คอนสแตนตินไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่คำว่า ‘เรารักกัน’ ที่เพลงพิณพูดออกมามันทำให้ใจเขาเต้นผิดจังหวะไปนิดหนึ่ง ร่างสูงเลยหันหลังให้คนตัวเล็กด้วยความรู้สึกรำคาญใจ เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อจะส่งอีเมลถึงผู้ช่วยเป็นการฆ่าเวลากว่าที่เขาจะรู้สึกง่วง
แต่แล้วความเคลื่อนไหวของคนเรื่องมากหัวฟูที่เห็นจากปลายหางตาก็ทำให้เขาต้องหันหลังกลับไปมอง เพลงพิณกำลังจัดการรวบผ้าปูเตียงขึ้นมาจากพื้นและโยนหมอนขึ้นไปบนเตียง
“นอนมันด้วยกันบนเตียงนั่นแหละ…คนอย่างเพลงพิณคิดจะทำอะไรไม่มีคำว่าแผนแตก…ฮึ…” หญิงสาวบ่นพึมพำ พอจัดการกับเรื่องที่นอนเสร็จ ก็หันมาหาสามีในนามที่ยืนกอดอกดูเธอนิ่ง
“ใต้ชุดคลุมนั่นน่ะ…ใส่อะไรไว้อีกหรือเปล่า” เสียงเล็กๆ ใสๆ ถามออกมาลุ่นๆ
คอนสแตนตินชะงักลมหายใจ ดวงตาสีน้ำเงินที่มีแววประหลาดๆ สบสายตาสงสัยใคร่รู้ ก่อนจะบิดยิ้มมุมปากแบบเยาะๆ มือจับที่สายรัดเสื้อคลุมแล้วกระตุกออก วินาทีเดียวกันนั้นเองเพลงพิณก็ร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ แต่ดันเบิกตาซะกว้างจ้องมายังสิ่งที่ถูกเปิดเผยเขม็ง
หญิงสาวกรีดเสียง กระทืบเท้า “โธ่ มีบ็อกเซอร์อยู่นี่นา ทำเอาตกอกตกใจหมด…ทีหลังอย่ามาทำให้ฉันหัวใจจะวายอย่างนี้อีกนะ ถามอะไรดีๆ ก็ตอบดีๆ สิ…” ตาเล็กประเมินว่าบ็อกเซอร์สีดำนั้นไม่รัดรูปก็พยักหน้าหงึกหงัก “…โอเค มีอะไรใส่ไว้ก็ดี แค่นอนเตียงเดียวกันก็แย่แล้ว อย่ามาอุตริเปลือยกายเลย…ขอบอกไว้ก่อนด้วยว่านี่เป็นข้อตกลงที่เพิ่มขึ้นมา…ห้ามแก้ผ้า หรือทำอะไรที่ไม่เหมาะอย่าง เอ่อ…ที่พวกผู้ชายเขาทำกันเวลาว่างๆ น่ะ…” หญิงสาวหน้าแดงเมื่อคิดภาพตาม แต่ก็จำเป็นต้องพูดกันให้เข้าใจ “สรุปว่าห้ามทำอะไรประเจิดประเจ้อเด็ดขาด ฉันตั้งใจไว้แล้วว่าตลอดชีวิตนี้จะเห็นอะไรๆ ของสามีตัวเองเท่านั้น”
คอนสแตนตินทำท่าเกาคอแบบยั่วโทสะ… “แล้วผมไม่ใช่สามีคุณหรือไง”
ตาสีน้ำตาลอ่อนลุกวาบ “อ๊ายยย…อย่าพูดแบบนั้นนะ อะไรๆ ก็รู้กันดีอยู่…ฉันจะนอนแล้ว” หญิงสาวค้อนปะหลับปะเหลือกแล้วเดินอ้อมเตียงมายังฝั่งตัวเองก่อนปีนขึ้นไปบนเตียง ขยับไปขยับมาสักพักก็หาท่าที่ดีได้ก็คือการนอนคว่ำเอามือซุกอก…คนตัวโตที่ยังมองมาส่ายหน้ากับท่านอนที่ดูไม่สบายตัวนั้น แต่ดูเหมือนเพลงพิณจะไม่ติดขัดอะไรแม้แต่น้อย ยังคงผงกหน้าขึ้นมาพูดอีก
“เอ๊า…รีบนอนเข้าสิค้า…จะยืนนิ่งเป็นเสาอยู่ทำไม นอนดึกแก่เร็วรู้หรือเปล่า” หญิงสาวเทศนา แต่พอเห็นอีกฝ่ายยังนิ่งเฉยก็เสริมต่อไปอีกว่า “…แล้วไม่ต้องคิดทำแบบในละครนะ ประเภทเอาหมอนข้างมากั้นเตียงน่ะ บ้าออก…หมอนแค่นั้น ดึกๆ ฉันนอนดิ้นก็เตะกระจุยแล้ว”
“ไม่เสียเวลาดูเรื่องไร้สาระ” ชายหนุ่มพูด เดินเอื่อยๆ มาที่เตียง และถอดเสื้อคลุม…คิดในใจว่าคงไม่มีสมาธิทำงานแน่ น่าจะลองนอนเร็วสักวัน เผื่ออาการนอนไม่หลับจะค่อยยังชั่วขึ้น มือแข็งแรงที่มีไรขนประปรายดึงผ้าห่มที่คนตัวเล็กเอาไปครองไว้คนเดียวก่อนจะพูดฉุนๆ “ปล่อยผ้าห่มมาบ้างสิ…ไม่งั้นจะสลัดให้ตกเตียงเลย”
คอนสแตนตินได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะ ก่อนที่เพลงพิณจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แล้วตวัดผ้าห่มมาให้เขาอย่างกระแทกกระทั้น “เป็นผู้ชายประสาอะไรเนี่ย จ้องแต่จะทำร้ายร่างกายคนอื่น…ฮึ เรื่องเมื่อสองปีก่อนน่ะ ฉันยังไม่ลืมนะที่คุณมา…ตีก้นฉัน เอาไว้ฉันค่อยคิดบัญชีกับคุณที่ปราสาทดีกว่า อยู่ที่นี่สายตาดุๆ ของญาติคุณน่ะยังกับสับปะรด”
ชายหนุ่มรู้สึกขำขึ้นมาในรอบสิบปี…ยายไม้จิ้มฟันนี่นะจะมาคิดบัญชีกับเขา…ตลกตายล่ะ “นอนซะทีเถอะ…พูดมากน่ารำคาญ…แล้วตอนกลางคืนอย่ามาโดนตัวผม ผมเป็นคนรู้สึกตัวไวและหลับยาก ถ้าคุณมาทำให้ตื่นล่ะก็…น่าดู” พูดจบคอนสแตนตินก็ปิดไฟ แล้วทรุดตัวลงนอนบนเตียง