จากนั้นก็มีเสียงแกร๊งดังขึ้นอีก ลูกศรลงแจกันไปอีกแล้ว
ฉู่หวังเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว การโยนลูกศรแต่ละครั้งเว้นห่างกันชั่วประเดี๋ยวเดียว
เล่อเอ่อเฝ้าดูอยู่ข้างๆ สีหน้ายิ่งไม่ชวนมองขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดฉู่หวังก็โยนลูกศรต่อเนื่องกันสิบดอก เข้าทุกดอก
“เข้าสิบดอก!” ซื่อเหรินร้องบอก
ตอนนี้ถึงตาเล่อเอ่อแล้ว บนใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มประดับ แต่ไม่มีความมั่นใจเช่นก่อนหน้านี้แล้ว เขาพยายามสุดความสามารถ สุดท้ายก็โยนลงแปดดอกในสิบดอก แพ้ให้กับฉู่หวังสองดอก
หินก้อนใหญ่ที่แขวนอยู่ในใจกงซุนหุยร่วงลงสู่พื้น รีบหัวเราะแล้วว่า “ต้าหวังเก่งกล้าไร้ผู้เทียมทานอย่างแท้จริง!” พูดจบก็หันไปกล่าวกับเล่อเอ่อ “แพ้หนึ่งดอกปรับสุราหนึ่งจอก ยังไม่รีบไปรับโทษอีก!”
เล่อเอ่อแม้จะยังไม่ค่อยยอมรับ แต่ก็จำต้องทำความเคารพฉู่หวัง “ต้าหวังฝีมือยอดเยี่ยม!”
ฉู่หวังมองเขา กลับเอ่ยว่า “กว่าเหรินสังเกตท่านโยนลูกศร ดูจะเคยชินกับท่าหมอบลงเล็กน้อย คิดว่าคงจะเชี่ยวชาญการถืออาวุธกระมัง”
เล่อเอ่อและกงซุนหุยต่างตะลึงงัน
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ” กงซุนหุยรีบตอบ “เล่อต้าฟูจะนั่งอยู่ตำแหน่งขวาของคนขับรถม้า ทำหน้าที่คุ้มกันให้ท่านเจ้าแคว้นอยู่เสมอพ่ะย่ะค่ะ”
ฉู่หวังยิ้มบาง รับจอกหยกของตนจากคนรับใช้ จากนั้นก็ชูจอกให้ทุกคนก่อนจะยกขึ้นจิบคำหนึ่งแล้วเดินออกไป
อู่จวี่ลุกขึ้นส่งฉู่หวัง แล้วพูดจาตามพิธีรีตองกับพวกคนแคว้นเจิ้ง เห็นเล่อเอ่อสีหน้าออกจะเคืองแค้นก็อดหัวเราะในใจไม่ได้ แล้วส่งพวกเขากลับเรือนรับรองอย่างมีมารยาท
“หากคนแคว้นเจิ้งรู้ว่าฝีมือการโยนลูกศรของต้าหวังยอดเยี่ยมเพียงนี้ น่ากลัวว่ากระทั่งเอ่ยปากก็ยังไม่กล้าเอ่ย”
พอเหลือแต่คนแคว้นฉู่ ทุกคนก็พูดถึงเรื่องเมื่อครู่ ต่างหัวเราะขึ้นมา
“หรือมิใช่เล่า! ตอนต้าหวังโยนลงทั้งสิบดอก สีหน้าของคนพวกนั้นช่างตลกเสียจริง!”
“ต้าหวังเปี่ยมอานุภาพน่าเกรงขาม!”
“เปี่ยมอานุภาพน่าเกรงขาม?” ขณะกำลังพูดกันสนุกสนานอยู่นั้น ซูฉงก็เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียงเย็น “ต่อสู้กับกองกำลังเข้มแข็งนับพันนับหมื่นคือเปี่ยมอานุภาพน่าเกรงขาม อาณาประชาราษฎร์แซ่ซ้องสรรเสริญคือเปี่ยมอานุภาพน่าเกรงขาม โยนลูกศรลงแจกันเอาชนะคนแคว้นเจิ้งนับเป็นอะไรได้”
คำพูดนี้พอเอ่ยออกมา ทุกคนต่างตะลึงงัน
ซูฉงมองไปที่อู่จวี่ แค่นเสียงฮึออกมาคำหนึ่ง “ศัตรูภายนอกกำลังจ้องหาโอกาส ต้าหวังกลับโอ้เอ้ไม่ยอมกลับนครอิ่งตู พวกเจ้าก็ไม่ตักเตือน!” พูดจบก็ตวัดชายแขนเสื้อเดินจากไปด้วยความไม่พอใจ
ฉู่หวังแต่ละยุคในอดีตล้วนให้ความสำคัญกับถงซาน ในค่ายบัญชาการของถงซานจะจัดให้มีพลับพลาสำหรับฉู่หวังยามเสด็จมาประทับ
ตอนงานเลี้ยงเลิกรา ฉู่หวังก็มึนเมาบ้างแล้ว
เมื่อกลับมาถึงที่ประทับ กงอิ่นขยิบตาให้เสี่ยวเฉินฝู เสี่ยวเฉินฝูเข้าใจ รอฉู่หวังเข้าไปในห้องบรรทม เขาก้าวเข้าไปสองก้าว ประคองฉู่หวังนั่งลงบนตั่งแล้วส่งน้ำให้หนึ่งถ้วย
“ต้าหวัง ผลัดเปลี่ยนภูษาหรือไม่” เขาทูลถามด้วยความเคารพนบนอบ