี่เฉิงพูดมาก็ถูก?

ไม่ ที่เขาพูดมามันไม่ถูก นี่ฉันคาดหวังอะไรอยู่ คาดหวังให้เธอช่วยกดอนุมัติตัวเองในปีนั้น?

แต่ฉันยังมีหนังสือเล่มต่อไปให้ทำอีกมากมาย และถ้าจะช่วยเธอด้วยความรู้สึกส่วนตัวก็ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

โจ้วชวนคิดวกวนไปมาจนดึกดื่น ในที่สุดก็เอื้อมมือควานหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว บนหน้าจอโทรศัพท์นั้นส่องสว่างปรากฏให้เห็นตัวเลขเพื่อให้ใส่รหัสผ่านเข้ามือถือ เขาจึงพิมพ์ข้อความ

 

พรุ่งนี้ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่งนำสัญญาเข้ามาด้วย

 

คิดแล้วคิดอีก พูดแบบนี้ยังเท่ไม่พอ จึงเพิ่มไปอีกหนึ่งประโยค

 

ถ้าเลยเวลาจะไม่รอ

 

แล้วจึงกดส่งไป ขณะที่ข้อความกำลังถูกส่งไปก็ได้ยินเสียงเตือนว่าส่งข้อความไปถึงแล้วดัง ‘ติ๊ง’ ชายหนุ่มที่กำลังนั่งไขว่ห้างพร้อมกระดิกเท้าหยุดการกระทำ…และตระหนักได้ว่าสิ่งที่ทำลงไปในตอนนี้ไม่อาจแก้ไขได้อีกแล้ว ต้องคิดให้ดี ทันใดนั้นเขาก็โยนโทรศัพท์อย่างรวดเร็วแล้วพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ก่อนจะเอาหมอนทุบหัวตนเองอย่างแรง!

เสียงดัง ‘ตุ้บ!’

ดังมากจนเจ้าสุนัขที่นอนหลับใหลอยู่ในคอกสะดุ้งตื่นตกใจ มันเงยหน้าขึ้นมาด้วยสายตาง่วงงุน และมองไปที่เจ้าของซึ่งกำลังตกอยู่ในความบ้าคลั่งอย่างงุนงงหืม?

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 6

บทที่ 6 คณิกา+เมาสุรา หอคณิกาตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเซิ่งจิง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘เป่ยหลี่’ ที่นี่ห่างจากที่ตั้งของ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 2

บทที่ 2 ความสงสัย+คลื่นใต้น้ำ เจ้าเมืองหลี่ตามซูโม่อี้ออกไปแล้ว หลินหวั่นชิงเห็นเงาของเขาวิ่งอยู่ไกลๆ รู้สึกว่าชุดทางการ...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 7.1

บทที่ 7.1 วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ยามที่ซูโม่อี้ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว ผลที่ตามมาของอาการเมาค้างก็คือปากแห้งและ...

community.jamsai.com