ทรวงอกเปล่าเปลือยสะท้อนขึ้นลงรุนแรงจากแรงหอบ นางคิดว่าตนเองคงลนลาน ทว่าสีหน้าเย็นชาไร้ความเห็นอกเห็นใจของต้วนฉางยวนทำให้นางบังเกิดความฮึดสู้ไม่คิดยอมแพ้ในใจ จึงสงบเยือกเย็นลงได้
นางหลับตาไม่มองเขา มองไม่เห็น ใจก็ไม่ว้าวุ่น ขอแค่จำไว้เพียงเรื่องเดียว ไร้ชีวิตแล้วไม่ว่าสิ่งใดก็หมดสิ้น นางรับปากท่านพ่อท่านแม่ไว้ว่าไม่ว่าจะเจออุปสรรคขวากหนามเพียงใด จะมีชีวิตอยู่อย่างดี ดังนั้นนางต้องรักษาชีวิตตนเอง
หลังนางหลับตาแล้ว การเคลื่อนไหวของต้วนฉางยวนก็เริ่มขึ้น เสียงฉีกทึ้งดังขึ้นไม่ขาดสาย เสื้อผ้าบนร่างของนางกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยสุดจะทานทนในเงื้อมมือของเขา เฉกเช่นศักดิ์ศรีของนางที่ถูกกระชากจนขาดวิ่นเยี่ยงไรเยี่ยงนั้น
เขาจับนางเปลือยเปล่า แต่ตนเองกลับยังสวมเสื้อตัวกลาง
ภายใต้แสงเทียนส่องสว่าง นางเปลือยกายเผยอกต่อหน้าบุรุษอย่างน่าอับอายเช่นนี้เป็นครั้งแรก จนแทบจะวู่วามด้วยความเหลืออด นึกอยากถีบบุรุษผู้นี้ออกห่าง แต่ในยามสุดท้ายนางอดกลั้นไว้ได้
ไร้ซึ่งบทโหมโรง ไร้ซึ่งเยื่อใยอันอบอุ่นอ่อนโยน เขาล่วงล้ำส่วนที่อ่อนบางที่สุดของนางอย่างไม่ทะนุถนอม
นางหลับตาแน่น กัดฟัน เจ็บ! เจ็บเหลือเกิน!
ถอนพิษ…เป็นเพียงการถอนพิษ…นางบอกตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ยาดีรสขม คนแซ่ต้วนผู้นี้มิใช่บุรุษ เป็นเพียงยาถอนพิษของนาง นางถือเสียว่าโดนแมลงกัดต่อย กัดฟันทนก็ผ่านพ้นไปแล้ว
ฝืนทนความอับอาย นางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดยามส่วนล่างฉีกขาด ทำให้นางปวดหนึบที่หัวใจ หายใจอย่างยากลำบาก
หลังกระแทกกระทั้นพักหนึ่ง นางรู้สึกว่ากายช่วงล่างว่างเปล่า เป็นเพราะเขาผละร่างออก ไร้ความปรานีปราศรัยเหมือนยามที่ล่วงล้ำ และยามจากไปยังคงเมินเฉย
เขาใช้อากัปกิริยาสำทับนางว่านี่มิใช่คืนแห่งการร่วมหอ เป็นเพียงข้อแลกเปลี่ยนเท่านั้น ประหนึ่งบุรุษเยือนหอคณิกา และสำหรับเขา นางยังสู้ไม่ได้แม้หญิงคณิกาในหอโคมเขียว
เขาคว้าชุดคลุมยาวสวมทับบนร่าง ยามที่จากไปแม้แต่จะแลนางสักแวบยังไม่มี กระทั่งแสงเทียนภายในห้องก็ไม่ดับให้ ปรายตามองความอเนจอนาถ ความเจ็บปวด และความน่าเวทนาของนางท่ามกลางแสงเทียนกระจ่างจ้าอย่างเย็นชา
หลังเขาจากไปแล้ว อวี๋เสี่ยวเถาคว้าจับเสาหัวเตียงยันตัวขึ้นเอนนั่งอย่างอ่อนแอ ดวงหน้าขาวซีด ลมพายุฉากหนึ่งเมื่อสักครู่ทำให้ร่างของนางสั่นระรัวไม่หยุด
ไม่มีผู้ใดเข้ามาปรนนิบัติรับใช้ แต่นางก็ไม่อยากให้ผู้ใดมาเห็นสภาพน่าอเนจอนาถเยี่ยงนี้ นางจินตนาการออกว่าคนพวกนั้นจะเยาะเย้ยก่นด่านางอย่างไรบ้างยามอยู่นอกห้อง
หยาดน้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาอย่างไร้สุ้มเสียง ท่ามกลางราตรีอันเงียบสงัด นางห่อหุ้มตัวเองด้วยผ้าห่ม กดทับความรู้สึกไม่สบายของกายท่อนล่าง
หากคิดว่าเพียงเท่านี้ก็โจมตีนางได้ เช่นนั้นก็ดูเบานางเกินไปเสียแล้ว ถูกผู้คนดูหมิ่นดูแคลนเป็นเรื่องจำใจ หากตนเองยังดูหมิ่นตนเองก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง
ถือว่าเขาได้ร่างกายก็เพราะนางเต็มใจมอบให้ นางปาดน้ำตาอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่อยากเป็นดังคนน่าสงสารเอาแต่พร่ำบ่นถึงความเศร้ารันทดของตนเอง
ต้วนฉางยวน อายุอานามยี่สิบสองปี หนักแน่นมั่นคงแข็งแกร่ง รักษาสัจจะอย่างเคร่งครัด นี่คือคำยกย่องเชิดชูที่ผู้คนในยุทธภพมีต่อเขา ใช่กับผีน่ะสิ!