ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 104 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ลูบคมองครักษ์สวมรอย บทที่ 104

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 104

เนื่องจากนครหลวงมีกลุ่มคนร้ายที่ไม่รู้ที่มา การเฉลิมฉลองในเทศกาลซั่งหยวนจึงถูกยกเลิกไป วันที่สิบสี่ถึงวันที่สิบหกสามวันยังคงประกาศใช้กฎห้ามออกจากเคหสถานยามวิกาล

บนท้องถนนเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ทั่วทุกหนแห่งมีองครักษ์เสื้อแพรเข้าออก ชาวบ้านล้วนอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าส่งเสียงหรือเคลื่อนไหว หวังเหยียนชิงก็เป็นเช่นเดียวกัน นางไม่ยึดติดกับการฉลองเทศกาลสักเท่าไร ในจวนแม้กระทั่งโคมยังไม่ได้แขวนด้วยซ้ำ

วันเทศกาลซั่งหยวน หวังเหยียนชิงพักผ่อนอย่างสงบเหมือนเช่นทุกวัน เพิ่งถึงยามเซินคนเฝ้าประตูก็วิ่งเข้ามากะทันหัน บอกว่ามีคนส่งของขวัญชิ้นหนึ่งมาให้หวังเหยียนชิง ถามนางว่าจะจัดการอย่างไร

หวังเหยียนชิงได้ยินคำว่า ‘ของขวัญ’ ก็เดาได้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร นางอยากดูว่าลู่เหิงคิดจะทำอะไรจึงสั่งให้คนเฝ้าประตูนำเข้ามา คนเฝ้าประตูประคองกล่องสี่เหลี่ยมใบหนึ่งเข้ามาโดยเร็ว เปิดออกแล้วพบว่าข้างในเป็นโคมไฟดวงหนึ่ง

โคมไฟทำเป็นรูปเสือ ด้านนอกปิดกระดาษสีแดง บนหน้าผากเขียน ‘อักษรหวัง’* เอาไว้ โคมไฟดวงนี้ทำขึ้นอย่างประณีตทีเดียว เสือดูเหมือนมีชีวิตจริง ทว่ามองอย่างไรก็ไม่น่ากลัวแม้แต่น้อยกลับน่าเอ็นดูอย่างยิ่ง

เหล่าสาวใช้ต่างล้อมวงเข้ามาแย่งกันพูดว่าโคมไฟดวงนี้ช่างน่ามอง ทันใดนั้นมีคนตาแหลม ชี้ไปที่ก้นกล่องพลางพูด “ตรงนี้มีจดหมายฉบับหนึ่งด้วย”

คนข้างๆ ลอบหยิกนางหนึ่งที สาวใช้จึงตระหนักว่าตนพูดผิดเสียแล้ว พวกนางต่างมองหน้ากัน วางโคมเสืออย่างเบาไม้เบามือและถอยออกไปเงียบๆ

หวังเหยียนชิงถอนหายใจ สุดท้ายยังคงหยิบจดหมายขึ้นมาแล้วเปิดดูข้อความข้างใน

ตัวอักษรบนกระดาษเรียบง่ายอย่างเหนือคาด

 

วันนี้สืบหาไส้ศึก บังเอิญผ่านริมทางที่ขายโคมไฟ เห็นแล้วคิดถึงเจ้า จึงทำโคมเสือดวงหนึ่ง อวยพรชิงชิงจากที่ไกลให้สุขสมบูรณ์ในวันเทศกาลซั่งหยวนปีเหรินอิ๋น*

 

หวังเหยียนชิงพลิกกระดาษไปอีกด้าน นอกจากคำพูดประโยคนี้ก็ไม่มีเนื้อหาอื่นใดอีก นางวางกระดาษจดหมาย มองโคมไฟรูปเสือดวงนี้อย่างเหม่อลอย

ความจริงตั้งแต่เปิดกล่องนางก็แยกแยะได้แล้ว ‘อักษรหวัง’ ที่เขียนอยู่บนหน้าผากเสือเป็นลายมือของลู่เหิง ปีนักษัตรมีมากมายเขากลับเลือกส่งเสือมาให้นาง เหตุผลมิใช่เพราะปีนี้เป็นปีเสือ แต่เพราะนางแซ่หวัง

บอกไม่ถูกว่าเขามีเจตนาอย่างไร แต่เขาทำให้หวังเหยียนชิงจิตใจว้าวุ่นสำเร็จ

สำหรับลู่เหิงการมอบเพชรพลอยเครื่องประดับ หรือแม้แต่มอบที่ดินคฤหาสน์ล้วนไม่นับเป็นอะไร ด้วยตำแหน่งของเขามีหนทางในการหาเงินมากมายเหลือเกิน ข้าวของต่อให้ล้ำค่าเพียงใดสำหรับเขาแล้วก็เป็นเพียงตัวเลขหนึ่งเท่านั้น เขาถึงขั้นไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงคิดเองด้วยซ้ำ แค่สั่งคำเดียวพ่อบ้านก็เลือกของขวัญมาให้แล้ว

สิ่งที่ทำให้เขาทุ่มเทเวลาได้จึงจะเรียกว่าล้ำค่าอย่างแท้จริง แม้จะเป็นเพียงโคมไฟรูปเสือริมทาง แต่เขาเขียนอักษรตัวหนึ่งลงบนนั้นก็แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่รอด้วยตนเองจนกระทั่งโคมทำเสร็จ จากนั้นค่อยจรดพู่กันลงไป

สองสามวันนี้เป็นช่วงเทศกาลซั่งหยวน แรงกดดันในการจับกุมวอโค่วของพวกเขามีมากเป็นพิเศษ ระหว่างทำภารกิจเขาหยุดข้างทางกะทันหันเพียงเพราะคิดว่านางน่าจะชอบโคมไฟเช่นนี้ ตอนเขาทำเช่นนี้ในใจมีความคิดใดอยู่กันแน่

สาวใช้เข้ามาเปลี่ยนน้ำชา นางเห็นหวังเหยียนชิงจ้องโคมไฟนิ่งไม่ขยับจึงเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “ฮูหยิน โคมไฟดวงนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ”

หวังเหยียนชิงดึงความคิดกลับมา เดิมทีนางไม่อยากรับของจากลู่เหิง แต่เห็นเสือน้อยท่าทางทึ่มทื่อน่าเอ็นดูแล้ว สุดท้ายก็แข็งใจโยนทิ้งไปไม่ได้ จึงตอบเสียงเรียบ “อย่าให้ฝีมือของคนทำโคมต้องเสียเปล่าเลย นำไปแขวนเถอะ”

สาวใช้ดีอกดีใจ รีบรับคำ “เจ้าค่ะ”

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงทีละน้อย โคมไฟรูปเสือสีแดงดวงหนึ่งแขวนอยู่ใต้ชายคา แค่เงยหน้าก็มองเห็นได้ ความจริงหวังเหยียนชิงเข้าใจเจตนาของลู่เหิง ลู่เหิงนิสัยไม่ดี แต่ช่างฝีมือมิได้ผิดอะไร การพานโกรธโคมไฟไปด้วยออกจะน่าเสียดาย เดิมทีหวังเหยียนชิงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่สนใจลู่เหิงอีกเด็ดขาด ไม่ยอมตกหลุมพรางของเขาอีกแน่นอน แต่ความคิดบางอย่างใช่ว่านางจะสามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะเมื่อเหนือศีรษะมีโคมเสือที่สะดุดตาแขวนอยู่ คอยย้ำเตือนถึงตัวตนของเขาอย่างเงียบๆ ทำให้แม้กระทั่งหลับฝันตอนกลางคืนนางก็ยังเห็นเขา

ในฝันนางอายุเพียงสิบขวบ กำลังคัดอักษรตามแบบที่อาจารย์ทิ้งไว้ ไม่รู้เพราะเหตุใดแบบอักษรนี้จึงคัดไม่หมดเสียที ขณะที่นางลนลานไม่รู้จะทำเช่นไร พี่รองก็ปรากฏตัวกะทันหัน บอกว่าเขาเลียนแบบลายมือของนางได้ และสั่งให้หวังเหยียนชิงออกไปถ่วงเวลาอาจารย์ไว้ เขาจะปลอมลายมือให้นางเอง

หวังเหยียนชิงตื่นขึ้นมาในวันต่อมา ฟังเสียงลมนอกหน้าต่างพลางสงบสติอารมณ์อยู่นาน ยังคงรู้สึกเหลวไหลสิ้นดี

ในความเป็นจริงนางไม่เคยทำการบ้านไม่เสร็จและไม่เคยหลอกลวงอาจารย์ ในความเป็นจริง ‘พี่รองของนาง’ ก็มิใช่ลู่เหิง

ไม่รู้เหตุใดนางจึงถอนหายใจเบาๆ

หลังจากหวังเหยียนชิงรับโคมไฟไว้ คนข้างนอกก็เหมือนได้รับกำลังใจ หลังจากนั้นก็ส่งของมาให้นางไม่หยุด ทว่าทุกครั้งของที่เขาส่งมากลับมิใช่ของขวัญล้ำค่าอะไร ดังเช่นครั้งนี้เขาส่งกิ่งเหมยมากิ่งหนึ่ง

จดหมายสั้นๆ ที่แนบติดกับดอกไม้มาด้วยเขียนว่า

 

พวกวอโค่วซ่อนตัวอยู่ในคณะงิ้วคณะหนึ่ง ด้านนอกคณะงิ้วปลูกต้นเหมยไว้มากมาย กิ่งนี้ผลิบานงดงามเป็นพิเศษ ดอกเหมยเดิมทีไร้มลทิน ทิ้งไว้ที่นี่ย่อมถูกเหยียบย่ำทำลาย จะย้ายไปปลูกในจวนของพวกเราดีหรือไม่’

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com