เยี่ยเจาส่ายหน้า
“แม้แต่ทองยังหลอมละลายด้วยอานุภาพของลมปาก มันทำร้ายคนมานักต่อนักแล้ว เรื่องในภายภาคหน้าไม่มีผู้ใดบอกได้แจ่มแจ้ง”
อีกประการหนึ่ง สิ่งที่นางไม่อาจเอื้อนเอ่ยคือนับแต่โบราณมา เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล แม่ทัพผู้สันทัดการรบมีความชอบใหญ่หลวงมักถูกระแวงสงสัย น้อยคนนักที่จะพบจุดจบที่ดี บัดนี้นางกุมกำลังทหารอยู่ในมือเพียงผู้เดียวมากมายปานนั้น ทั้งยังครองใจไพร่ฟ้าทั่วหล้า ถึงจักรพรรดิองค์ปัจจุบันจะปรีชาสามารถ เชื่อมั่นในความจงรักภักดีของนางเป็นอันมาก แต่คงไม่กล้าไว้วางใจว่าลูกหลานของนางจะซื่อสัตย์อย่างถวายหัวกันทุกคน ส่วนนางก็ไม่กล้าปักใจเช่นกันว่าวันหน้าหลังจากรัชทายาทขึ้นครองราชย์จะลงมือเข่นฆ่าสังหารเพื่อยึดอำนาจทางการทหารคืนหรือไม่
ซย่าอวี้จิ่นนึกถึงจุดจบของเหล่าขุนนางผู้มีความชอบในการบุกเบิกแผ่นดินก็ตระหนักขึ้นมาได้และบังเกิดความรู้สึกเช่นเดียวกัน เดิมทีเขาจะพูดผสมโรงสองสามคำอย่างขุ่นเคือง แต่ฉุกคิดได้ว่าจะเป็นการด่าทอบรรพบุรุษของตัวเองจึงสงบปากสงบคำแต่โดยดีเพื่อมิต้องถูกตีน่วมยามไปพบพวกเขาในอนาคต
“เคราะห์ดีที่จักรพรรดิมีเมตตาธรรม มีความสามารถในการบริหารบ้านเมือง และเห็นอกเห็นใจผู้อยู่ใต้ปกครองจนขึ้นชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่ดีมาแต่ไหนแต่ไร” เยี่ยเจาเห็นว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วก็บอกความจริงออกมาตามตรง “ตอนที่โม่เป่ยได้ชัยชนะ ข้าก็ถวายหนังสือขออภัยโทษทันที เปิดเผยต่อคนทั้งแผ่นดินว่าตัวเองมีโทษหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เวลานั้นอาณาประชาราษฎร์มีขวัญและกำลังใจ ขุนนางบุ๋นบู๊ล้วนยกยอว่าจักรพรรดิมีความสามารถในการใช้คน ฉะนั้นต่อให้พระองค์ไม่พอใจก็คงไม่อยากขัดแย้งกับคนทั่วหล้าด้วยการปลดข้าออกจากตำแหน่งกะทันหัน จากนั้นข้าก็ส่งสารฉบับที่สองแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและหวังว่าจะได้ออกเรือน เพื่อปลอบประโลมวิญญาณของบิดามารดาบนสวรรค์”
นางชะงักลงตรงนี้ชั่วครู่แล้วถามยิ้มๆ
“ท่านว่า@@@จักรพรรดิจะให้ข้าออกเรือนไปกับผู้ใดได้”
ต่อให้เยี่ยเจายินยอมถอดเกราะ* แต่ในกองทัพโม่เป่ยล้วนเป็นทหารที่ร่วมเป็นร่วมตายกับนางมา เคารพเชื่อฟังและเทิดทูนนางประหนึ่งเทพเจ้า ไม่ว่าจะมอบอำนาจทางการทหารแก่ผู้ใดก็ไม่อาจเป็นที่ยอมรับคล้อยตามของทุกคนได้
การพระราชทานแส้เหล็กไหล เพชรนิลจินดา ที่ดินเหย้าเรือนอะไรก็ตามล้วนเป็นของลวงทั้งสิ้น สินเดิมเจ้าสาวที่แท้จริงของนางคือกำลังทหารห้าสิบหมื่นของโม่เป่ย รวมถึงบารมีในกองทัพสกุลเยี่ยและความดีความชอบในการเผด็จศึกหมานจิน ไม่ว่านางจะแต่งงานกับใครล้วนทำให้เชื้อพระวงศ์กินไม่ได้นอนไม่หลับ บัดนี้ยกนางให้กับซย่าอวี้จิ่นที่ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงแม้แต่น้อยก็เท่ากับเป็นการเอาสินเดิมเจ้าสาวส่งคืนให้กับราชสำนัก
นับแต่นี้ไปนางไม่เพียงเป็นผู้บัญชาการกองทัพใต้หล้า ยังเป็นชายาหนานผิงจวิ้นอ๋อง เป็นสะใภ้ของเชื้อพระวงศ์ เป็นสตรีสกุลซย่า และเมื่อบุตรเป็นผู้รับตำแหน่งบิดา ลูกหลานของนางในวันหน้าจะต้องสืบทอดบรรดาศักดิ์หนานผิงจวิ้นอ๋อง หาใช่อำนาจทางการทหารของสกุลเยี่ย
นอกจากนี้นางออกจากโม่เป่ยแล้วได้เลื่อนตำแหน่งและออกเรือน แต่ยังคงบัญชาการกำลังทหารทั้งแผ่นดินจึงสามารถควบคุมกองทัพโม่เป่ยซึ่งอยู่แดนไกลเอาไว้ได้ ทำให้ขุนนางฝ่ายทหารที่ราชสำนักส่งตัวไปไม่ถูกต่อต้านมากเกินไป หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ผลัดเปลี่ยนคนแทนที่ รอกระทั่งนางเข้าสู่วัยชรา อำนาจทางการทหารก็จะกลับคืนสู่ราชสำนักอีกครั้งอย่างถูกต้องชอบธรรม แล้วนางกับจักรพรรดิก็จะมีชื่อเสียงว่าเป็นกษัตริย์ที่ดีและขุนนางผู้ซื่อสัตย์ไปตลอดชีวิต
* ถอดเกราะ เป็นสำนวน หมายถึงลาออกจากราชการทหาร