เมื่อมองแต่เพียงภายนอก นางทำลงไปเพื่อสร้างความดีความชอบ ทั้งที่ความจริงนางพบว่าจอมมารสนใจอยากหาเศษหาเลยกับนางขึ้นมาต่างหาก นางจึงต้องการให้จอมมารเลิกล้มความตั้งใจ โดยอาศัยข้ออ้างว่าจะยั่วยวนเซียนกระบี่ ประกาศก้องว่าจะไม่แตะต้องบุรุษหน้าไหนอีก จะมุ่งมั่นตามเกี้ยวเซียนกระบี่ สาบานว่าต้องกำราบเขาจนสิ้นฤทธิ์ให้ได้
ไม่ต้องพูดอะไรมาก แผนการนี้สัมฤทธิผลดังปรารถนาจริงๆ
จอมมารมองเซียนกระบี่เป็นศัตรูตัวฉกาจ ถ้าหากมีลูกสมุนคนไหนสามารถต่อกรกับเซียนกระบี่ได้เขาย่อมเห็นดีเห็นงามด้วยอยู่แล้ว จึงหยุดยั้งความคิดที่มีต่อนางไปชั่วคราว
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาภารกิจตามตื๊อนานกว่าร้อยปีของนางก็เริ่มต้นขึ้น จนกระทั่งนางถูกเซียนกระบี่แทงตายในสงครามระหว่างเซียนและมาร
ความจริงนางคุ้นชินกับเขายามแต่งกายสง่างามเต็มยศมากกว่า ไม่ใช่เขาในสภาพเปลือยอกเผยสามส่วนของร่างกาย ภาพที่ปรากฏช่างยั่วยวนและเร้าอารมณ์เกินไปแล้ว
โชคดีที่พลังตบะของนางยังไม่หายไปไหน ทั้งที่อยู่ในอาการตกตะลึงจนไม่อาจถอนตัวนางยังมองเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ราวกับเขาไท่ซาน* ถล่มตรงหน้าก็ไม่อ้าปากค้างได้
“ข้ามองเห็นอามู่ได้แล้ว ขอบคุณอาจารย์มากเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะไปตามหาพวกอาฝูก่อน” พั่วเยวี่ยประสานมือคารวะแล้วหมุนกายสาวเท้าเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
พอมองตามเงาหลังของนางจนหายลับตาต้วนมู่ไป๋ก็ถอนหายใจเฮือก
“สุขุมเยือกเย็นปานนี้เชียว ไม่มีความเขินอายสักนิดเลย…”
“หึ คนที่ควรอายเป็นท่านมากกว่ากระมัง” อินเจ๋อที่อยู่ข้างหลังแค่นเสียงเย็นชา
ต้วนมู่ไป๋ไม่สนใจคำพูดเหน็บแนมของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย กลับส่งเสียงทอดถอนใจไม่สิ้นสุด
“เฮ้อ ข้ามีชีวิตอยู่มานับพันปี เพิ่งรู้วันนี้เองว่าก็มีวันที่ความหล่อเหลาของข้าใช้ไม่ได้ผลเหมือนกัน”
“ข้ามีชีวิตอยู่มานับหมื่นปี เพิ่งรู้วันนี้เองว่าก็มีวันที่ท่านหน้าหนาไร้ยางอายเหมือนกัน”
ต้วนมู่ไป๋ตบไหล่อีกฝ่ายด้วยความรู้สึกหลากหลายเกินพรรณนา “น้องชาย ในที่สุดเจ้าก็รู้จักพูดหยอกล้อกับข้าแล้ว”
อินเจ๋อสวนกลับอย่างเย็นชา “ข้ากำลังเหน็บแนมท่านต่างหาก”
ย้อนคิดถึงในอดีตตัวเขาซึ่งมีฐานะเป็นราชันกระบี่ยอมลงนามในพันธสัญญากับต้วนมู่ไป๋ กลายเป็นวิญญาณผูกพันธะของต้วนมู่ไป๋ ก็เพราะนอกจากถูกใจอิทธิฤทธิ์วิชาเซียนอันแข็งแกร่งแล้ว ยังมีจิตใจมุ่งมั่นแน่วแน่ไม่ลุ่มหลงไปกับสิ่งเย้ายวนของอีกฝ่ายด้วย
มิฉะนั้นด้วยนิสัยหยิ่งผยองของเขา ยอมให้ร่างแหลกเหลว ‘กระบี่’ เป็นผุยผง วิญญาณดั้งเดิมสูญสลาย ก็ไม่มีวันยอมอยู่ใต้อำนาจผู้ใด
ในสามดินแดนมีสตรีมากมายใช้ความงามของตนยั่วยวนเซียนกระบี่ แต่ต้วนมู่ไป๋ก็ไม่เคยหวั่นไหวเลยสักครั้งเดียว ฉะนั้นอินเจ๋อจึงเชื่อมั่นเหมือนกับทุกคนว่าเซียนกระบี่เย็นชาไร้หัวใจ ไม่มีเยื่อใยไมตรี เสน่ห์เย้ายวนของสตรีเป็นสิ่งไร้ค่า การยกระดับการบำเพ็ญเพียรต่างหากเป็นปณิธานมุ่งมั่นของเซียนกระบี่
ไหนเลยจะรู้ว่าบุรุษผู้นี้เป็นคนเสแสร้งได้แนบเนียนนัก โดยเฉพาะการแสร้งทำเป็นไม่รู้ ความสามารถในการพูดโกหกหน้าตายไม่มีใครเทียบเคียงได้ แม้กระทั่งเขายังถูกรูปลักษณ์บริสุทธิ์เยือกเย็นดั่งหยกลวงตา จนลงนามในพันธสัญญาที่มิอาจไถ่ถอน จะเสียใจภายหลังก็สายเกินไปแล้ว