เพลงพิณแลบลิ้นใส่หลังกว้างและมองไปรอบๆ ห้อง…เตียงไม้เชอรี่ขนาดใหญ่มาก เช่นเดียวกับที่นอนหนาปูด้วยผ้าไหมสีดำตึงเรียบกริบ…ดูน่าสบายและกว้างขวางสำหรับร่างโตๆ ส่วนเธอน่ะเหรอ ตัวเล็กเท่าครึ่งตัวเขาเท่านั้น นอนบนนั้นด้วยกันก็คงไม่โดนตัวกันหรอก…แต่ยังไงๆ เธอก็เป็นผู้หญิงทั้งแท่ง…และนอนดิ้นด้วย ถ้าเกิดดิ้นไป…อะไรๆ เขาเข้า และเขาเกิดฝันแล้วละเมอคิดว่าเธอเป็นผู้ชายที่เคยร่วมเตียงกันมาก่อน…อึ๋ย ไม่อยากจะคิด
“ไม่รู้แหละ…คืนนี้คุณต้องไปนอนที่…” หญิงสาวมองหาโซฟาหรืออะไรๆ ที่เขาจะนอนได้ แต่ไม่พบ จึงชี้ไปที่พรมสไตล์โมร็อคกันที่อยู่หน้าเตียง “ที่พรมนั่น…โอเค้? จนกว่าจะไปที่ปราสาท…ตอนนั้นคงมีห้องเหลือเฟือเลย”
คอนสแตนตินชักรำคาญ…เขาไม่เคยใช้เวลาอยู่กับใครนานๆ ขนาดนี้เลย นอกจากเวลาทำงาน ซึ่งมีแต่เรื่องงานที่ต้องสนใจ…ไม่ใช่เรื่องจุกจิกหยุมหยิม อย่างนอนบนเตียงหรือบนพรม หรือห้องติดกันอะไรที่น่าปวดหัวแบบนี้
นี่เขาตัดสินใจผิดหรือเปล่า…กำลังทำให้ชีวิตตัวเองเกิดหายนะใช่ไหม
ชายหนุ่มถอนใจ เดินไปที่ระเบียงกว้างนอกห้องที่มองออกไปเห็นวิวสนาม…งานรอเขาอยู่มากมาย ตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศก็ไม่ค่อยดี นักธุรกิจ นักลงทุนจากจีนจะเข้ามาเทกโอเวอร์กิจการไปจนหมดอยู่แล้ว รัฐบาลยังให้ต่างชาติเช่าท่าเรือยาวนานหลายสิบปีเพื่อนำเงินมาหมุน มาอุดรูต่างๆ ที่จะทำให้ประเทศที่เหมือนเรืออ่อนแรงนี้ไม่จมลง
เรื่องลอบสังหารเขาก็ยังไม่มีเบาะแสอะไร แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะหาอะไรไม่พบทั้งที่เขามีมือดีมากมาย รวมถึงทีมตำรวจอีก ที่น่าสงสัยก็มีเพียงนายมาร์ค ซี เทตที่เขาให้คนสืบข้อมูลมาเป็นปีแล้ว และยากลำบากมากกว่าจะได้เบาะแสแต่ละชิ้น เพราะเจ้าของเรื่องจงใจกลบเกลื่อนร่องรอยที่แสดงถึงความเป็นมาของตัวเองอย่างรอบคอบซับซ้อน แต่สำหรับคอนสแตนตินแล้ว ไม่มีทางที่อยากได้อะไรแล้วไม่ได้…ในที่สุดเขาก็ได้ข้อมูลลับๆ หลายอย่างของมาร์ค ซี เทต และมันก็ทำให้เขาถึงกับคิดหนักที่จะทำการเปิดโปง ได้แต่รีๆ รอๆ…ถึงผู้ชายคนนี้จะเป็นคนชั่วช้า เต็มไปด้วยความดำมืดในชีวิต แต่เขาสนใจเพียงเรื่องลอบสังหารเขา และก็ยังไม่มีหลักฐานที่จะโยงมาร์ค ซี เทตกับเรื่องนี้เลย ตอนนี้เขาจึงทำอะไรได้ไม่มาก
“แล้วตกลงจะนอนที่พรมหรือเปล่าล่ะฮึ…”
เสียงเล็กราวลูกแมวยังคงดังออกมาจากในห้อง ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินตามมาที่ระเบียง
คอนสแตนตินถอนหายใจอย่างรำคาญ ตั้งแต่เช้ามา เขาไม่มีเวลาได้คิดอะไรเงียบๆ สักห้านาทีเลย “อย่าวุ่นวายมากนักได้ไหม…ผมไม่แตะคุณหรอก…เห็นบ่นว่าง่วงนักไง ก็ไปนอนสิ คุณย่าและอาๆ กลับมาแล้ว ทำตัวให้เหมือนเมียผมหน่อย อย่าลืมสิว่าคุณอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”
คนตัวเล็กหงุดหงิด “รู้แล้วน่า มือชั้นนี้แล้ว จะทำให้ทุกคนเชื่อเลยว่าฉันกับคุณน่ะรักกันจนจะตายอยู่แล้ว” หญิงสาวลากเสียงอย่างประชดประชัน “…ฉันจะไปงีบแล้ว คุณก็จัดการที่ทางของคุณเอาเองก็แล้วกัน แต่เตียงน่ะฉันจอง”
หญิงสาวเดินเทิ่งๆ เข้ามาในห้อง ดูนาฬิกาหัวเตียงเห็นว่าเพิ่งบ่ายสามก็พ่นลมจากปากดังฟู่ หาวเสียงดังแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงที่ปูไว้ด้วยผ้าปูเตียงสีดำ อาการอ่อนเพลียจากการเดินทางเริ่มออกฤทธิ์ ประกอบกับเจอเรื่องตื่นเต้นมากมาย ทั้งกองทัพนักข่าว ทั้งญาติประหลาดๆ ทั้งรถเท่ๆ ชวนน้ำลายหก หญิงสาวจึงหลับไปในไม่กี่นาทีเพราะเพลียจริงๆ
คอนสแตนตินยังยืนมองอะไรอีกสักพัก ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเมื่อเสียงคนกวนประสาทเงียบไป…พอเขาเห็นภาพเพลงพิณนอนหลับปุ๋ยสบายๆ อยู่บนเตียงก็ส่ายหน้า
กิน วุ่นวาย และนอน…ชีวิตคงไม่เคยมีเรื่องร้อนอกร้อนใจเลยล่ะมั้ง
คู่สามีภรรยากำมะลอที่เถียงกันเมื่อครู่ไม่รู้ตัวว่าที่ชั้นล่างบริเวณที่ตรงกับระเบียงที่พวกเขายืนอยู่มีคนคนหนึ่งได้ยินถ้อยคำพวกนั้นชัดเจน…คิ้วหนาเข้มของเอวานขมวดมุ่น ในใจเริ่มทบทวนบทสนทนาของนายผู้ชายและนายผู้หญิงคนใหม่อีกครั้ง จากนั้นความสงสัยก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ…นายท่านคอนสแตนตินกับผู้หญิงไม่มีความเรียบร้อยนั่นมีความสัมพันธ์ในแง่ไหนกันแน่…แน่นอนว่าไม่ใช่สามีภรรยาที่รักกันดูดดื่มแน่ๆ เรื่องนี้คงต้องมีเบื้องหลังอะไรบางอย่าง…ร่างสูงขยับเดินเข้าในตัวบ้าน และเดินตรงดิ่งไปสู่คนที่เขาคิดว่าควรจะได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ไว้