“สี่เอ๋อร์!” เจิ้งหนานชิงตัดบทนางอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
สี่เอ๋อร์แลบลิ้นให้เฉียวจือซู
“ขอข้าดูสักหน่อยได้หรือไม่” เฉียวจือซูถาม
“จะลำบากผู้มีพระคุณได้อย่างไร”
“ข้าดูสีหน้าฮูหยินสี่แล้วท่าทางดูไม่คล้ายว่าดื่มซื่ออู้ทังมาหนึ่งปี”
สี่เอ๋อร์ได้ยินพลันร้อนใจ รีบแย่งถ้วยยาจากมือฉินมามามาถือไว้เอง
ฉินมามาหน้าเปลี่ยนสีไปทันที ขณะจะกล่าวคำก็ถูกสี่เอ๋อร์ชิงพูดว่า “หมอซูท่านนี้เป็นถึงหมอเทวดา ยังไม่ทันหนึ่งก้านธูปก็รักษาอาการปวดท้องให้ฮูหยินสี่ได้แล้ว” โดยไม่รอให้ฉินมามาตอบโต้ นางก็ยื่นถ้วยยาให้เฉียวจือซู
เฉียวจือซูรับถ้วยยามาดมอย่างละเอียด ทั้งยังใช้นิ้วชี้แตะที่ยาเล็กน้อยก่อนชิมดู แล้วหันหน้าไปถามหญิงชรา “ยังมีกากยาอยู่หรือไม่”
ฉินมามาแค่นเสียงเฮอะ “ต้มยาเสร็จย่อมเททิ้งไปแล้ว”
เฉียวจือซูรู้ว่าฉินมามาไม่คิดให้ความร่วมมือ เขาก็มิได้เกิดโทสะ เพียงมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเอ่ย “หนึ่งวันฮูหยินสี่กลับดื่มยาตำรับซื่ออู้ทังเพียงแค่ครั้งเดียว เลือดลมถึงได้อ่อนแอ”
“ผู้ใดกล่าวว่าดื่มแค่ครั้งเดียว” ฉินมามาทนไม่ไหวแย้งขึ้นมา
“ตอนนี้ยังไม่ถึงยามอู่ ก็เทกากยาทิ้งแล้วมิใช่หรือ” เฉียวจือซูหันไปเอ่ยกับเจิ้งหนานชิง “ขอฮูหยินสี่อย่าได้หาว่าข้ามากเรื่อง ไม่ทันถึงยามอู่ก็ดื่มไปแล้วถึงสองหน เช่นนี้ไม่มีประโยชน์กับร่างกาย”
เจิ้งหนานชิงเข้าใจเจตนาของเฉียวจือซูตั้งแต่ต้น นางเอ่ยเสริมว่า “ท่านหมอซูเข้าใจผิดแล้ว วันนี้ข้าดื่มไปแค่ครั้งเดียว” นางหันไปเอ่ยกับฉินมามาเสียงเฉียบ “วันนี้เจ้าต้มให้ข้าเพียงหนเดียวรึ”
ถึงตอนนี้ฉินมามาถึงได้ตระหนักว่าตนเองตกหลุมอุบายของเฉียวจือซูเข้าแล้ว สีหน้าจึงประเดี๋ยวขาวประเดี๋ยวคล้ำ “บ่าวชราเลอะเลือนแล้ว กากยา กากยายังอยู่ในหม้อ บ่าวจะไปนำมาเดี๋ยวนี้”
เห็นฉินมามาไปแล้ว เจิ้งหนานชิงค่อยเอ่ยถามว่า “ท่านหมอซูดูออกว่าผิดปกติหรือ”
เฉียวจือซูใช้หางตากวาดมองพ่อบ้านเหล่าถังที่แอบฟังอยู่นอกหน้าต่างแวบหนึ่ง เขาจงใจเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น “เกรงว่าในตำรับยาซื่ออู้ทังของฮูหยินสี่จะมีสิ่งอื่นเจือปน” พ่อบ้านเหล่าถังได้ยินก็เร่งร้อนรุดไปด้านนอกตามคาด
ครู่เดียวฉินมามาก็ยกหม้อยาที่มีกากยาเต็มล้นเข้ามา ขณะที่เฉียวจือซูจะแยกแยะกากยานั้น หางตาก็แลเห็นเหล่าถังพาบุรุษวัยกลางคนสวมชุดทางการคนหนึ่งเดินเข้ามาในลาน เฉียวจือซูย่อมรู้ว่าคนผู้นั้นคือถังเหอ ทว่าเขาจงใจทำเป็นมองไม่เห็น เพียงเทกากยาในหม้อต้มออก และแยกแยะอย่างละเอียด
หลังผ่านไปหนึ่งก้านธูป เขาก็แยกกากยาทั้งหมดเรียบร้อย เป็นเช่นที่คิดไว้ นอกจากตังกุย โกฐหัวบัว ไป๋เสา และโกฐขี้แมวแล้ว ยังแยกของที่มีลักษณะเป็นเม็ดสีดำไหม้สองสามเม็ดที่แทบจะถูกมองข้ามไปออกมา เขายืดตัวตรง ทำทีถลึงตาโตอย่างตกตะลึง ก่อนจะได้ยินเหล่าถังตะโกนเสียงดังว่า “เห็นท่านเจ้าเมืองยังไม่รีบคารวะอีก!”
เฉียวจือซูคุกเข่าอย่างนอบน้อม “ผู้น้อยไม่ทราบว่าท่านเจ้าเมืองมาถึงแล้ว ขอใต้เท้าถังโปรดลงโทษด้วย”
“ลุกขึ้นเถิด” ถังเหอเอ่ยอย่างไม่อดทน “ยานี้เป็นมาอย่างไร”
“ผู้น้อยต้องการดูใบสั่งยาเดิมขอรับ” เฉียวจือซูเอ่ย
เมื่อใบสั่งยามาถึง เฉกเช่นคำของเจิ้งหนานชิงว่าไว้ ใบสั่งยานี้เขียนว่าเป็นตำรับยาซื่ออู้ทัง ‘ตังกุย โกฐหัวบัว ไป๋เสา โกฐขี้แมว’ เฉียวจือซูอ่านใบสั่งยาแล้วคล้ายปรากฏสีหน้าลำบากใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เอ่ยปาก