สำหรับสิ่งแรก นางจะต้องออกจากถ้ำพันจิ้งจอกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยตนเอง ส่วนความรู้เบื้องต้นสำหรับสิ่งหลัง นางก็ได้ทำความเข้าใจจากตำราแล้ว เหลือแต่ทักษะขั้นสูงที่ล้วนต้องมีพลังวัตรร่วมด้วยจึงจะสำแดงออกมาได้ ดังนั้นต่อให้เขามีใจจะสอน นางในตอนนี้ก็ไม่อาจเรียนรู้ได้อยู่ดี
ซูเพียนจื่อไม่รู้ว่าตนเองกลายเป็นผู้ที่บุคคลระดับสูงในสกุลซูให้ความสนใจเป็นพิเศษไปแล้ว นางยิ่งไม่รู้เรื่องที่พวกเขาสนทนากันเกี่ยวกับหัวข้อที่ว่าควรจะบ่มเพาะนางอย่างไรดี
หากสาวน้อยได้รู้ล่ะก็ นางจะต้องเต้นผางอย่างแน่นอน…‘ปล่อยไปตามธรรมชาติ’ อะไรกัน พวกเขาให้นางเข้าไปเสาะหาของวิเศษในคลังสมบัติบนยอดเขาสิ นี่ต่างหากคือการบ่มเพาะที่ดีที่สุดสำหรับนาง และก็เป็น ‘วาสนา’ ที่จำเป็นที่สุดสำหรับนางในช่วงเวลานี้!
นางยังกลุ้มใจอยู่เลยว่าจะผ่านการสอบย่อยห้าสนามสุดท้ายของศิษย์ระดับต้นไปได้อย่างไร
นางสอบถามจากฝูอวิ๋นมาแล้วว่าสิ่งที่จะทดสอบในอีกห้าสนามที่เหลือก็คือ…ความสามารถเฉพาะตัวในการเอาชีวิตรอดที่สิบแปดมงกุฎจำเป็นต้องมีรวมห้าแขนง ได้แก่ ความไวของสองมือ ฝีมือในการแปลงโฉมปลอมตัว พลังสายตากับการได้ยิน ความเร็วในการหลบหนี และความสามารถในการซ่อนตัว
สำหรับผู้ที่มีพลังวัตร ความเร็วในการเคลื่อนไหวย่อมจะสูงส่งกว่าคนธรรมดาไม่ต่ำกว่าสิบเท่า อีกทั้งหากใช้ทักษะวิชายุทธ์บางอย่าง การจะเปลี่ยนแปลงรูปโฉมและสุ้มเสียงในเวลาอันสั้นก็ไม่ได้ยากเย็นแต่อย่างใด ระดับความเฉียบคมของสายตาและการได้ยินยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง แม้แต่การเก็บงำลมหายใจหรือหดพับร่างกายเพื่อซ่อนเร้นร่องรอยก็เป็นเรื่องที่แสนจะง่ายดาย
ทว่าสำหรับคนธรรมดาอย่างซูเพียนจื่อ ไม่ว่าจะเอ่ยถึงความสามารถแขนงใดก็ล้วนแต่ยากเข็ญดุจไต่ขึ้นสวรรค์
กระนั้นนางก็ไม่คิดจะยอมแพ้ อย่างน้อยดูจากตอนนี้แล้ว การเลื่อนขึ้นเป็นศิษย์ระดับสูงก็คือวิธีการเพียงหนึ่งเดียวที่นางจะได้เข้าใกล้คลังสมบัติ ไปเสาะหา ‘ไร้นาม’ มาคลายผนึก และได้รับเบาะแสร่องรอยของบิดามารดา นางอยากจะพบหน้าบุพการีของตนยิ่งนัก อีกทั้งใจนางก็ไม่ยินยอมที่จะเป็นผู้อ่อนแอให้คนอื่นมาดูแคลนด้วย
ตั้งแต่ตอนที่เพิ่งจะมาถึงถ้ำพันจิ้งจอกได้ไม่นาน นางก็เคยหยิบยืมตำราวิชายุทธ์จากซูเจินเจินมาอ่านจำนวนหนึ่งแล้ว และก็เคยทดลองฝึกปรือตามวิธีที่ระบุในตำรามากกว่าหนึ่งหน ทว่าร่างกายของนางถูกปิดผนึกโดยสิ้นเชิงอย่างแท้จริง เฉพาะการรวบรวมลมปราณซึ่งเป็นขั้นตอนแรก นางเสียเวลามาเกือบครึ่งปีแล้วก็ยังไม่อาจทำได้เสียที ไม่ว่านางจะเพียรพยายามอย่างไรก็ตาม
ในเมื่อเส้นทางนี้เป็นทางตัน นางจึงนึกถึงเส้นทางอีกสายแทน…
การสอบย่อยสนามที่สิบหกทดสอบเรื่องความแคล่วคล่องว่องไวของสองมือ นางสอบถามมาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วว่าปกติโจทย์ก็คือการจุดเทียนไข…ภายในเวลาชั่วหนึ่งอึดใจหากจุดเทียนไขในตำหนักที่วางอยู่ใกล้ไกลแตกต่างกันได้ถึงหกสิบเล่มก็จะนับว่าสอบผ่าน หากจุดได้ถึงหนึ่งร้อยเล่มจึงจะได้คะแนนเต็ม
เวลาชั่วหนึ่งอึดใจ? นี่มันเกินขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ชัดๆ!