เด็กหนุ่มคนนั้นก้าวลงมาจากกำแพงเมืองพลางมองนาง เคลรอให้เขาคัดค้าน แต่เด็กหนุ่มผมทองคนนั้นกลับเพียงผงกหัวให้นางและหันหลังเดินไปยังบ่อน้ำอย่างเชื่อฟัง
เห็นดังนั้นนางก็ถอนใจอย่างโล่งอกอีกครั้ง นางได้ยินเด็กคนอื่นๆ เรียกเขาว่าแอนโธนี่
แอนโธนี่ดูสุขุมเยือกเย็นกว่าคนอื่นๆ แต่นางรู้ว่าเขาไม่เหมือนแอนเดอร์สันที่ชอบโวยวาย หากแอนโธนี่ต่อต้านนางเมื่อไร เด็กทุกคนจะต้องทำตามเขาแน่
นางเพิ่งสังเกตเมื่อครู่นี้เองว่าองครักษ์ที่ถือหอกยาวบนกำแพงปราสาทล้วนเป็นคนปลอมที่สวมเสื้อผ้า เด็กหนุ่มคนนั้นทำหน้าที่คอยเปลี่ยนตำแหน่งของพวกมัน
เห็นได้ว่าเวลาท่านลอร์ดจอมโจรคนนั้นไม่อยู่ แอนโธนี่ก็คือหัวหน้าของคนพวกนี้
ครั้นรู้ว่าตัวเองผ่านด่านนี้ไปได้ชั่วคราวแล้ว เคลก็สูดหายใจลึกๆ และหันไปยังกลุ่มเด็กผู้หญิงที่ยืนเบียดชิดกันเหมือนกระต่ายที่ต้องการความอบอุ่น จากนั้นก็สั่งให้โซเฟียนำพวกนางไปตักน้ำที่บ่อและเข้าไปอาบน้ำในห้องครัว
นางรู้ว่ายังมีคนซ่อนตัวอยู่ในห้อง แต่นางสงสัยว่าที่นี่ยังมีผู้ใหญ่เหลืออยู่อีกหรือไม่
หญิงสาวใช้น้ำอุ่นเช็ดตัวให้คนป่วย จากนั้นก็สั่งเด็กที่อายุมากหน่อยนำเปลหามที่ทำขึ้นชั่วคราวมาเคลื่อนย้ายคนป่วยขึ้นไปบนหอคอยอย่างระมัดระวัง
ผู้ชายที่ตัวใหญ่เหมือนโทรลหนักเกินไป นางไม่คิดว่าลำพังเด็กพวกนั้นจะเคลื่อนย้ายเขาได้ จึงตัดสินใจให้เขานอนอยู่ในห้องเดิมไปก่อน รอผู้ชายคนนั้นกลับมาแล้วค่อยว่ากัน
กว่าจะเคลื่อนย้ายคนป่วยเสร็จพระอาทิตย์ก็เคลื่อนคล้อยไปทางทิศตะวันตกแล้ว นางพบว่าอาหารเพียงอย่างเดียวที่หลงเหลืออยู่ในห้องครัวคือข้าวโอ๊ตสำหรับม้า เนื้อตากแห้งขึ้นราชิ้นหนึ่ง แครอตเหี่ยวๆ สองสามหัว และกะหล่ำปลีดองสามกระปุก
ภายในห้องครัวที่ว่างเปล่านั้นไม่มีแม้แต่แป้งสาลีสักชาม
นางมองห้องครัวที่อัตคัดเหลือแสนอย่างตะลึงงัน นานทีเดียวที่พูดอะไรไม่ออก จากนั้นก็เริ่มภาวนาให้ท่านลอร์ดที่ขัดสนผู้นั้นปล้นบ้านนางมาให้หมดและไม่ลืมเอาซุปเนื้อหม้อนั้นของนางกลับมาด้วย
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าการที่เมื่อคืนเขาไม่ได้กินซุปเนื้อหอมกรุ่นหม้อนั้นของนาง หากไม่เพราะมีปณิธานอันแน่วแน่ไม่ธรรมดา ก็เป็นเพราะเขาเป็นคนโง่งมคนหนึ่ง
นางหวังว่าเหตุผลจะเป็นอย่างแรก หากเป็นเช่นนั้นเขาย่อมรู้ว่าควรนำอาหารที่เห็นทั้งหมดกลับมาด้วย
ตอนเขาควบม้ามาถึงสะพานหินหน้าประตูชักรอก เขารู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่ยังบอกไม่ถูกว่าคืออะไร
แม้เขาจะตระหนักดีว่าลอร์ดบริเวณใกล้เคียงก็เหมือนเขาที่ยังเอาตัวแทบไม่รอด แต่ไม่มีใครรู้ว่าลอร์ดพวกนั้นจะคิดว่าการปล้นชิงเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ เพราะฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วพี่น้องคาร์ลบัดซบนั่นส่งคนมาปล้นธัญพืชในไร่ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเขา