แผงอกแข็งแกร่งของชายหนุ่มแนบอยู่ข้างหลังนางเหมือนกำแพง
จู่ๆ นางก็รู้สึกลนลาน อยากก้าวไปข้างหน้าให้พ้นจากการประคองของเขา แต่ในชั่ววินาทีสั้นๆ มือใหญ่บนเอวนางกลับกระชับแน่นขึ้น ทำเอานางหัวใจเต้นรัว
“อย่าทำแบบนี้” เขาพูดเสียงค่อย “หากเจ้าเป็นลมตอนนี้มีแต่จะสร้างความตื่นกลัว พวกเขาจะคิดว่าเจ้าป่วย”
นางตัวแข็งทื่อ ไม่ขยับตัวอีก
“ตอนนี้สูดหายใจลึกๆ”
หญิงสาวบังคับให้ตัวเองสูดหายใจลึกๆ บอกให้ตัวเองตั้งสติ
หลังสูดหายใจลึกหลายครั้ง ความมืดตรงหน้าก็หายไป สภาพแวดล้อมรอบด้านชัดเจนขึ้นอีกครั้ง สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกว่าโชคดีคือเนื่องจากแขนเสื้อของนางกว้างจึงสามารถบดบังมือเขาที่อยู่บนเอวได้พอดี อีกทั้งตอนนี้ทุกคนกำลังจ้องมองพี่น้องคู่นั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นความอ่อนแอชั่ววูบของนาง
เว้นแต่เขา
เคลยืนให้มั่นคงและเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง
เขาลังเล สุดท้ายก็ปล่อยมือ นางจึงหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา
ดวงอาทิตย์ยามสนธยาย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีแดง ทำให้ใบหน้าสกปรกของเขาดูเหนื่อยล้ากว่าเดิม แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับเม้มปากแน่นจ้องนางเขม็ง
“เจ้าไม่ได้นอนมากี่วันแล้ว”
“ข้านอนทุกวัน” นางตอบตาไม่กะพริบ
“ให้ตายเถอะ” เขาสบถเสียงค่อยพลางแค่นเสียง “เจ้าดูเหมือนคนที่ถูกต่อยเข้าที่ตาสองหมัด”
คำพูดนี้ทำเอาหางตานางกระตุกนิดๆ นางโกรธโดยไม่มีสาเหตุและโพล่งออกไป
“กลิ่นตัวท่านก็เหมือนลงไปกลิ้งในเล้าหมูมาหนึ่งรอบเช่นกัน ข้าจำได้ว่าท่านสัญญาว่าจะอาบน้ำทำความสะอาดตัวเอง!”
คำพูดนี้ทำให้เส้นเลือดบนหน้าผากเขาปูดขึ้นมา
“ถ้าหากเจ้าใส่ใจเรื่องการอาบน้ำของข้าขนาดนี้ บางทีเจ้าน่าจะต้มน้ำแล้วนำไปส่งให้ข้าที่ห้องด้วยตัวเอง ขัดหลังและล้างเท้าให้ข้า!”
ได้ยินดังนั้นดวงตาของเคลก็มีเพลิงโทสะพุ่งออกมาทันที
“หากนายท่านยินดีชำระล้างร่างกายตัวเองให้สะอาดย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!” พูดจบนางก็หมุนเท้าและสะบัดหน้าเดินไปยังห้องครัว
ให้ตาย! เขาไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่ผู้หญิงคนนี้น่าโมโหเหลือเกิน ชั่ววูบหนึ่งที่เขาอยากยื่นมือออกไปคว้าตัวนาง แต่คนในลานได้ยินเสียงโต้แย้งระหว่างเขากับนางแล้ว ส่วนนางก็เดินเข้าไปในครัวด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด
เขาขึงตาดุใส่ทุกคนและหันหลังก้าวยาวๆ เข้าไปในคอกม้า ใส่หญ้าแห้งเข้าไปในคอกอย่างเดือดดาล เทน้ำสะอาดให้ม้าตัวนั้น เสร็จแล้วก็เดินกลับหอหลักด้วยความโมโห