ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 5 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 5

ประตูสีชาดของตำหนักปิดแน่นหนา โคมไฟภายในเป็นสีอบอุ่น ทั้งตำหนักเงียบอย่างประหลาด

ตะวันขึ้นแล้วก็ตก บนพื้นอิฐของตำหนักมีเงาสีเทาหรุบหรู่ทอดยาว เห็นลวดลายที่ละเอียด ปลายขอบไม่ชัดเจน คล้ายอารมณ์หดหู่หลากหลายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

เขานั่งอยู่ มองสตรีในชุดสีเรียบแต่งหน้าบางเบาเหล่านี้นิ่งไม่ขยับ

ล้วนยังอายุน้อยเพียงนี้ เปี่ยมไปด้วยความคึกคักมีชีวิตชีวาเพียงนี้ ทว่าพวกนางรู้หรือไม่ว่าราชสำนักที่แท้จริงมีสภาพเช่นไร

มีหญิงสาวไม่น้อยวางพู่กันในมือลง หยิบขนมอบชาววังที่ได้รับมาในช่วงก่อนฟ้าสางตอนอยู่ที่ถนนนอกวังหลวงออกมานั่งกินเงียบๆ อยู่ในที่นั่งสอบ

มีเพียงนางคนเดียวที่ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา ยกข้อมือสะบัดพู่กัน หมึกดำกระดาษขาว แผ่นหลังตั้งตรง คล้ายไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

ลูกนัยน์ตาสีหมึกเข้มขรึม ขยับพู่กันดุจโบยบิน ตัวอักษรในช่องตารางสีแดงประณีตเรียบร้อย กระดาษข้อสอบขลิบสีทองทางซ้ายมือได้วางซ้อนกันเป็นกองบางๆ แล้ว

เขาค่อยๆ เบนสายตามาที่นาง ริมฝีปากสีแดง คิ้วเรียวละเอียด ใบหน้าขาวใส มองแพขนตาของนางกระพือขึ้นลงอย่างไม่รู้ตัว มองปอยผมตรงมุมหน้าผากปิดคลุมหางคิ้วของนาง มองสีหน้าจริงจังตั้งอกตั้งใจอย่างยิ่งบนใบหน้าของนาง มองดูนางเขียนความเรียงนี้อย่างทุ่มเทกระตือรือร้น

สตรีหลายคนที่อยู่รอบข้างกินอาหารเสร็จแล้วก็เริ่มเขียนความเรียงอีกครั้ง

มีเพียงขนมอบชาววังที่อยู่ข้างกายนางห่อนั้นที่ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่ได้แตะต้อง

เขาสังเกตเห็นสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ของนาง มองประเมินนางอย่างจดจ่อโดยไม่รู้ตัว

ในสมองหวนนึกถึงวันนั้น บนถนนหลวงดินเหลืองทางด้านเหนือของเมืองชงโจว วัดร้างแห่งหนึ่ง คนในชุดสีขาวคนหนึ่ง ดวงตาทั้งสองมองเขาอย่างดื้อรั้นและแน่วแน่ ถึงกับเปิดปากถามเขาว่าเขาสกุลอะไรชื่ออะไร

ตั้งแต่เขาเกิดมาจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีใครถามคำถามนี้กับเขา

ชื่อของเขาคนทั้งใต้หล้าต่างรู้ แต่กลับไม่มีใครกล้าเรียก ยิ่งมีคนน้อยมากที่รู้ว่าชื่อนี้แฝงความหมายลึกซึ้งไว้ว่าอย่างไร

ผู้โดดเดี่ยว ตัวคนเดียว

นับแต่โบราณผู้เป็นกษัตริย์ล้วนโดดเดี่ยว แม้แต่บิดามารดาของเขาที่คู่ควรกันดุจกระบี่กับฝักกระบี่ก็ต้องเดินตามลำพังมานานกี่ปีกี่เดือน ต้องหลั่งโลหิต หยาดเหงื่อ และน้ำตามามากมายเพียงใด เสียสละผู้คนและเสบียงสรรพาวุธมากมายเพียงใด ถึงได้แลกกับการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันดูแลกันในช่วงไม่กี่สิบปีสั้นๆ นี้มาได้

ใช้คำว่า ‘กว่า’ มาตั้งเป็นชื่อ หาใช่ต้องการให้เขาโดดเดี่ยวไปทั้งชีวิต หากแต่ผืนแผ่นดินในใต้หล้าที่หลอมรวมสติปัญญาและชีวิตจิตใจของคนทั้งสองมาทั้งชีวิต มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะสืบทอดได้

เขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวในชั่วชีวิตของคนทั้งสอง ความทุกข์ยาก ความลำบาก และความโดดเดี่ยวของผู้เป็นกษัตริย์ วันข้างหน้านอกจากเขาแล้วยังจะมีใครมีคุณสมบัติเป็นผู้นำแทน

ผู้อื่นเห็นเพียงความรุ่งโรจน์อันไร้ขอบเขตของเขา แต่ไหนเลยจะรู้ว่าภาระที่อยู่บนบ่าของเขาหนักเพียงใด

เป็นกษัตริย์ยาก เป็นกษัตริย์ยากก็ไม่อาจพูด

ถึงพูดได้ ก็ไม่มีใครพูด

 

“องค์รัชทายาท”

เจ้าหน้าที่สำนักห้องเครื่องที่อยู่ด้านข้างเห็นเขามองจ้องสตรีผู้หนึ่งจนใจลอย จึงอดเรียกเสียงต่ำที่ข้างหูเขาไม่ได้

เขาพลันได้สติ รู้ว่าตนเสียกิริยาก็อดย่นหัวคิ้วไม่ได้ แล้วเหลือบตามองนางทีหนึ่ง กลับสบเข้ากับสายตาของนางที่มองมาพอดี

ยังคงเป็นแววตาที่ใสกระจ่างเฉกเช่นวันนั้น

เขาเบนสายตาไปเงียบๆ สายตากวาดมองไปทั่วตำหนักรอบหนึ่ง จากนั้นจึงถอนสายตากลับมา

นางดูแล้วอายุน้อยเพียงนี้ อย่างมากก็เพียงสิบเจ็ดสิบแปดปี ใบหน้าใสซื่องดงาม แต่กลับกล้าเขียนความเรียงฝืนกฎเกณฑ์ในการสอบจิ้นซื่อเคอจวี่ระดับมณฑล แตกต่างกันมากกับสตรีที่เขาเคยพบมา

แต่ที่นางฝืนกฎเกณฑ์ที่แท้แล้วเพราะอะไร เพียงเพื่อต้องการชื่อเสียงเท่านั้นหรือ

เขาหลับตาเล็กน้อย แล้วนึกถึงคำพูดที่กู่ชินพูดกับเขาในสนามสอบของกรมพิธีการเมื่อไม่กี่วันก่อน

เป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าเพียงชั่วเวลาไม่กี่วันนางกลับสามารถทำความรู้จักเสิ่นจือหลี่ได้ และเสิ่นจือหลี่ถึงกับยอมไปยื่นเทียบที่จวนสกุลกู่เพื่อนาง

เห็นได้ว่านางมีสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นจริงๆ

น้ำตาเทียนสีแดงหยดลงมา สีสันราวกับไฟ เสียดแทงนัยน์ตาดุจโลหิต

ตอนเหลือบตาขึ้นอีกครั้ง กลับพบว่านางยังคงมองมาที่เขา

เขามองนางตรงๆ คิดไม่ถึงว่านางจะขวัญกล้าถึงเพียงนี้

นางสบเข้ากับสายตาเยียบเย็นเล็กน้อยของเขา ครู่เดียวก็เบนสายตาหลบไป

แต่ถึงกระนั้นเขายังคงเห็นประกายความหวังที่วูบวาบอยู่ในดวงตาทั้งสองของนางอย่างชัดเจน

นางกำลังเฝ้าปรารถนาสิ่งใด

ลาภยศหรือเบี้ยหวัดขุนนาง

บนโต๊ะที่มันวาวสะอาดหมดจดตัวนั้นวางกระดาษข้อสอบขลิบทองอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยปึกหนึ่ง พู่กันกับหมึกของนางเก็บไปเรียบร้อย ขนมอบชาววังที่วางอยู่ด้านข้างห่อนั้นยังคงไม่ได้กิน

มีเจ้าหน้าที่กรมพิธีการเห็นแล้วเช่นกัน เขาเดินเข้าไปซักถามเสียงต่ำ เห็นนางเขียนตอบเสร็จหมดแล้ว ไม่เพียงตื่นตะลึง ทว่าตามกฎระเบียบไม่อาจออกจากสนามสอบก่อนกำหนด จึงให้นางนั่งอยู่เช่นนั้น รอตะวันตกดินค่อยออกจากสนามสอบพร้อมคนอื่นๆ

เขามองอยู่ไกลๆ ก็เห็นนางก้มหน้าเล็กน้อย มองโต๊ะที่อยู่เบื้องหน้าตนด้วยสีหน้าจดจ่อ เป็นนานไม่ขยับ ก็ไม่รู้กำลังคิดอะไร

สตรีผู้นี้…

กลับทำให้เขาอยากจะรู้จักขึ้นมาแล้ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com