ชายผู้นั้นโบกมือที่มีเหงื่อเย็นเปียกชุ่มอย่างอ่อนแรง พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ไม่…เป็น…” พูดยังไม่ทันจบเขาก็เป็นลมล้มตึง ซ้ำยังทับลงมาที่ร่างของเผยจื่ออวี๋อีกด้วย
เผยจื่ออวี๋ร้องลั่นจนแม้แต่เหล่าผู้ประสบภัยที่เข้าแถวกันอยู่ยังหันมามองดูภาพที่ชายหนุ่มล้มทับหญิงสาวกันอย่างตื่นๆ แต่ละคนหันไปซุบซิบพูดคุยกัน ทว่ากลับไม่มีใครก้าวออกมาให้ความช่วยเหลือเลย
การที่ถูกอีกฝ่ายล้มใส่เช่นนี้ทำเอาเผยจื่ออวี๋แทบยันเอาไว้ไม่อยู่ ทว่านางยังพยายามกัดฟันประคองร่างของบุรุษที่จู่ๆ ก็หมดสติเอาไว้ และตรวจดูลมหายใจของเขา
สีหน้าซีดขาว หน้าผากมีเหงื่อเย็นๆ ไหลรินออกมาไม่หยุด และที่แขนก็มีบาดแผลสีดำอยู่ด้วย
นี่เขามิใช่ทั้งถูกพิษและได้รับบาดเจ็บมาหรอกหรือ
หญิงสาวรีบจับหน้าผากของอีกฝ่ายดูแล้วพบว่ามันร้อนราวกับไฟจึงคว้าเอาข้อมือของเขามาจับชีพจรดูอีกครั้ง พบว่าจังหวะการเต้นของชีพจรผิดปกติ ทำให้นางยิ่งรู้สึกแตกตื่นมากขึ้น
หลายปีมานี้นางต้องคอยส่งสมุนไพรไปให้ที่ร้านยาทุกสองสามวันจึงได้พลอยร่ำเรียนวิชาแพทย์มาจากพวกหมอบ้าง อาศัยที่เผยจื่ออวี๋มีพรสวรรค์ ฉลาดหลักแหลม และมีความรู้ด้านชีววิทยาจากโลกยุคปัจจุบัน ทำให้พอที่จะวินิจฉัยโรคง่ายๆ ได้บ้าง
ทว่านางก็ไม่ใช่หมอจริงๆ ถึงจะพอจับชีพจรได้ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยจับเจอชีพจรที่ผิดปกติแบบนี้มาก่อน นางจึงไม่รู้ว่าคุณชายผู้นี้เป็นโรคอะไรกันแน่
ไม่ได้การล่ะ ถ้าขืนปล่อยให้คุณชายท่านนี้นอนอยู่ที่นี่ต่อไป ที่นี่คงได้มีศพนิรนามเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งศพเป็นแน่
ทุกคนในที่นั้นต่างเห็นว่าคุณชายผู้นี้นิ่งไปแล้วจึงพากันเข้ามามุงดูด้วยความสนใจ แต่เผยจื่ออวี๋มองสีหน้าไร้น้ำใจของพวกเขาออกว่าไม่มีเลยสักคนที่คิดจะช่วย
สำหรับพวกเขาแล้ว หมั่นโถวที่ช่วยให้ท้องอิ่มยังมีค่ามากกว่าคนที่นอนพะงาบๆ ใกล้ตายเสียอีก
“ปาเจี่ยว เจ้ารีบมาช่วยข้าพาคุณชายท่านนี้ไปที่โรงหมอของท่านหมอจางก่อน ส่วนเตาโต้วเจ้าแจกหมั่นโถวต่อ แจกเสร็จแล้วก็ให้ไปหาข้าที่โรงหมอด้วย” เผยจื่ออวี๋ไม่ร้องเรียกเหล่าผู้ประสบภัยแล้งน้ำใจให้เสียเวลา แต่เรียกหาคนของตนทันที
เมื่อได้ยินคำสั่งของคุณหนู ปาเจี่ยวก็รีบวางหมั่นโถวในมือลงอย่างไม่มีอิดออดและเข้ามา “คุณหนูขอรับ ข้าจะแบกคุณชายผู้นี้ไปเอง ท่านช่วยเอาเขาขึ้นหลังข้าก็พอ”
“เจ้าแบกระวังด้วยล่ะ อย่าทำเขาตกลงมาเชียว คุณชายท่านนี้ท่าจะไม่ไหวแล้ว” นางประคองคนขึ้นหลังของปาเจี่ยวอย่างระมัดระวังพร้อมเอ่ยกำชับ
“คุณหนูโปรดวางใจ ปาเจี่ยวรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร” ช่วยคนเป็นงานเร่งด่วน ปาเจี่ยวจึงรีบแบกคนตรงไปที่โรงหมออย่างรวดเร็ว
เผยจื่ออวี๋เองก็ไม่ห่วงภาพลักษณ์ รีบยกชายกระโปรงขึ้นเร่งตามหลังไปด้วย
“ถอยไปๆ มีคนไข้อาการหนัก” เผยจื่ออวี๋ตะโกนอยู่ที่ด้านหลังของปาเจี่ยว ด้วยเกรงว่าพวกคนที่มามุงเหล่านี้จะขวางทางพวกนางจนส่งผลร้ายต่อชีวิตคน
เสียงตวาดดังลั่นที่นำไปก่อนตัวของเผยจื่ออวี๋นี้สร้างความตื่นตกใจให้แก่ผู้คนที่สัญจรไปมาอยู่ไม่น้อย แม้แต่พวกผู้ป่วยที่ต่อแถวกันอยู่ที่หน้าโรงหมอยังพลอยสะดุ้งและรีบหลีกทางให้คนที่อาการหนักกว่าตนให้ได้เข้าตรวจก่อน
Nichapha
กันยายน 19, 2017 at 2:36 PM
อยากอ่านต่อเมื่อไหร่หนังสือจะออกวางขายค่ะ
Jamsai Editor
ตุลาคม 6, 2017 at 11:36 AM
สามารถซื้อได้ค่ะ ที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ JamShop ค่ะ