ที่ผ่านมาล้วนเป็นเซี่ยฟั่งที่พยายามรักษาระยะห่างกับอาเหม่ามาตลอด ทว่าตอนนี้เขากลับพบว่าเป็นอาเหม่าที่กำลังตั้งใจตีตัวออกห่างจากเขาแทน
แม้สาเหตุจะไม่แน่ชัด แต่เซี่ยฟั่งคิดว่าเช่นนี้ก็ดีแล้ว…เป็นไปตามความต้องการของเขาพอดี
ด้วยเหตุนี้นอกจากเวลาที่เซี่ยฟั่งแจกแจงงานในคฤหาสน์ที่พอจะได้สนทนากับอาเหม่าบ้างแล้ว ทั้งสองก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันเป็นการส่วนตัวอีก นั่นทำให้หานกวงที่พอรู้เข้าก็ขุ่นเคืองใจอย่างมาก
ถึงอาเหม่าจะมีหน้าตาสะสวย แต่นางเรียบร้อยและเงียบขรึมเกินไป มิอาจสู้เหล่าวิหคน้อยของเขาได้ ดังนั้นนับตั้งแต่เขารู้ว่าเซี่ยฟั่งมีใจให้อาเหม่า เขาก็ไม่คิดอกุศลใดๆ กับนางอีก แต่เรื่องที่บิดาของเขาหมายตาอาเหม่าไว้นั้น…เขาเองก็รู้ดี
เซี่ยฟั่งนับเป็นผู้ช่วยที่ดีเยี่ยม ฉะนั้นหานกวงจึงอยากดึงเขามาเป็นพวก เพื่อให้เขาภักดีกับตนมากขึ้นแล้ว การสนองความต้องการอีกฝ่ายจึงเป็นการซื้อใจที่ดีที่สุด เงินทองตนย่อมไม่อาจให้เซี่ยฟั่งได้ เพราะฉะนั้นจึงได้แต่เก็บอาเหม่าไว้ให้เขาแล้ว
และไม่รู้เพราะเหตุใด ยามนี้เซี่ยฟั่งกับอาเหม่าจึงได้ไม่เหลียวแลกันเสียแล้ว
เขาให้เด็กรับใช้ประจำตัวไปสืบข่าวแล้วก็กระจ่างทันที เซี่ยฟั่งเจ้าทึ่มนั่นให้อาเหม่าไปเผากระดาษเงินกระดาษทองในวันสารท แต่ดันให้ชุ่ยหรงอยู่ที่คฤหาสน์
“มิหนำซ้ำ คืนนั้นอาเหม่าหลงทาง ยังได้คุณชายฉินเป็นคนส่งนางกลับมาด้วยตัวเองถึงปากทางเลยทีเดียว”
หานกวงโกรธจนควันออกหู เขารู้ว่าตนเองไม่มีความสามารถอะไร แต่เรื่องอ่านใจอิสตรีนั้นเขามั่นใจว่าตนเองไม่เป็นสองรองใคร
เช้าตรู่วันนี้ หลังจากกินมื้อเช้าแล้วเขาก็เรียกเซี่ยฟั่งไปอีกทาง ก่อนจะยัดของบางอย่างใส่มืออีกฝ่าย “เอาสิ่งนี้ไปให้อาเหม่า”
เซี่ยฟั่งก้มลงมอง ในมือมีแป้งชาดตลับหนึ่ง เขามองหานกวงอย่างสงสัย “ให้อาเหม่าหรือขอรับ”
หานกวงยิ้มจนตาหยี ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ…ในเมื่อเซี่ยฟั่งไม่รุก หญิงสาวก็ย่อมไม่ชอบ เช่นนั้นก็ให้เขากระตุ้นเสียหน่อยเถอะ ขอเพียงเอาแป้งชาดตลับนี้ไปให้อาเหม่า ก็รอพวกเขาคืนดีกันได้แล้ว
เซี่ยฟั่งมองแป้งชาดนานอึดใจใหญ่ ช่วยคุณชายรองมอบให้อาเหม่าหรือ
หรือคุณชายรองเกิดหมายตาอาเหม่าอีกแล้ว?
เขากำลังคิดปฏิเสธที่จะเป็นคนกลาง ทว่าหานกวงกลับตบบ่าเขา “ไปเถอะ อย่าให้ข้าต้องผิดหวัง”
ไม่รอให้เขาได้ปฏิเสธหานกวงก็วิ่งจากไปแล้ว พร้อมคิดว่าหากเซี่ยฟั่งมอบแป้งชาดนั้นให้กับอาเหม่า ความเข้าใจผิดของทั้งสองก็จะคลี่คลาย เขาช่วยให้เซี่ยฟั่งได้หัวใจของโฉมสะคราญเช่นนี้ อีกฝ่ายจะไม่รู้สึกขอบคุณเขาหรอกหรือ
หานกวงคิดแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมา
หลังทิ้งให้เซี่ยฟั่งยืนอยู่ตรงนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะมอบเผือกที่ร้อนลวกมือ* นี้ออกไปหรือไม่
คิดไปคิดมาเขาก็ใส่ตลับแป้งชาดเข้าไปในแขนเสื้อ ตัดสินใจนำไปให้อาเหม่า ด้วยนิสัยของนาง นางย่อมไม่มีทางรับของ ส่วนเหตุผลที่ไม่รับ เขาจะเป็นคนบอกกับหานกวงเอง ทางที่ดีให้หานกวงตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเลิกตอแยอาเหม่าไป…
พอเขาเดินได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกว่าตนเองยุ่งไม่เข้าเรื่องอีกแล้ว
“พ่อบ้าน”
เสียงของหญิงสาวสามสี่คนดังขึ้นพร้อมเพรียงจากทางด้านหลัง เสียงหนึ่งในนั้นเล็กและเบามาก ทว่ากลับสะดุดหูเขาเป็นพิเศษ ราวกับยามที่พายุพัดเข้าทิวไม้ แม้ใบไม้นับพันหมื่นไหวกระทบส่งเสียงระรัว ทว่าก็ยังมีคนจำแนกเสียงหยกที่ดังท่ามกลางป่าเขาได้ เขาหันร่างช้าๆ แล้วก็เห็นอาเหม่าตามคาด
สายตาของเขาหยุดชะงักก่อนจะเบนออกทันที พยักหน้าแล้วกล่าว “ไปทำงานเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
เหล่าสาวพากันใช้แยกย้ายไปทำงาน อาเหม่าเองก็กำลังจะไป นางที่อยู่รั้งท้ายขณะกำลังจะเดินผ่านเซี่ยฟั่งก็ได้ยินเขาเอ่ยเรียกเสียงเบาว่า “รอเดี๋ยว”
หัวใจของนางพลันเต้นตึกตัก เพียงเพราะหกเจ็ดวันมานี้เซี่ยฟั่งเพิ่งพูดกับนางครั้งนี้ครั้งแรก ทั้งยังมีท่าทีจะคุยด้วยเป็นการส่วนตัว
ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมอง แววตาของนางเจือไว้ด้วยความสงสัยและเป็นประกาย งดงามดุจภาพวาด ชั่วขณะหัวใจของเซี่ยฟั่งกระตุกไปเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “อันนี้”
ตลับแป้งชาดสีแดงเข้มถูกนิ้วเรียวยาวของเขายื่นมาตรงหน้าอาเหม่า นางชะงักงัน ดวงหน้าแดงปลั่งอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนที่เซี่ยฟั่งจะกล่าวต่อ “นี่เป็นของที่คุณชายรองฝากข้าเอามาให้เจ้า”
ความสดใสเย้ายวนพลันเลือนหายไปจากดวงหน้าสวยทันที แม้กระทั่งแววตาก็หม่นแสงลง อาเหม่าดันมือของเขาออกไปโดยไม่ต้องคิด “ข้าไม่เอา” นางขบริมฝีปาก ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองเขา “ต่อไปพ่อบ้านก็โปรดอย่าทำเช่นนี้อีกเลย”
อาเหม่าส่งสายตาตำหนิ ราวกับว่าเขาทำเรื่องผิดมหันต์ เซี่ยฟั่งนิ่งอึ้งแล้วรับคำ “ได้”
เขาเก็บตลับแป้งชาดด้วยความรวดเร็ว เร็วเสียจนราวกับกลัวว่าอาเหม่าจะเปลี่ยนใจแล้วคว้าเอาไป
อาเหม่าไม่รอให้เขาไป นางก็ชิงหันร่างผละจากไปก่อน มือบางสองข้างบีบแน่นจนข้อต่อนิ้วซีดขาว