รอจนผู้อาวุโสใหญ่หานสั่งให้ศิษย์ที่มาแจ้งข่าวกลับไปสังเกตความเคลื่อนไหวของซูเพียนจื่อต่อแล้ว ซูป๋ออวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะถามซ้ำอีกหน “เด็กสาวคนนั้นเป็นผู้เยาว์ของครอบครัวใดขอรับ”
ผู้อาวุโสใหญ่หานลูบเคราสีขาวหิมะก่อนตอบ “นางคือบุตรีของซูหู่หลี่คุณชายสามของท่านประมุข วันที่นางกลับมา เจ้ากำลังกักตนฝึกวิชาอยู่จึงไม่ได้พบกัน ไม่เลว…สติปัญญาของนางไม่เลวเลยจริงๆ แต่ว่า…เหตุใดกลับไม่มีพรสวรรค์เชิงยุทธ์เสียได้เล่า”
“คุณชายสามซูหู่หลี่?!” ซูป๋ออวิ๋นรักษาความเยือกเย็นต่อไปไม่ไหวแล้ว
ซูหู่หลี่ผู้นี้แม้ตนจะไม่เคยได้พบตัวจริงมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินอาจารย์เอ่ยถึงเกียรติประวัติของเขานับครั้งไม่ถ้วน…เขาคืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ผู้เป็นทั้งความหวังและความรุ่งโรจน์ของสกุลซูเมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาเคยสะกดให้ศิษย์นับไม่ถ้วนในรุ่นเดียวกันต้องอับแสงไร้ประกาย ถึงขั้นที่แม้แต่ประมุขและเหล่าผู้อาวุโสล้วนเห็นพ้องต้องกันว่าเขาจะกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสกุลซูได้ก่อนอายุสามสิบปีอย่างแน่นอน
ที่เชิงบรรพตเซียนพันเมฆาซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของดินแดนมีจารึกหยกขาวอยู่เจ็ดแผ่น แต่ละแผ่นแยกกันจารึกนามของยอดฝีมือหนึ่งร้อยอันดับแรกในแต่ละขั้นพลังวัตร
บนเส้นทางการเลื่อนขั้นพลังวัตรของซูหู่หลี่นั้น เขาเคยกวาดรวดทั้งอันดับหนึ่งของขั้นถอดรูป อันดับหนึ่งของขั้นเปลี่ยนกระดูก อันดับหนึ่งของขั้นชำระไขกระดูก และอันดับหนึ่งของขั้นเปลี่ยนเส้นลมปราณมาแล้ว…ในขณะที่คนทั้งหมดคิดว่าเขาจะคว้าอันดับหนึ่งเช่นนี้เรื่อยไป นามของเขากลับพลันสาบสูญไปจากจารึกหยกขาวอย่างลึกลับ และไม่มีใครล่วงรู้ร่องรอยของเขาอีกเลย
ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าอัจฉริยะในอดีตผู้นั้นถึงกับมีทายาทอยู่ หากซูป๋ออวิ๋นยังสามารถเยือกเย็นอยู่ได้ก็แปลกแล้ว
แต่ว่าอาจารย์ของตนบอกว่านาง…ไม่มีพรสวรรค์เชิงยุทธ์? นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!
ผู้ที่ถูกการแสดงออกอันยอดเยี่ยมของซูเพียนจื่อทำให้ตกใจนั้นไม่ได้มีแต่พวกเขา บรรดาศิษย์ระดับต้นที่สอบเสร็จและได้เห็นผลคะแนนที่ประกาศออกมาอย่างรวดเร็วต่างก็ตื่นตะลึงกันไม่สิ้นสุด
ซูม่านม่านเองก็นึกไม่ถึงว่ากระดาษคำตอบอันสมบูรณ์แบบที่นางเป็นผู้ตรวจถึงกับเขียนออกมาจากมือของเด็กขยะที่นางไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาเลยคนนั้น
ทว่าเพียงไม่นานซูม่านม่านก็เยือกเย็นลง สอบย่อยได้คะแนนเต็มแค่นี้นับเป็นอะไรได้ หากไม่มีพรสวรรค์เชิงยุทธ์ สุดท้ายก็เป็นได้แค่ขยะชิ้นหนึ่งอยู่ดี นับแต่มีสกุลซูมายังไม่เคยมีศิษย์สักคนที่ไม่ฝึกวิชายุทธ์แล้วเลื่อนขึ้นเป็นศิษย์ระดับกลางได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะสร้างความสำเร็จอื่นที่ใหญ่ไปกว่านี้
เด็กขยะนี่ยิ่งเฉลียวฉลาดเท่าไร วันหน้าก็มีแต่จะขมขื่นยิ่งขึ้นเท่านั้น ก็เหมือนที่นางพูดไว้ก่อนหน้านี้… ‘ขยะ ต่อให้ไม่ถอดใจอย่างไรก็เป็นแค่ขยะอยู่วันยังค่ำ’
แน่นอนว่ายังมีซูเจินเจินอีกคนที่ตกใจกับผลสอบของซูเพียนจื่อ แววตาที่นางใช้มองพิจารณาสหายเหมือนกำลังมองสัตว์ประหลาดยักษ์ก่อนยุคประวัติศาสตร์ตัวหนึ่งอยู่ ไม่มีใครรู้ชัดไปกว่านางว่าอาจื่อได้จับตำราวิชากลลวงเบื้องต้นเล่มนั้นแค่เพียงสามวัน อาจื่อทำได้อย่างไรกันนี่!