เพลงพิณทำหน้าบูดบึ้งใส่ “อยากจะเดินผ่านตายล่ะ ถ้าไม่มีสายสืบของญาติคุณน่ะ ฉันจะไปนอนอีกปีกปราสาทเลย…เดี๋ยวจะหาว่าทำงานไม่คุ้มค่าจ้าง ก็เลยต้องทนๆ เล่นละครเอาหน่อย”
คนตัวเล็กพูดจบก็คว้าพี่บิ๊กแม็ค โน้ตบุ๊กสีขาวเครื่องโปรดมาเปิดการทำงาน หูได้ยินเสียงฮึ่มฮั่มจากท่านเคานต์แดร็กอีกสองสามชุดก่อนเสียงฝีเท้าตึงๆ จะดังห่างออกไป
“อย่ามาเดินทะลุห้องผมให้รำคาญตา…ชิชะ” หญิงสาวเลียนเสียงทุ้มๆ ห้วนๆ นั้นก่อนจะเบะปาก เดินทะลุห้องน้ำและผ่านเข้าไปในห้องแต่งตัวที่เธอต้องใช้ร่วมกับเจ้าบ้านอารมณ์แปรปรวน มือเรียวเลือกหยิบเสื้อผ้าในชุดประจำการคือกางเกงขายาวเนื้อนิ่มกับเสื้อสายเดี่ยวมาผลัดเปลี่ยน เข้าไปล้างหน้าล้างตาอีกเล็กน้อยก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอน ก็พบว่าอันน่ายืนรออยู่ข้างโต๊ะเล็กซึ่งมีถาดอาหารวางรออยู่
“ของว่างรอบดึกที่คิริอาสั่งเจ้าค่ะ…ในครัวมีพวกเบอรี่สดๆ พีชแล้วก็เนกทารีน อันน่าเอาใส่ตู้เย็นไว้ให้แล้วนะเจ้าคะ” คนสนิทผายมือไปยังตู้เย็นเล็กที่มุมห้อง
เพลงพิณยิ้ม…เธอกะว่าจะนั่งทำงานถึงสักห้าทุ่มแล้วค่อยนอน จึงสั่งให้อันน่ายกของว่างมาเตรียมไว้ให้เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรอเธอ และกลัวว่าถ้าอันน่าต้องผ่านห้องนอนคอนสแตนตินเข้ามาในตอนนั้น หญิงสาวที่เธอถูกชะตาคนนี้อาจจะชะตาขาดก็ได้
“โอเค…เอาล่ะจ้ะ ขอบคุณมาก…วันนี้อันน่าไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันจะทำงานสักแป๊บแล้วก็นอนแล้วล่ะ”
อันน่าทำท่าลังเล หญิงสาวเลยทำเสียงเข้ม “ไปซี้…นอนเยอะๆ จะได้แก่ช้าๆ ไปๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้อันน่าต้องพาฉันกับทีมไปสำรวจปราสาทกันตลอดวันเลย…ไปนอนเอาแรงซะ”
คนสนิทยิ้มรับและยอบกายลา แต่ก่อนจะออกไปก็ตรงไปขยับกระดิ่งที่โต๊ะหัวเตียงให้ง่ายกับการเอื้อมถึงมากขึ้น เอามุ้งโปร่งบางสีชมพูอ่อนที่ถูกมัดรวบไว้จัดให้คลุมรอบเตียงแล้วถึงจากไป
พออยู่คนเดียว เพลงพิณก็เดินไปหยิบคุกกี้ในจานมากัด ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยังโต๊ะทำงานตัวเล็ก มือที่เปื้อนเศษขนมปัดกับขากางเกงก่อนจะจรดมือลงบนแป้นโน้ตบุ๊ก…ต้องเริ่มทำงานเสียที ขั้นแรกเธอต้องเตรียมทีมงานขึ้นมาก่อน
คอนสแตนตินที่ผมหมาดชื้นไปด้วยน้ำจากสระว่ายน้ำที่เขาลงไปจ้วงแขนอย่างบ้าคลั่งกว่าชั่วโมงหลังจากทำงานเสร็จพาร่างที่เย็นชื้นมาหยุดที่หน้าห้องชุดของตัวเอง…ตีสองสี่สิบห้า เขายังไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่…น่าผิดหวังมาก เพราะเมื่อสองคืนก่อนเขานอนหลับแต่หัวค่ำและหลับสนิทเสียจนตื่นมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าและหลงคิดว่าอาการนอนไม่หลับของตัวเองเริ่มบรรเทาลงแล้ว แต่เมื่อคืนที่เพนต์เฮ้าส์บนตึกอันเกลอส กว่าเขาจะหลับลงได้ก็ตีสาม ซ้ำยังฝันถึงเหตุการณ์ที่น่ากลัวเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนจนสะดุ้งตื่นมาด้วยสภาพเหงื่อโซมกายและปวดหัวแทบระเบิด…ตอนนี้เขารู้สึกเพลียจัดแต่ก็ยังไม่ง่วงเลย พร้อมกับหวั่นนิดๆ ว่าตัวเองจะต้องฝันร้ายแบบนั้นในคืนนี้อีก
ร่างสูงกำยำเดินเข้ามาในห้องที่เปิดไฟสลัวๆ ดวงตาน้ำเงินเข้มเกือบดำจ้องเป๋งไปที่ประตูห้องของยายตัวแสบ…ป่านนี้คงนอนหลับปุ๋ยสิ้นฤทธิ์ไปแล้วสินะ…ดี บรรยากาศจะได้เงียบๆ บ้าง ชายหนุ่มถอนใจกับหลายอย่างที่อยู่ในอก ทั้งเรื่องธุรกิจและความกังวลลึกๆ เกี่ยวกับคนบงการลอบสังหารเขาที่ยังไม่คืบหน้า
นรกจริง…ถ้าเขาได้หลับสนิทๆ สักสามสี่ชั่วโมงก็คงช่วยได้บ้าง ตอนนี้เขาล้าเหลือเกิน ชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมไว้ที่ปลายเตียง เดินตัวเปล่าไปปิดประตูที่เปิดสู่ระเบียง จัดการรูดม่านที่มีรอยแหวกอยู่น้อยนิดให้สนิทดี หลังจากนั้นก็ปิดไฟและสอดตัวลงระหว่างผ้าห่มไหมสีเทาเข้มและผ้าปูที่นอนสีดำ พอเขานอนลงด้วยท่านอนตะแคง จมูกของเขาก็ได้กลิ่นบางเบาอันไม่คุ้นเคย…กลิ่นสะอาดๆ บริสุทธิ์ของดอกไม้ใบไม้ กลิ่นของความรื่นเริงและสดใสปนกลิ่นของขนมนมเนยราวกับเด็กๆ คิ้วสีดำขมวดย่นเข้าหากัน ดวงตาดุๆ ล้อมกรอบด้วยขนตายาวหนาหรี่ลงในความมืด