ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 11 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นวลหยกงาม บทที่ 11

เมืองฉางอัน ถนนจูเชวี่ยตะวันตกสายที่สี่ หัวถนนฝั่งขวาติดกับประตูเมืองจิ่งเย่าทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของซิวเต๋อฟาง

ณ มุมทิศเหนือภายในย่านนี้มีวัดสงบเงียบแห่งหนึ่งนามว่า ‘วัดหงฝู’

ช่วงระหว่างการสอบคัดเลือกเดือนสอง โดยมากผู้เข้าสอบจากต่างเมืองจะพำนักอยู่ที่เรือนพักแขกตามอารามวัดต่างๆ ของเมืองฉางอัน ในเมืองหลวงมีวัดพุทธทั้งสิ้นหกสิบสี่แห่ง แบ่งออกเป็นสามระดับโดยพินิจจากขนาดที่ตั้งและผู้กราบไหว้บูชาว่าคึกคักหรือซบเซา เนื่องจากทิศใต้ของวัดหงฝูตรงกับประตูฟางหลิน ทิศตะวันออกติดกับวังเยี่ยถิง ส่งผลให้ถูกบรรดาเหล่าปัญญาชนและผู้เข้าสอบรับราชการยกให้เป็นสถานที่ที่มีพลังอินรุนแรงเล็กน้อย ฉะนั้นบัณฑิตซึ่งพักอยู่ที่วัดแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นคนยากจนไร้ที่พึ่งพาอาศัย

หลูจื้อกับหลูจวิ้นมาถึงเมืองฉางอันตอนบ่ายของวันที่สิบเอ็ด พวกเขาเช่ารถม้าในอำเภอชิงหยางร่วมกับผู้เข้าสอบคนหนึ่งแซ่จี้นามเต๋อ ชื่อรองอีเหยียน ซวีซุ่ย ยี่สิบเอ็ดปี ตอนแรกที่รู้จักกัน จี้เต๋อตกตะลึงมากเมื่อรู้อายุของหลูจื้อ ภายหลังได้อยู่ร่วมกันหลายวัน แม้นอายุต่างกัน ต่างฝ่ายต่างรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นคนน่าคบหา จึงเริ่มนับพี่นับน้องกัน

จี้อีเหยียนเคยเข้าร่วมการสอบคัดเลือกมาแล้วสองครั้ง นับเป็นผู้มีประสบการณ์คนหนึ่ง เขาสาธยายถึงปัญหายุ่งยากจุกๆ จิกๆ ในขั้นตอนการสอบเข้ารับราชการให้หลูจื้อฟังตลอดทาง

ถึงจี้เต๋อมีฐานะดีกว่าหลูจื้อ แต่ล้วนมาจากตระกูลยากจนดุจเดียวกัน เมื่อเขาเสนอแนะขึ้น ทั้งสามก็ไม่เสาะหาที่พำนักอื่น บ่ายหน้าตรงไปขออาศัยที่วัดหงฝูในซิวเต๋อฟางทันที

วัดแห่งนี้มีอาณาเขตแค่ไม่กี่สิบหมู่ แม้นที่นี่จะเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไร้ชื่ออื่นๆ เช่นคำกลอนที่ว่า ควันธูปลอยเบาบางดุจเมฆริ้ว ผืนผ้ายันต์พลิ้วปลิวตามลมโชย’ ทว่าสภาพรอบๆ สงบเงียบเป็นธรรมชาติ ต้นสนเขียวชอุ่มทั่วอาณาบริเวณของอาราม ในโถงรับรองประดับประดาด้วยผ้าแขวนผนังบันทึกตัวอักษร เสียงสวดมนต์แผ่วเบาแว่วลอยมากระทบหู คละเคล้ากลิ่นอายสดชื่นของน้ำค้างยามแรกรุ่งลอยอวลตรงปลายจมูก

ทั้งสามพำนักอยู่ในห้องพักแขกของวัด วันถัดมาก็ไปที่กรมอากรยื่นหนังสือส่งตัวจากอำเภอชิงหยาง และรับใบสำคัญประจำตัวมา เพียงรอเข้าพบผู้คุมสอบของกรมพิธีการเพื่อขอรับสารเสนอชื่อ

ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจะไปขึ้นทะเบียนที่กรมอากร เมื่อได้เป็นจวี่เหรินแล้ว ไม่สำคัญว่าจะมาจากชนชั้นปัญญาชน ชาวนา ช่างฝีมือหรือพ่อค้า ล้วนสามารถเป็นขุนนางได้ นี่คือเส้นทางการเข้าสอบรับราชการของกลุ่มเซียงก้ง

อีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากสำนักศึกษาในเมืองหลวงและเมืองต่างๆ บัณฑิตเหล่านี้สามารถข้ามขั้นตอนเข้าพบผู้คุมสอบของกรมพิธีการ เข้าร่วมการสอบชุนเหวยได้เลยโดยตรง นี่คือเส้นทางการเข้าสอบรับราชการของกลุ่มเซิงถู

กลุ่มที่สามคือผู้ศึกษาในสำนักการศึกษา เป็นลูกหลานของขุนนางเมืองหลวง เมื่อเล่าเรียนครบสี่ปี หลังผ่านการสอบเพื่อสำเร็จการเล่าเรียนสามารถข้ามขั้นตอนการสอบชุนเหวย และขึ้นบัญชีข้าราชการในกรมปกครองได้เลยโดยตรง

สองกลุ่มแรกคือจวี่จื่อกับเซิงถู จะเข้าร่วมการสอบชุนเหวยในเดือนสี่ หลังการสอบจะคัดหนึ่งร้อยคนจากทุกๆ ศาสตร์วิชาขึ้นบัญชีข้าราชการในกรมปกครอง แล้วเลือกเฟ้นผู้โดดเด่นที่สุดกลุ่มละสิบคนเข้าร่วมการสอบหน้าพระที่นั่งร่วมกับผู้โดดเด่นจากทุกแขนงซึ่งคัดเลือกมาจากสำนักการศึกษาสายละสิบคน

สุดท้ายฮ่องเต้จะเป็นผู้คัดเลือกและแต่งตั้งเกียรติยศบัณฑิตเอกชั้นหนึ่งได้แก่ จ้วงหยวน ปั่งเหยี่ยน และทั่นฮวา

ส่วนจวี่เหรินที่ยังมีอายุไม่ครบสิบหกปีต้องผ่านการคัดเลือกของกรมพิธีการส่งตัวไปที่สำนักศึกษาชื่อว่า ซื่อเหมินเสวีย ภายใต้สังกัดของสำนักการศึกษาเพื่อศึกษาเล่าเรียนขั้นสูงกับพวกลูกหลานขุนนาง ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการสอบชุนเหวย รอเมื่อสอบจบการศึกษาแล้วถึงขึ้นบัญชีข้าราชการในกรมปกครองได้

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

    ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

    By

    บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาครั้งนี้ หลายคนต่างบอก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเองฮึกเหิมแล้วไปล้างปล...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูดนี้พอออกมาจากปากบุตร...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถสปอร์ตออกไปจากโรงจอด...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดพร้อมกับเจิงฝาน ...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 31

    By

    บทที่ 31 เสี่ยงตายป้องกันเมือง   ภายในวังหลวง ซุ่นฮ่องเต้ยังคงไม่เข้าประชุมราชสำนัก เพียงอ่านเอกสารที่ราชเลขาธิการนำถวายอยู่บนเตียง แม้...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน อุบายรักลิขิตเสน่หา บทที่ 30

    By

    บทที่ 30 สหายสนิทมาเยือน   หลังเดินออกนอกประตูมาเฮ่อหลันฉือก็บีบนวดไหล่แล้วเอ่ยถามลู่อู๋โยว “คิดจะทำเช่นไรต่อ” “กินน้ำแกงโบราณ หม้อทองเ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 7-8

บทที่ 7 หูซื่อหลังส่งจางมามาไปแล้วก็มีท่าทางเซื่องซึม แต่ตอนที่หันกลับมาเห็นบุตรสาวก็ฝืนทำเป็นยิ้มร่าเริง กระตุ้นให้ตนเอ...

community.jamsai.com