“ท่านแม่ ข้ายังเด็กอยู่เลยนะ” ทำไมจู่ๆ ท่านแม่ก็พูดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่เช้า ทั้งที่ร่างนี้ของนางเพิ่งจะอายุได้แค่สิบหกปีเท่านั้น ยังไม่ค่อยจะโตเป็นผู้ใหญ่สักเท่าไร กำลังอยู่ในวัยที่ร่างกายต้องเจริญเติบโตอยู่แท้ๆ แต่นี่ท่านแม่กลับอยากจะให้นางแต่งงานเสียแล้ว แบบนี้มันออกจะน่ากลัวเกินไป เผยจื่ออวี๋นึกวาดภาพตนเองแต่งงานคลอดลูกไม่ออกเลยจริงๆ มันจะกลายเป็นเด็กตัวโตอุ้มตุ๊กตาไปหรือไม่
“ไม่เด็กแล้ว ปีหน้าเจ้าก็จะอายุสิบเจ็ด ถ้าหากไม่รีบแต่งงานตอนนี้ก็จะกลายเป็นยายแก่”
“นั่นสิเจ้าคะ คุณหนู เมื่อวานสะใภ้สกุลหวังที่อยู่ข้างบ้านคลอดลูกชายอ้วนจ้ำม่ำคนหนึ่งแล้วด้วยซ้ำ นางอายุน้อยกว่าท่านอีก แต่กลับเป็นมารดาไปแล้วนะเจ้าคะ” แม่นมอู๋ยกหมั่นโถวก้อนอ้วนๆ ขาวๆ ที่เพิ่งนึ่งเสร็จเข่งหนึ่งเข้าไปวางในลัง
ที่แท้เสี่ยวฮวาที่อยู่ข้างบ้านก็คลอดแล้วนี่เอง มิน่าล่ะวันนี้ท่านแม่ถึงได้พูดเรื่องนี้กับนางตั้งแต่เช้า
เผยจื่ออวี๋ยัดซาลาเปาคำสุดท้ายเข้าปากก่อนพูดเสียงอู้อี้ “ท่านแม่ ข้าไม่อยากแต่งออก แต่อยากแต่งสามีเข้าบ้านมากกว่า”
“เจ้าจะแต่งบุรุษเข้าบ้าน?” ความคิดนี้ของลูกสาวทำให้ผู้เป็นแม่ตกตะลึงพรึงเพริด “เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไรกัน ไปเอาตัวอย่างมาจากที่ไหน คุณชายดีๆ บ้านใดเขาจะยอมแต่งเข้ามาให้เจ้าเล่า”
“ท่านแม่ ถ้าหากข้าไม่แต่งสามีเข้าบ้านแล้วกิจการค้าขายยาใหญ่โตของครอบครัวเราจะมีผู้ใดดูแลอีก ข้าไม่อยากให้ญาติฝั่งสามีมาชุบมือเปิบหรอกนะ” นางไม่เชื่อว่าถ้างัดเอาไม้เด็ดพวกนี้ขึ้นมาแล้วท่านแม่จะยังบังคับให้นางแต่งงานได้ลงอีก
ได้ยินลูกสาวพูดเช่นนี้ หวงซื่อก็ชักร้อนใจเพราะที่เผยจื่ออวี๋พูดมาก็ไม่ผิด ถ้าหากว่านางแต่งออกไป การค้าที่พวกตนสู้อุตส่าห์บุกเบิกกันมาด้วยความยากลำบากมิถูกผู้อื่นชุบมือเปิบไปหรอกหรือ
“เอาล่ะ ท่านแม่ ข้ากินอิ่มแล้ว แม่นมอู๋ ท่านเอาหมั่นโถวที่นึ่งเสร็จขึ้นรถเรียบร้อยหรือยัง” หญิงสาวดื่มน้ำเต้าหู้คำสุดท้ายก่อนเอ่ยถาม
“เสร็จแล้วๆ ปาเจี่ยวกับเตาโต้วยกขึ้นรถม้าไปแล้ว รอให้คุณหนูเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางได้เลยเจ้าค่ะ”
“ท่านแม่ ข้าเข้าอำเภอก่อนนะ มีเรื่องอะไรรอให้ข้ากลับมาแล้วค่อยพูดกัน” เผยจื่ออวี๋หยิบเอาห่อผ้าใบเล็กที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาและสาวเท้าเผ่นออกจากห้องครัวไป
หวงซื่อมองตามเงาร่างของลูกสาวที่กระโดดโลดเต้นไปอย่างคนอยู่ไม่สุขแล้วก็หันมาพูดกับท่านแม่นมอู๋อย่างหนักใจว่า “แม่นมอู๋ ท่านว่าอวี๋เอ๋อร์เป็นเด็กหัวรั้นเกินไปหรือไม่ ตอนปักปิ่น* ข้าจะให้นางหมั้น แต่นางก็บอกว่ารอให้นางอายุสิบหกก่อนค่อยว่ากัน มาตอนนี้นางจะสิบเจ็ดอยู่แล้วกลับบอกว่าจะแต่งบุรุษเข้าบ้านเสียอีก เช่นนี้บุรุษดีๆ คนไหนจะยอมแต่งเข้าบ้านสตรีกันเล่า”
“แต่ที่คุณหนูพูดก็ถูกนะเจ้าคะฮูหยิน ถ้าหากนางต้องแต่งออกไปพร้อมกับสินเดิมมากมายขนาดนี้ มิเป็นการเปิดช่องให้ญาติฝั่งสามีชุบมือเปิบหรอกหรือ ฮูหยินจะทำใจได้หรือเจ้าคะ”
“เพราะแบบนี้ข้าถึงได้กลุ้มใจอย่างไรเล่า ข้ารู้สึกว่าที่นางพูดมาก็มีเหตุผลอยู่ ถ้าหากจะแต่งเขยเข้ามาก็สมควรแล้ว เพียงแต่จะไปหาเขยดีๆ มาได้จากที่ไหนกัน”
* พิธีปักปิ่น หรือพิธีปักปิ่นมวยผม จัดขึ้นเมื่อเด็กหญิงอายุครบ 15 ปี แสดงว่าก้าวเข้าสู่วัยสาว พร้อมที่จะออกเรือนแล้ว
“หากหาเอาจากแถวนี้ไม่ได้ พวกเราก็ไปหาให้ไกลหน่อยสิเจ้าคะ จริงสิฮูหยิน ช่วงนี้เกิดอุทกภัยขึ้น ผู้คนมากมายต่างพลัดที่นาคาที่อยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคุณชายพลัดถิ่นที่มีคุณสมบัติดีๆ แต่เพิ่งสูญเสียญาติจากน้ำท่วมไปก็เป็นได้ อย่างไรพวกเราลองไปสืบกันดูดีหรือไม่เจ้าคะ” แม่นมอู๋เสนอ
นัยน์ตาของหวงซื่อเป็นประกายวาว “ที่เจ้าเสนอมาก็ไม่เลวนะ งั้นรีบให้คนไปสืบดู แต่อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นล่ะ พวกเราจะต้องค่อยๆ เลือกลูกเขยดีๆ มาช่วยดูแลอวี๋เอ๋อร์ให้ได้”
“เจ้าค่ะ ฮูหยินโปรดวางใจ เรื่องนี้ยกให้เป็นหน้าที่ของข้าเถิด”
เผยจื่ออวี๋ที่วิ่งวุ่นออกไปแจกเสบียงอาหารไม่ได้รู้เลยว่าการที่นางหาเรื่องมาอ้างส่งๆ กับมารดานั้น จะทำให้ผู้เป็นแม่เริ่มต้นคิดทำอะไรบางอย่างขึ้นมาจริงๆ
Nichapha
กันยายน 19, 2017 at 2:36 PM
อยากอ่านต่อเมื่อไหร่หนังสือจะออกวางขายค่ะ
Jamsai Editor
ตุลาคม 6, 2017 at 11:36 AM
สามารถซื้อได้ค่ะ ที่งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ, ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ JamShop ค่ะ