แท้จริงแล้วในตอนแรกที่ปราสาทเขาชิงอวี้ติดประกาศอาการโรคของต้วนชิงหลิงต่อใต้หล้า นางก็กระจ่างว่าคุณหนูใหญ่ท่านนี้ถูกยุงพิษชนิดหนึ่งกัด ยุงพิษชนิดนี้เติบโตในแถบภูเขาร้อนชื้นที่พบเห็นมนุษย์และสัตว์ป่าได้ยากยิ่ง มีรูปร่างใหญ่โตเป็นพิเศษ เวลากัดคนดั่งถูกเข็มทิ่มแทง ต่างจากยุงในแถบจงหยวน
เห็นจากสีหน้าว่าพวกสาวใช้ยังไม่ยอมง่ายๆ อวี๋เสี่ยวเถารู้ดีว่าพวกนางกำลังคิดอะไรอยู่ จึงเอ่ยเสียงเย็นว่า “บอกท่านประมุขของพวกเจ้าด้วยว่าให้ส่งบริวารมารับยาก็ได้ ไม่ต้องมาด้วยตัวเอง”
ความหมายชัดเจนอย่างยิ่ง นั่นก็คือท่านประมุขของพวกนางไม่จำเป็นต้องร่วมหอเฉกเช่นวันนี้ในทุกเดือน เรื่องพลีกายเพื่อแลกยา นางไม่แยแสเลยแม้เพียงนิด
แท้จริงแล้วนางรักษาคุณหนูใหญ่ให้หายขาดได้ภายในสามวัน ทว่าเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของตนเองจึงจงใจยืดเวลา เมื่อเป็นเช่นนี้ต้วนฉางยวนย่อมทำให้วันเวลาที่นางอยู่ในปราสาทเขาแห่งนี้ปลอดภัยไร้กังวลอย่างแน่นอน
เมื่อฟังคำของนางจบแล้ว สองสาวใช้ต่างโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง อวี๋เสี่ยวเถาเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา
สาวใช้ทั้งสองไม่เรียกขานนางว่าฮูหยินหรืออนุ นางเองก็ไม่เรียกต้วนฉางยวนว่าสามีไปโดยปริยาย ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนเท่านั้น
หลังสาวใช้จากไปแล้วนางก็ดับเทียน กลับเข้าสู่เตียงตั่ง คลำหยิบยาขี้ผึ้งออกมาทาไปยังท่อนล่างเพื่อบรรเทาอาการไม่สบาย ไล้ขี้ผึ้งอย่างแผ่วเบาพลางสูดปากหายใจเข้าออกเป็นระยะ ความเจ็บปวดเยี่ยงนั้นช่างยากจะพรรณนา นางก่นด่าต้วนฉางยวนอยู่ในใจหลายร้อยตลบ
เสียตัวก็เสียตัวสิ! อย่างมากต่อไปก็ไม่แต่งให้กับผู้ใดอีกแล้ว ที่นางต้องตกอยู่ในสภาพนี้ในวันนี้ จะโทษก็ต้องโทษที่ประสบการณ์ในยุทธภพของนางตื้นเขินนัก หนีรอดมาได้นับว่าวิญญาณท่านพ่อท่านแม่บนสวรรค์คุ้มครองแล้ว
หลังทายาเสร็จแล้วนางก็นอนลงบนเตียง เดิมคิดว่าคืนนี้คงเป็นคืนที่ข่มตาหลับได้ยาก แต่คาดไม่ถึงว่าพอลงนอนนางก็หลับไปจนถึงฟ้าสาง
เช้าตรู่หลังตื่นนอน นางก็นั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิ หลังหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วก็หลับตารวบรวมสมาธิ เริ่มโคจรกำลังภายในเดินลมปราณ
ขณะที่โคจรกำลังภายใน นางรู้สึกได้ว่าจุดชีพจรภายในร่างที่ถูกสกัดจนยากโคจรก่อนหน้านี้ทะลวงเชื่อมต่อถึงกันแล้ว นี่แสดงว่าพิษภายในร่างของนางค่อยๆ สลายไป
นางยินดีอย่างยิ่ง เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกวันนอกจากการกินอาหารแล้วก็ไม่ให้ผู้ใดเข้ามา ปิดประตูนั่งขัดสมาธิโคจรพลังอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ พยายามทะลวงจุดลมปราณภายในร่างอย่างขะมักเขม้น
ตามที่คาดไว้ ขอเพียงไม่เรียกร้องสิ่งใด บ่าวรับใช้ในปราสาทเขาชิงอวี้แห่งนี้ก็จะไม่มารบกวนนาง คนพวกนั้นแทบจะไม่อยากให้นางเอ่ยปาก จะได้ไม่ต้องเข้ามาปรนนิบัติรับใช้
บางครั้งนางเดินออกมาจากห้องเพื่อเดินเล่นภายในลานบ้านก็ไม่ถูกขัดขวางแต่ประการใด ทว่าพอเดินออกจากเขตลานบ้านจะมีคนออกมาเดินตามนาง เมื่อพบว่านางเดินไปยังสถานที่ที่ไม่ควรไปก็จะขัดขวาง อย่างเช่นในตอนนี้…
“แม่นางโปรดยั้งฝีเท้าด้วย”
อวี๋เสี่ยวเถาหันกลับมามองหรูอี้ที่อยู่ด้านหลัง ถามยิ้มๆ ว่า “เพราะเหตุใด”
“ที่นั่นเป็นเขตหวงห้าม แม่นางเข้าไปไม่ได้”
“อ้อ? เขตหวงห้าม? เป็นสถานที่อย่างไรกัน”
“ไม่อาจบอกแม่นางได้”