เมื่อเสียบครบหมดทุกลูก หลูซื่อจุดไฟในเตาเตรียมเคี่ยวน้ำตาลซึ่งวิ่งไปซื้อที่ตลาดนัดเมื่อวานนี้โดยเฉพาะ นางเทก้อนน้ำตาลที่มีอยู่เต็มโถลงไปในหม้อครึ่งหนึ่ง มันค่อยๆ ละลายกลายเป็นของเหลวข้นเหนียวสีเหลืองอำพันอย่างช้าๆ ตามแรงไฟ พอเริ่มมีฟองผุดพรายตรงผิวน้ำเชื่อม นางหยิบทัพพีคนแล้วยกขึ้น หมุนกายเอาไปเทลงบนแผ่นไม้ที่ยาวสองฉื่อกว้างหนึ่งฉื่ออย่างทั่วถึง
แผ่นไม้นี้ว่าจ้างช่างไม้คนหนึ่งทำให้ โดยใช้ไม้ฮว่า ที่มีเนื้อไม้ค่อนข้างละเอียด ขัดผิวจนเรียบลื่นเป็นมัน แล้วยังแช่ทิ้งไว้ในน้ำจากลำธารคืนหนึ่ง บนนั้นมีผลซานจาเสียบไม้หกแท่งวางเรียงรายอยู่ หลูซื่อใช้มือหนึ่งยกน้ำเชื่อมราดลงไปจากซ้ายไปขวาและจากบนลงล่าง อีกมือหนึ่งยังหมุนไม้ไปด้วยเพื่อให้น้ำเชื่อมเคลือบผลซานจาลูกอวบๆ สีแดงสดพวกนี้ให้ทั่วถึงเป็นเปลือกบางๆ ใสแจ๋ว
หลูจวิ้นอยู่ด้านข้างกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง แม้สองวันนี้เขาได้กินถังหูลู่ที่หลูซื่อลองทำไปไม่น้อย แต่ทันทีที่เห็นยังคงรู้สึกน้ำลายไหลไม่หยุด ส่วนอี๋อวี้มองดูน้ำตาลเคลือบผิวชั้นนั้นค่อยๆ แข็งตัวทีละน้อยอย่างพึงใจ ในใจบังเกิดความปลาบปลื้มภูมิใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนระลอกหนึ่ง ถึงจะเป็นการลักวิชาของคนอื่นมา แต่นางสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยกำลังของตนเองในที่สุด มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่นางใช้เงินที่หามาได้ครั้งแรกซื้อเครื่องเขียนของใช้ใหม่ๆ ให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
เมื่อน้ำเชื่อมแข็งตัวเป็นสีใสๆ ทั้งหมด หลูซื่อแกะแท่งถังหูลู่ขึ้นจากแผ่นไม้อย่างระมัดระวัง และนำไปปักไว้บนฐานตั้งซึ่งเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าไปแล้วก็บังเอิญนัก เมื่อวานหลูซื่อให้สามพี่น้องตั้งชื่อให้ขนมชนิดนี้ หลูจวิ้นตั้งชื่อเช่นว่าแท่งน้ำตาลแดงเอย แท่งผลเล็บแดงเอย ผลเล็บแดงเชื่อมเอย แต่ล้วนถูกหลูซื่อคัดค้านหมด ลงท้ายนางเห็นดีเห็นงามตามคำพูดของหลูจื้อเช่นเคย
‘น้ำตาลที่เคลือบผิวขนมนี้ละม้ายเกล็ดน้ำแข็งใสกระจ่างในฤดูหนาว ส่วนผลซานจาหกลูกบนแท่งไม้กลับคล้ายผลน้ำเต้าที่เรียงสลับหัวหางต่อๆ กันไป ฉะนั้นมิสู้เรียกมันว่าปิงถังหูลู่เถอะ’ ตอนหลูจื้อกล่าววาจานี้อย่างสุขุม อี๋อวี้ถือปิงถังหูลู่แท่งหนึ่งแทะกินอยู่เกือบสำลักตาย หลังมองเห็นหลูซื่อพยักหน้าตกลง นางอดสงสัยไม่ได้ว่านี่จะนับเป็นผลจากอำนาจบางอย่างที่แก้ไขประวัติศาสตร์กลับมาได้ให้ถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นแม้จะถูกทำออกมาก่อนเวลา ปิงถังหูลู่ ยังใช้ชื่อเดิมของมันเพราะลักษณะที่คล้ายกับน้ำเต้าเคลือบน้ำตาลใส
ฐานที่ปักถังหูลู่แตกต่างจากที่นางเคยเห็น หลูซื่อเอากิ่งเถาวัลย์มาสานเป็นแผ่นแล้วพับทบกันหนาราวสี่องคุลี รูปร่างคล้ายๆ รังนกขนาดใหญ่ที่วางคว่ำลง เอาเสื้อเก่าขาดยัดไว้ข้างในแล้วห่อด้วยผ้าสีขาวไว้ด้านนอกชั้นหนึ่ง จากนั้นปักแท่งถังหูลู่ด้วยการหันหัวไม้เสียบลงให้ทะลุเข้าไปในแนวตั้ง กิ่งเถาวัลย์ที่พันกันไปมาจะยึดพวกมันเอาไว้ไม่ให้ล้มลง
ขณะนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศกำลังเย็นสบาย พอทำถังหูลู่เสร็จตอนพลบค่ำ สามารถวางทิ้งไว้ข้ามคืนก็ไม่ต้องกลัวบูดเสีย วันถัดมาหลูซื่อตื่นนอนตั้งแต่ยังไม่ถึงยามอิ๋น ตะโกนเรียกหลูจวิ้นให้จัดของ เมื่อเอาเกวียนเทียมวัวเรียบร้อยแล้วก็ออกจากเรือนไป จวบจนตกเย็นทั้งคู่ถึงกลับมา
มาตรว่าเข้าเมืองต้องเดินทางไกล แต่มีผู้คนจับจ่ายซื้อของมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เห็นขนมนี้ต่างรู้สึกว่าแปลกตาหายาก หลังได้ลิ้มรสยิ่งชมไม่ขาดปาก ด้วยเหตุนี้ตอนครึ่งบ่ายก็ขายปิงถังหูลู่สามสิบแท่งหมดแล้ว
ผลซานจาป่าที่ภูเขาด้านหลังยังเหลืออยู่ไม่น้อย หลูซื่อขายถังหูลู่ไปเช่นนี้ติดต่อกันเจ็ดวันเต็มๆ ถึงเด็ดจนเกลี้ยงป่า ราคาเริ่มตั้งแต่ห้าอีแปะจนขึ้นไปถึงยี่สิบอีแปะ ท้ายที่สุดได้กำไรเป็นเงินสามก้วนกว่า ทำเอาทุกคนยินดีจนเนื้อเต้นเลยทีเดียว