หลินฟางโจวพลันเกิดเบื่อหน่ายขึ้นมา เดิมทีนางยังอยากจะด่าคนขายหูปิ่งไปสักประโยค ทว่าการทำเช่นนั้นไม่อาจจัดการความหิวโหยในท้องของนางได้ อีกทั้งนางก็ไม่มีเรี่ยวแรงไประบายอารมณ์กับใครแล้วด้วย นางลุกจากเตียงก่อนจะค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมรอบหนึ่ง อยากลองหาดูว่ายังมีสิ่งมีค่าใดเหลืออีกบ้าง
นางเจอของที่ดูมีราคาอยู่หลายชิ้น แต่น่าเสียดายที่ทั้งหมดล้วนเป็นของเด็กโง่นั่น ไม่สิ ของเสี่ยวหยวนเป่า
หลินฟางโจวลูบเกราะหนังของเขาพลางเอ่ยถาม “ของสิ่งนี้ทำมาจากหนังอะไรหรือ ข้าลูบแล้วไม่รู้เลยจริงๆ”
“เจียว”
“เจียว…คือสิ่งใด”
“สัตว์ประหลาดกินคนที่อยู่ในน้ำ”
หลินฟางโจวตัวสั่นเทิ้ม แต่เพียงชั่วครู่นางก็ยังลูบเกราะหนังนั้นต่อ แววตาเปลี่ยนเป็นรักใคร่ “สิ่งนี้จะต้องมีราคาสูงมากเป็นแน่”
เมื่อเสี่ยวหยวนเป่าได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงส่ายหน้าพร้อมกับเอ่ย “ข้าก็ไม่แน่ใจ”
หลินฟางโจวยังคงลูบไล้มันด้วยความรักใคร่ “หากข้านำมันไปขาย…”
“จะมีภัยถึงแก่ชีวิต”
มารดามันสิ เกือบลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้ว!
สุดท้ายกระทั่งเกราะหนังที่ทำมาจากสัตว์หายากเช่นนั้นก็ไม่อาจแลกหูปิ่งมาได้สักชิ้น หลินฟางโจวลอบเสียดายอยู่เงียบๆ หลังจากนั้นนางก็โยนเกราะหนังทิ้งแล้วหันไปดูหยกงามชิ้นนั้นแทน นางมองพร้อมกับเอ่ยชม “งูบินน้อยของเจ้าช่างดูงดงามเสียจริง!”
หัวคิ้วของเสี่ยวหยวนเป่าเลิกขึ้นเล็กน้อย “นั่นไม่ใช่งู”
“ไม่ใช่งูแล้วเป็นอะไร”
“มังกร”
“เหลวไหล! เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ มังกรจะไม่มีเท้าได้อย่างไร”
เสี่ยวหยวนเป่าอธิบายอย่างใจเย็น “นั่นมันเลียนแบบรูปแบบดั้งเดิม…เลียนแบบมังกรโบราณน่ะ”
“ความหมายของเจ้าคือ…มังกรโบราณไม่มีเท้า แต่มังกรยุคหลังเพิ่งจะมีเท้างอกออกมา?”
การถกเถียงอย่างจริงจังของหลินฟางโจวทำให้เสี่ยวหยวนเป่าสะอึกจนไม่รู้จะพูดอะไร เดิมทีเขาก็เป็นคนไม่ชอบพูดมากอยู่แล้ว หนนี้เขาจึงหันหน้าไปเอ่ยตัดบทเสียเลย “เจ้าจะพูดว่าอะไรก็เป็นเช่นนั้นแหละ”
หลินฟางโจวพยักหน้าหงึกหงักแล้วถามอีกรอบ “สรุปอันนี้ก็ขายไม่ได้?”
“นั่น…งูบินน้อย ไข่มุกที่คาบอยู่ในปากสลักเป็นชื่อข้าด้วย”
หลินฟางโจวแยกแยะได้ว่าอะไรคือไข่มุกอะไรคือผลึกแก้วใส นางเคยรู้มาจากช่างฝีมือว่าผลึกแก้วใสก้อนเล็กๆ บางประเภทสามารถทำให้เห็นสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าขยายได้ถึงสิบเท่า ผลึกแก้วใสนั้นล้ำค่ามาก เป็นของแสนรักของช่างฝีมือ ไม่ให้ใครได้แตะเลยสักนิด คงเช่นเดียวกับไข่มุกนี้ แม้จะขยายภาพสิ่งของไม่ได้แต่ก็คงล้ำค่ามากไม่ต่างกัน
สรุปคำตอบได้ในหนึ่งประโยค…ของพวกนี้ดีร้อยดีพันก็ไม่สามารถขายได้!
หลินฟางโจวนำพวกมันกลับไปวางไว้ที่เดิมรวมกับชุดยาวสีขาวชุดนั้นที่เสี่ยวหยวนเป่าใส่มาในตอนแรก จากนั้นนางจึงเอ่ย “อีกครู่หนึ่งข้าจะเผาทิ้งให้หมด”
“อืม”
นางจ้องหยกงามชิ้นนั้นแล้วก็ให้ปวดใจเล็กน้อย สุดท้ายจึงหยิบมันมาไว้ในอ้อมอก “อันนี้ให้ข้านะ”
เสี่ยวหยวนเป่าเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไว้ไม่ได้เอ่ยออกมา สุดท้ายเขาก็ทำเพียงแค่หลุบตาลงพร้อมกับพยักหน้า “อืม”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 5 ธ.ค. 62