‘นวลหยกงาม’ นิยายชุดสุดฮอตจากมากกว่ารัก ที่กำลังเป็นกระแสมาแรงอยู่ตอนนี้ เรียกได้ว่าอ่านแล้วมีทั้งความสนุก ความฟิน ความน่ารัก รออยู่เพียบ!
จะจริงอย่างที่พูดหรือไม่นั้น วันนี้เลยขอพานักแปลจากนิยายชุดสุดฮอตนี้ อย่าง ‘Honey Toast’ มาช่วยการันตีความสนุกอีกคน ว่าที่ผ่านมาที่ได้แปลนิยาย ‘นวลหยกงาม’ รู้สึกอย่างไรบ้าง เราลองไปฟังจากปากเธอกันเลยดีกว่า
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้มาร่วมงานกับมากกว่ารัก
Honey Toast : เริ่มจากอ่านนิยายแปลเรื่อง เพอร์ซีย์ แจ็กสัน แล้วรู้จักสนพ.เอ็นเธอร์ จากนั้นเห็นว่ามีหนังสือแปลจีนด้วยเลยลองส่ง resume สมัครแปลงานดู หลังทดสอบแล้วก็ได้แปลหมวดมากกว่ารักค่ะ
ความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานกับมากกว่ารัก
Honey Toast : ดีใจค่ะ เป็นทีมที่ร่วมงานด้วยแล้วสบายใจมากๆ
แปลนิยายกับมากกว่ารักมาแล้วกี่เรื่อง
Honey Toast : 30 กว่าเรื่อง
รู้สึกอย่างไรกับผลงานแปลล่าสุดอย่าง ‘นวลหยกงาม’ ที่มีความยาวถึง 15 เล่มจบ
Honey Toast : ความรู้สึกแรกคือเรื่องนี้ต้องมีอะไรดีแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ 15 เล่มจบ พอได้อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ข้อดีอีกอย่างของเรื่องยาวๆ คือลงรายละเอียดได้ ทำให้รู้สึกผูกพันกับเรื่องราวและตัวละคร คอยลุ้นและอยากเอาใจช่วย เรื่องนี้ยังผูกกับเรื่องจริงและคนที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์ แต่อยู่ในบริบทใหม่ ชวนให้ติดตามว่าคนเขียนจะพาไปทางไหนแล้วจะจบแบบไหน
ในฐานะคนแปลเรื่อง ‘นวลหยกงาม’ คิดว่าความยากง่ายอยู่ตรงไหน
Honey Toast : ยากตรงความยาวค่ะ กลัวงานที่ออกมาจะไม่คงเส้นคงวา แต่ดีที่ได้ทีมบ.ก.ดี เลยหายห่วงค่ะ
คิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของเรื่อง ‘นวลหยกงาม’
Honey Toast : ตัวละครค่ะ ตัวละครหลักๆ ส่วนใหญ่มีมิติ มีพัฒนาการ มีผิดพลาดและเรียนรู้ อีกอย่างก็คือการผูกเรื่อง ถึงธีมเรื่องนี้จะเป็นแนวเดิมๆ แต่วิธีการเล่ามีชั้นเชิง นักเขียนปูเรื่องสลับกับไคลแมกซ์เป็นช่วงๆ ไม่เร่งไม่ช้าเกินไป อ่านแล้วเพลินมากค่ะ
ถ้าให้เลือกพี่ชายสักคนระหว่าง ‘หลูจื้อ’ กับ ‘หลูจวิ้น’ อยากได้พี่ชายแบบไหน
Honey Toast : หลูจื้อแน่นอนค่ะ
ชวนนักอ่านมาอ่าน ‘นวลหยกงาม’ กันหน่อย
Honey Toast : ‘นวลหยกงาม’ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวยุคปัจจุบันที่เป็นเด็กกำพร้า หน้าตาธรรมดาและมีปมด้อยชื่อว่าอี๋อวี้ พอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก็ได้รับโอกาสของชีวิตเป็นครั้งที่สองด้วยการย้อนกลับไปในอดีตสมัยยุคราชวงศ์ถังอีกมิติหนึ่ง วิญญาณของอี๋อวี้เข้าไปอยู่ในร่างของเด็กหญิงอายุสี่ขวบในครอบครัวชาวนาที่มีแม่กับพี่ชายสองคน แม้ฐานะยากจนแต่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก ต่อมาพี่ชายคนโตเข้าเมืองหลวงเพื่อไปสอบเป็นขุนนาง และสะสางเรื่องราวในอดีตกับพ่อ ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดึงอี๋อวี้เข้าสู่วังวนของการแย่งชิงอำนาจระหว่างองค์ชายที่มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์ และต้องเอาตัวรอดท่ามกลางผู้มีอำนาจในเมืองหลวง
เรื่องนี้อย่างที่เคยบอกไปคือ เขียนละเอียดจนเหมือนเรื่องดำเนินไปอย่างช้าๆ แต่คนเขียนจะวางจุดไคลแมกซ์เป็นพักๆ ทำให้เรื่องน่าติดตามต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ
จุดที่น่าสนใจของเรื่องนี้คือ การวางฉากหลังให้เป็นราชวงศ์ถังในมิติคู่ขนาน ตัวละครหรือเหตุการณ์ต่างๆ จึงไม่ได้ตรงกับประวัติศาสตร์ทั้งหมด ทำให้เดาไม่ได้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปทางไหน จะเหมือนหรือไม่เหมือนกับที่เคยรู้กันมาแล้ว
ถึงเล่มสามเล่มสี่ ส่วนที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ชีวิตการเรียนหนังสือในสำนักศึกษาสมัยโบราณ ส่วนตัวคือไม่ค่อยเจอเรื่องที่เขียนถึงจุดนี้แบบละเอียดค่ะ ส่วนในเล่มห้าและเล่มต่อๆ มาก็ยังเล่าถึงเรื่องความรักความสัมพันธ์ของตัวละคร การแก่งแย่งชิงดีในอำนาจ รวมถึงไล่คลี่คลายปมต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจตลอดเรื่องค่ะ
บอกคำเดียวสั้นๆ ว่า “สนุกมากค่ะ”
อ่านบทสัมภาษณ์ของ ‘Honey Toast’ แล้ว ก็อยากจะไปหยิบนิยายสุดฮอตอย่าง ‘นวลหยกงาม’ มาอ่านกันเลยทีเดียว นิยายเรื่องนี้รับประกันความสนุกแบบครบรส อ่านแล้ววางไม่ลงกันเลยทีเดียว ถ้าใครอยากฟินแบบนี้ อย่าลืมไปหามาอ่านกันได้แล้วกับ ‘นวลหยกงาม’ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ, JamClub และ JamShop