เขาไม่คิดจะฝึกต่อแล้ว ตัดสินใจเดินมานั่งข้างนาง
หลินฟางโจวยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เสี่ยวหยวนเป่าเช็ดเหงื่อ ทว่าเขาไม่ยอมรับไป กลับขยับหน้าเข้ามาใกล้คล้ายรอให้นางช่วยเช็ดให้เขา
นางโยนผ้าเช็ดหน้าใส่หน้าเขาทันที “โตจนป่านนี้แล้วยังจะมาออดอ้อนเป็นเด็กอีก”
“ไม่ได้ออดอ้อนเสียหน่อย” เสี่ยวหยวนเป่าหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาเช็ดเหงื่อด้วยตนเองอย่างช้าๆ ขณะที่เช็ดเขาก็เอ่ยถามไปด้วย “แม่นางเหม่ยอวี้เป็นใครกัน”
ความสามารถในการได้ยินของเสี่ยวหยวนเป่าดีมาก เมื่อครู่นี้ไม่ว่านางพูดคุยกับใครด้วยเรื่องอะไรบ้าง เขาก็ล้วนได้ยินทั้งหมดแล้ว
หลินฟางโจวพูด “เด็กน้อย อย่าได้ถามไปเรื่อย”
“ข้าไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว”
“จริงสินะ เป็นคนที่ควรแต่งงานได้แล้ว ข้าว่านะเสี่ยวหยวนเป่า…”
เขาพูดขัดนางขึ้นมาทันที “ท่านอย่าเรียกข้าว่าเสี่ยวหยวนเป่าอีกเลย ข้าโตแล้วนะ”
“เช่นนั้นจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไร ต้าหยวนเป่า?”
เขาก้มหน้าลง หลินฟางโจวเห็นเพียงมุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
ด้วยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงเอ่ยถาม “เจ้ายิ้มอะไร หรือกำลังมีแผนร้ายอะไรอีก”
“ไม่มี”
หลินฟางโจวชี้ดอกชาภูเขาสีแดงบนศีรษะตนเอง “ดูดีหรือไม่”
เขาจ้องนางอย่างจริงจังพร้อมกับตอบเสียงเบา “ดูดี”
“มา เช่นนั้นเจ้าก็เอาไปเสียบไว้บ้าง” หลินฟางโจวพูดแล้วยื่นดอกอวี้หลันสีขาวส่งให้เขาด้วย
“ไม่!”
“มาสิ เสียบไว้ เสียบให้ข้าดูหน่อย”
“ไม่เสียบ”
“มา ข้าจะช่วยเสียบดอกไม้ให้เจ้า” หลินฟางโจวยิ้มกว้าง มือหนึ่งจับแขน อีกมือก็คว้าไหล่พลางดึงเสี่ยวหยวนเป่าเข้ามา เขาไม่ได้หลบ ยอมให้นางจัดการได้ตามใจ สุดท้ายมือหนึ่งของนางก็กดลงไปบนศีรษะเขา ในที่สุดดอกอวี้หลันก็เสียบอยู่บนมวยผมของเขา
“น่าเบื่อ” เสี่ยวหยวนเป่าพูดพร้อมกับนั่งตัวตรง แสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทว่าใบหน้ากับหลังใบหูกลับร้อนฉ่าขึ้นมาเล็กน้อย เขารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนักจึงรีบใช้มือพัดไปมา “ร้อนจริงๆ” หลังจากนั้นก็ก้มหน้ามองน้ำแกงเย็นที่เหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่งในชามกระเบื้องสีดำบนโต๊ะ เขาไม่ได้รังเกียจที่หลินฟางโจวดื่มไปแล้ว จึงยกน้ำแกงเย็นขึ้นมาดื่มอึกใหญ่
แม่นางรูปร่างอรชรคนหนึ่งเดินผ่านมา หลินฟางโจวมองแม่นางคนนั้นพลางร้องเพลงด้วยรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย
“เจ้าคนโง่ พี่ชายข้า
เราสองปั้นขึ้นมาด้วยโคลนเหลือง
ปั้นเจ้าตัวหนึ่ง ปั้นข้าตัวหนึ่ง
ปั้นออกมาราวกับมีชีวิต
ปั้นออกมาให้นอนร่วมเตียง
ทุบดินปั้น แช่น้ำปั้นใหม่
ปั้นเจ้าตัวหนึ่ง ปั้นข้าตัวหนึ่ง
บนตัวพี่ชายมีน้องสาว บนตัวน้องสาวมีพี่ชาย”
สาวน้อยเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำก่อนจะรีบก้าวยาวๆ เดินหนีไปราวกับสายลม
หลินฟางโจวยังจะร้องอีกหนึ่งเพลงแต่กลับได้ยินเสียงเพล้งดังมาจากข้างกายเสียก่อน นางตกใจจนสะดุ้ง ตอนที่หันหน้าไปมองก็เห็นเสี่ยวหยวนเป่าทำชามกระเบื้องแตกละเอียดไปแล้ว
ทำชามแตกเช่นนี้ สีหน้าเขาก็ดูย่ำแย่มากทีเดียว
ติดตามต่อในเล่ม