สามารถอ่านบทก่อนหน้าได้ที่ >> บทนำและบทที่ 1
บทที่ 2
หญิงสาวพุ่งออกจากห้องโถงมืดสลัวและวิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว
มองออกไปนอกบันไดเล็กแคบเห็นลานขนาดเล็กเมื่อครู่นี้ ข้างลานมีบ้านอยู่หลายหลัง ประตูหน้าต่างของบ้านทุกหลังล้วนปิดสนิท
ด้วยรู้ว่าการที่ตัวเองวิ่งหนีอย่างลนลานไม่ทำให้อะไรดีขึ้น นางจึงบังคับให้ตัวเองหยุดวิ่งและยืดอกเดินผ่านลานแห่งนั้นไปอย่างสุขุม จากนั้นจึงพบว่าประตูปราสาทถูกปิดตั้งนานแล้ว
น่าโมโหจริง
ปราสาทแห่งนี้มีกำแพงแน่นหนา ประตูปราสาทเป็นสะพานชักขนาดใหญ่ที่ยกเก็บได้ แม้มันจะยังวางอยู่ แต่ทั้งด้านในและด้านนอกประตูปราสาทมีประตูเหล็กชักรอกขนาดใหญ่อีกสองบาน ประตูชักรอกด้านนอกเปิดอยู่ก็จริง แต่ด้านในปิดแล้ว
บนประตูเหล็กสีดำมีโซ่เหล็กติดอยู่ โซ่เหล็กคล้องผ่านรอกเหล็กด้านบนประตูที่ฝังอยู่กับกำแพงหิน โซ่นั้นเชื่อมไปยังเครื่องกว้านบนพื้น การเปิดประตูต้องหมุนเครื่องกว้าน อาศัยการหมุนของโซ่ในการยกประตูขึ้นลงเพื่อเปิดปิด
มองปราดเดียวก็รู้ว่านางไม่อาจเปิดมันได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังอดยื่นมือไปลองดูไม่ได้
นางจับเครื่องกว้านบนพื้น แต่เครื่องกว้านหนักเกินไป แม้จะออกแรงทั้งหมดที่มีก็ขยับเขยื้อนมันไม่ได้แม้แต่น้อย นางรู้สึกได้ว่ามีดวงตานับไม่ถ้วนแอบมองนางจากด้านหลังบานประตูหน้าต่าง ทำเอาเหงื่อเย็นของนางไหลไม่หยุด ขนอ่อนหลังคอลุกชัน
วิธีนี้โง่เกินไป นางเปิดประตูบานนี้ไม่ได้ อีกไม่นานคนพวกนั้นก็จะรู้ว่านางไม่ได้มีความสามารถพิเศษ จากนั้นพวกเขาก็จะกรูกันออกมาล่าแม่มดอย่างนางที่ไม่มีเวทมนตร์แม้แต่น้อย
นางร้อนใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ไม่กล้าหันกลับไปเพราะกลัวว่าจะเห็นคนเปิดประตูออกมา
เวลานี้เองมีมือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นออกมาหมุนเครื่องกว้านให้นาง
นางตกใจกระโดดหลบไปด้านข้าง หันกลับไปก็พบว่าเป็นท่านลอร์ดที่ทำตัวเป็นโจรปล้นชิงและลักพาตัวนางคนนั้น นางมองเขาหมุนเครื่องกว้านที่หนักอึ้งอย่างง่ายดายด้วยความประหลาดใจ ประตูเปิดออกพร้อมเสียงดังครืดคราด จากนั้นเขาก็หันหลังจากไปโดยไม่เหลือบแลนางแม้แต่น้อย
แม้จะยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาจึงปล่อยตัวนาง แต่โชคดีแบบนี้ไม่ได้พบเห็นกันบ่อยๆ
นางไม่คิดมากอีก คว้าชายกระโปรงและเดินเข้าไปในเส้นทางมืดสลัวของซุ้มประตูอย่างรวดเร็ว กว่าจะมาถึงด้านนอกปราสาทนางก็แทบจะวิ่งเหยาะๆ และพบว่าตัวเองอยู่ในหุบเขาเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ปราสาทแห่งนี้สร้างอยู่บนหินผาของหุบเขา รอบด้านล้อมด้วยแม่น้ำกลายเป็นคูเมืองตามธรรมชาติ การจะออกไปต้องข้ามสะพานหินอีกที สะพานชักแบบยกเก็บได้ที่ติดกับปราสาทเมื่อวางออกไปจะสอดประสานกับสะพานหินด้านนอกพอดี หากมีศัตรูโจมตี คนในปราสาทแค่ยกสะพานชักขึ้นก็จะกลายเป็นปราการด่านที่สาม
นางหอบหายใจ จนกระทั่งวิ่งผ่านสะพานชักนั้นแล้วจึงชะลอฝีเท้าลงในที่สุด นางก้าวเท้าทำท่าจะเดินออกไป แต่อดหันกลับไปมองข้างหลังไม่ได้