บทที่ 3
อีกวันกำลังจะหมดไป ดวงอาทิตย์ยามสนธยาดูเหมือนเหล็กที่ถูกเผาไฟจนแดง กำลังจมลงสู่ก้อนเมฆไกลออกไป
หลังฟ้ามืด เขาเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินย่ำไปบนพื้นหิน มุ่งหน้าไปยังลานด้านหลัง เก็บผ้าปูเตียงที่ตากแห้งแล้วอีกชุด
เจ็ดวันก่อนตอนที่นางย้อนกลับมา เขายังไม่แน่ใจในการตัดสินใจของตัวเองนัก เขายังไม่เคยได้ยินว่าผู้หญิงสามารถเป็นหัวหน้าผู้ดูแลปราสาทได้ แต่บอกตามตรง เขาไม่มีทางเลือกอื่น
คนในปราสาทยังคงหวาดกลัวนางมาก แม้โซเฟียกับลิซ่าจะทำงานกับนางทุกวัน แต่หากมีโอกาสพวกนางมักจะหลบไปให้ไกลเสมอ
ไม่มีใครอยากเข้าใกล้นาง ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยบ่นเรื่องนี้ นางรู้จักเรียกร้องและรู้วิธีในการสั่งข้ารับใช้เหล่านั้นให้ทำงาน แต่นางไม่เคยหวังว่าทุกคนจะต้องยิ้มแย้มหรือเป็นมิตรกับนาง
เจ็ดวันมานี้ ตอนกลางคืนนางคอยดูแลคนป่วยที่ถูกกันให้ไปอยู่ในหอคอยเหนือซุ้มประตูด้วยตัวเอง ตอนกลางวันคอยสั่งการให้ข้ารับใช้เหล่านั้นทำความสะอาดปราสาททั้งหลัง
นางกำจัดหญ้าชื้นในคอกเลี้ยงสัตว์กับคอกม้า เก็บกวาดยุ้งฉางที่ไม่มีธัญพืชอยู่จนสะอาดและเปิดประตูหน้าต่างทุกบานให้อากาศถ่ายเท สั่งให้ทุกคนขัดถูซอกมุมที่มีคราบสกปรก
นางทำความสะอาดลานอาบน้ำที่ถูกทิ้งร้างและบังคับให้ทุกคนทำความสะอาดร่างกายตัวเอง นอกจากนี้ยังไปหาหม้อเหล็กเก่าๆ มาจากโรงตีเหล็กเพื่อใช้แทนอ่างไฟ จุดไฟให้ความอบอุ่นแก่คนป่วยในหอคอยบนซุ้มประตู
กฎเกณฑ์ที่นางตั้งขึ้นมีมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากอาบน้ำ คนที่เข้าออกห้องคนป่วยยังต้องผูกผ้าปิดปากและจมูก แม้จะเข้าไปเพียงครู่เดียวก็ต้องล้างมือ คนที่เข้าออกห้องครัวและรับหน้าที่ทำอาหารก็ต้องล้างมือเช่นกัน ก่อนกินข้าวทุกคนต้องล้างมือ โชคดีที่พวกเขาขาดแคลนทุกอย่างยกเว้นน้ำ
นอกจากนี้ปีศาจสาวที่ชอบล้างมือยังสั่งให้คนทำความสะอาดรางเก็บน้ำทั้งหมดภายในปราสาท ดังนั้นตอนนี้นอกจากน้ำในบ่อแล้ว พวกเขายังมีน้ำฝนในรางเก็บน้ำที่สามารถใช้ได้
นางยังสั่งให้ข้ารับใช้ผู้หญิงเข้าไปในป่าเก็บดอกยาร์โรว์ ดอกแดนดิไลออน และใบมิ้นต์กลับมาต้มเป็นชาสมุนไพรให้ทุกคนดื่มทุกวัน นอกจากนี้ยังเด็ดสิ่งที่เขามองแล้วเหมือนวัชพืชกลับมาต้มและใช้น้ำสมุนไพรนั้นเช็ดตัวให้คนป่วย
ในปราสาท ข้ารับใช้หญิงและเด็กผู้ชายทั้งหมดถูกนางใช้วิ่งไปวิ่งมาทั้งวัน ทุกคนเหน็ดเหนื่อยจนไม่มีแรงจะบ่น แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับขยันขันแข็งยิ่งกว่าใคร
เขาสังเกตเห็นว่าขาขวาของนางกะโผลกกะเผลกหนักกว่าเก่า
เขายืนอยู่ตรงหน้าต่างหอหลัก หลุบตามองหญิงสาวด้านล่างหอบผ้าปูเตียงเดินกะเผลกอ้อมหอหลักกลับไปยังหอคอยบนซุ้มประตูด้านหน้า ก่อนจะหายเข้าไปตรงทางเข้า
ทุกคนพากันหลบนาง แต่ก็อดสังเกตนางไม่ได้
เขาเข้าใจความสงสัยและความหวาดกลัวของคนเหล่านั้น หลายวันมานี้เขาเห็นคนพวกนั้นจับกลุ่มคุยกันเรื่องแม่มดที่น่ากลัวคนนั้น ทุกคนไม่รู้ว่านางทำอะไรกับคนป่วยที่น่าสงสารบนหอคอยนั้นบ้าง
ความจริงนางไม่ได้ทรมานคนป่วยเหล่านั้นเลย เขาหาเวลาไปดูอยู่หลายครั้ง นางแค่เช็ดเหงื่อให้พวกเขาและเช็ดตัว ยามที่พวกเขาต้องการ นางจะป้อนน้ำและชาที่ต้มจากสมุนไพรเหล่านั้นให้ดื่ม