อุปกรณ์ที่ซูเพียนจื่อนำมาคือแผ่นกระดานสีดำขนาดกว้างยาวหนึ่งฉื่อ มองไม่ออกว่าทำมาจากวัสดุอะไร ทว่าเมื่อได้เห็นภาพอันชอบกลหลังจากการสอบเริ่มต้นขึ้น ทุกคนก็ตระหนักได้ในพริบตา…
เห็นได้ชัดว่านั่นคือกระดานที่ฝังแม่เหล็กก้อนเล็กๆ เอาไว้จนเต็ม นางไม่ต้องตั้งใจสดับฟังอะไรทั้งสิ้น ขอเพียงยกกระดานขวางไปยังทิศทางที่ลูกปัดลอยมา ลูกปัดเหล็กที่ปะปนอยู่ก็ย่อมจะถูกดูดไว้บนกระดาน ในขณะที่ลูกปัดไม้กับลูกปัดหินล้วนกระดอนออกไปไม่เหลือแม้แต่ครึ่งลูก
ผู้คุมสอบยิ้มเฝื่อนขณะจดคะแนนเต็มในการสอบย่อยสนามที่สิบแปดให้กับซูเพียนจื่อ จากนั้นเขาก็ประกาศออกมาทันทีว่าการสอบย่อยในครั้งต่อไปจะไม่ให้เก็บรวบรวมลูกปัดเหล็กแล้ว ให้เปลี่ยนมาเก็บรวบรวมลูกปัดหินแทน
เหล่าผู้เข้าสอบพากันหัวเราะครืน บางคนก็ลอบตำหนิตนเอง…วิธีการที่ทั้งเรียบง่ายทั้งได้ผลดีเช่นนี้ เหตุใดเมื่อก่อนตนจึงนึกไม่ถึงนะ
ทุกคนถกความเห็นกันอย่างครึกครื้นถึงความเจ้าเล่ห์แสนกลของซูเพียนจื่อ กับเรื่องการสอบย่อยสนามถัดไปว่านางจะใช้วิธีแปลกใหม่อะไรมาเอาชนะบททดสอบ ไม่มีใครสังเกตว่าวันนี้ซูเทียนหวาไม่ได้มาเข้าร่วมการสอบย่อย
ในความเป็นจริงการสอบย่อยอีกสองสนามถัดจากนั้น เขาก็ไม่ได้มาด้วยเช่นกัน…
ซูเพียนจื่อยิ้มตาหยีออกจากสนามสอบไปกับฝูอวิ๋นเพื่อเตรียมการต่อสำหรับการสอบย่อยสองสนามที่เหลือ
ฝูอวิ๋นพูดบ่นทีเล่นทีจริง “ท่านไม่ต้องคว้าคะแนนเต็มทุกสนามสอบก็ได้ นี่เป็นการยั่วให้ผู้คนริษยามากไปแล้ว”
ซูเพียนจื่อตอบกลั้วหัวเราะ “อย่างไรก็ทำคะแนนเต็มไว้ก่อนปลอดภัยกว่า เกิดพลาดพลั้งสอบไม่ผ่านขึ้นมา คราวหน้าก็ไม่อาจใช้ลูกไม้เดิมมาโกงแล้ว อีกอย่าง…”
“อีกอย่างอะไร”
“พวกเขาล้วนบอกว่าท่านพ่อข้าคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งของสกุลซู ข้าคือบุตรสาวของท่านพ่อ ข้าหวังว่าท่านจะภาคภูมิใจในตัวข้า!” ซูเพียนจื่อกอดคอฝูอวิ๋นพลางเอ่ยเสียงเบา
ฝูอวิ๋นเงียบงันอยู่ชั่วอึดใจก็ฉีกยิ้มกล่าว “บิดาของท่านจะต้องภาคภูมิใจมากแน่ๆ ที่มีบุตรสาวซึ่งยอดเยี่ยมเช่นท่าน”
“ข้าเองก็รู้สึกว่าท่านพ่อจะต้องคิดเช่นนี้” ซูเพียนจื่อแย้มยิ้มอย่างเบิกบานใจ
ฝูอวิ๋นขบคิดเล็กน้อยก่อนเอ่ยถาม “สนามถัดไปทดสอบเรื่องความเร็วในการหลบหนี ท่านตั้งใจว่าจะทำอย่างไร เตียวเจาะภูผามีความเร็วไม่ใช่เล่นๆ ถูกมันงับเข้าสักคำก็เจ็บมากด้วย”
ขณะนี้ทั้งสองอยู่กลางอากาศ พูดคุยกันไม่ต้องกลัวว่าจะมีผู้อื่นแอบฟัง ดังนั้นมันจึงเอ่ยถามอย่างผ่าเผยตรงไปตรงมา
การสอบย่อยสนามที่สิบเก้า กล่าวอย่างง่ายๆ ก็คือการวิ่งหนีอยู่ในตำหนักที่ใช้เป็นสนามสอบโดยมีเตียวเจาะภูผาไล่กวด ภายในเวลาครึ่งเค่อหากไม่ถูกเตียวเจาะภูผาไล่ทันก็ถือว่าสอบผ่าน หากยืนหยัดได้ครบหนึ่งเค่อก็จะได้คะแนนเต็ม
ความแคล่วคล่องว่องไวของเตียวเจาะภูผาเป็นสิ่งคุกคามใหญ่หลวงสำหรับผู้ฝึกวิชาขั้นถอดรูป มีแต่เลื่อนสู่ขั้นเปลี่ยนกระดูกแล้วเท่านั้นจึงจะกล้าพูดอย่างค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่ถูกมันไล่ตามทัน
ซูเพียนจื่อยิ้มตอบ “เรื่องนี้น่ะหรือ…พวกเราต้องเตรียมการไว้สองชั้น ได้ยินว่าผู้คุมสอบสนามที่สิบเก้ารับมือยากยิ่งด้วยกระมัง”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 20 ก.พ. 64