ดังนั้นภายใต้เสียงร้องไห้สะเทือนฟ้าดินของนาง ฉู่จิ้งเฟิงจึงพลิกตัวลงจากเตียงอย่างสงบนิ่ง หยิบกาน้ำชาขึ้นมากรอกปากดื่มอย่างรวดเร็วกว่าครึ่งกา แล้วนั่งหลับตาพักสมองอยู่บนเก้าอี้ จากนั้นเดินไปที่หน้ากระจก ส่องดูเห็นตาของตนเองกลับเป็นปกติแล้ว จึงได้ขมวดคิ้วดึงผ้าขาวที่พาดขอบอ่างทองแดงบนชั้นไม้จันทน์แดงมา ชุบน้ำล้างหน้าที่ผสมสุราผลซิ่งในอ่างทองแดงแล้วบิดแห้ง ก่อนจะเดินมาที่เตียง พลิกเปิดม่าน แล้วดึงตัวคนที่น้ำตานองหน้าขึ้นมาเช็ดหน้าให้นางค่อนข้างแรง ปากก็พูดเสียงแข็งว่า “พอแล้ว ร้องไม่กี่ทีก็พอแล้ว ถ้ายังร้องอีกจะโยนเจ้าไปที่ชายป่า…”
หลี่รั่วอวี๋แท้จริงแล้วก็ร้องไปพอสมควรแล้ว ตอนเย็นนางกินเพียงแค่ถั่วลิสงกับพุทราเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเลย ตอนนี้เสียงท้องร้องจึงดังขึ้น
ตอนที่ฉู่จิ้งเฟิงดึงตัวนางขึ้นมา นางก็รู้สึกรางๆ ว่าพี่ฉู่ที่เป็นมิตรผู้นั้นกลับมาอีกครั้งแล้ว แต่ในตอนนี้นางหยุดเสียงร้องไห้ไม่ได้ แม้นางจะยังสะอื้นอยู่ ทว่าในใจกำลังตั้งใจคิดว่าอีกครู่จะกินขนมบนโต๊ะนั้นให้หมด
แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับตำหนินางอย่างอารมณ์เสีย ทั้งยังบอกว่าจะโยนนางออกไปด้วย นางจึงเดินพลังไปที่ท้องน้อย แล้วจงใจร้องเสียงดังออกมาอย่างไม่ยอมแพ้อีกครั้ง
น่าเสียดายเสียงร้องของนางนี้ดังออกไปฝุ่นยังไม่ทันตกดินก็ได้ยินเสียงตะโกนโศกเศร้าของหล่งเซียงบ่าวผู้ซื่อสัตย์ดังลอยมาจากนอกเรือน “คุณหนูรอง…” จากนั้นก็เป็นเสียงฉุดกระชากของนางกำนัลและบ่าวหญิงอาวุโส
คราวนี้ทำให้เสียงที่เหลือในลำคอถูกกลืนลงไป นางนึกขึ้นได้รางๆ ว่าท่านแม่กับพี่สาวเคยพูดว่า วันนี้ต้องเชื่อฟังพี่ฉู่ สตรีทุกคนล้วนต้องผ่านด่านนี้ ทนสักนิดก็ผ่านไปแล้ว ถึงแม้นางไม่รู้ว่าท่านแม่จะให้นางทนอะไร แต่เรื่องท้องหิวนี้ทนไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เขาฟ้องท่านแม่ นางจึงพยายามกลั้นสะอื้นและพูดเสียงเบาว่า “รั่วอวี๋จะกิน…ขนมพุทรากวน…”
ฉู่จิ้งเฟิงจ้องนางอย่างเย็นชา แต่ท่าทางเย็นชากลับสลายหายไปกับปลายจมูกแดงๆ ขอบตาแดงๆ ที่น่าสงสารนั้น
“ขนมพุทรากวนหวานเกินไป กินก่อนนอนไม่ดี ให้บ่าวเอาข้าวต้มกับเกี๊ยวมาให้เจ้ากินดีหรือไม่”
เขาสวมเสื้อคลุมสีแดงสดให้นาง แล้วสั่งนางกำนัลยกอาหารเข้ามา ข้าวต้มเม็ดบัวอุ่นอยู่บนเตาถ่าน เกี๊ยวก็เตรียมเอาไว้เพื่อให้คู่สามีภรรยาใหม่ ‘มีลูกเร็วๆ’
หลี่รั่วอวี๋หิวมากจริงๆ นางกินข้าวต้มหมดไปสองชามเล็ก เพราะยังถือตะเกียบไม่คล่อง จึงกินเกี๊ยวไส้หมูผสมกุ้งรสเลิศหนึ่งจานเล็กด้วยความช่วยเหลือของฉู่จิ้งเฟิง
ระหว่างกินเพราะเกิดความรู้สึกผิด จึงตั้งใจเอามือหยิบเกี๊ยวตัวหนึ่งไปที่ปากของพี่ฉู่ที่ดูไม่ค่อยเบิกบานใจ
รอนางกินเสร็จแล้ว เหล่านางกำนัลก็ยกน้ำร้อนเข้ามาเช็ดล้างให้สามีภรรยาคู่ใหม่
ตอนอยู่นอกห้อง เหล่านางกำนัลคิดว่าเจ้าสาวผู้นี้คงถูกซือหม่าลงมือรุนแรงจนลุกไม่ขึ้น แต่พอเข้ามาในห้องกลับพบว่า ฮูหยินน้อยผู้นี้ยังคงสดชื่นมีชีวิตชีวา นั่งกินอยู่ข้างโต๊ะอาหารอย่างมีความสุข แต่การกินนั้นน่าตกใจอยู่บ้าง เพราะเกี๊ยวน้ำลื่นเกินไปจึงไม่ใช้ตะเกียบ แต่ใช้มือหยิบเสียเลย จากนั้นยังยื่นไปที่ปากของซือหม่าอีกด้วย
การตอบสนองของซือหม่าก็ทำให้เหล่านางกำนัลมองตะลึง เขากินเกี๊ยวจากมือเล็กเปื้อนน้ำมันนั้น ซ้ำยังดูดนิ้วเล็กมันเยิ้มนั้นทีละนิ้วอีก ทำให้ฮูหยินน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก…
รอจนกินเสร็จเข้านอนแล้ว หลี่รั่วอวี๋จึงพบว่าพี่ฉู่ไม่มีทีท่าว่าจะออกไป ทั้งยังจะนอนบนเตียงเดียวกับตนเองอีก
คิดถึงท่าทางของเขาเมื่อครู่ หลี่รั่วอวี๋ก็อดลังเลใจไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ถูกฉู่จิ้งเฟิงอุ้มขึ้นมาวางลงบนเตียงจนได้
เห็นฉู่จิ้งเฟิงไม่คิดจะถอดเสื้อผ้าบนตัวนางอีก หลี่รั่วอวี๋จึงวางใจลง มุดเข้าไปในผ้าห่ม ไม่นานก็โผล่หน้าออกมาครึ่งหน้า กลอกดวงตาโตแล้วถามว่า “พี่ฉู่ อีกครู่…อีกครู่รั่วอวี๋หลับแล้ว พี่…จะดูดนมรั่วอวี๋อีกหรือไม่”
ภายในความมืดตอนปล่อยม่านลง สามารถได้ยินเสียงสูดลมหายใจยาวของชายหนุ่มได้ “ไม่แล้ว คนดี รีบนอนเสีย”
“มีเพียงคนเป็นแม่จึงจะสามารถให้นมได้ พี่ฉู่ทำไมไม่…ไม่ไปหาท่านแม่ของตัวเองล่ะ”
“…เพราะท่านแม่ข้าตายไปแล้ว” ฉู่จิ้งเฟิงรู้สึกว่าตนเองคงกลายเป็นเทพเซียนแล้ว จึงสามารถพูดคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้อย่างสงบนิ่ง
หลี่รั่วอวี๋ฟังถึงตรงนี้ก็เข้าใจทันที ความโมโหในใจเมื่อครู่หายไปจนสิ้น คิดอย่างเห็นใจว่า ที่แท้พี่ฉู่ไม่มีท่านแม่ มิน่าเล่า…
แต่เมื่อครู่นางถูกดูดเจ็บเหลือเกิน ตอนนี้เสียดสีกับเนื้อผ้ายังรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเลย ดังนั้นนางจึงจับคอเสื้ออย่างระวังแล้วพูดต่อไปว่า “แต่รั่วอวี๋ตอนนี้ไม่มีน้ำนม วันหน้ามีลูกแล้วจึงจะมี ถึงตอนนั้น…ค่อยให้นมพี่ดีหรือไม่”
ฉู่จิ้งเฟิงหรี่ตาทั้งคู่ลง มองขึ้นไปด้านบนอย่างตั้งใจพลางพูดเสียงเครียด “หลี่รั่วอวี๋ ถ้าเจ้ายังไม่ยอมนอน อย่ามาโทษว่าข้าจะทำอะไรเจ้าอีกนะ”
หลี่รั่วอวี๋กลัวฉู่จิ้งเฟิงจะทำอะไรนาง ดังนั้นจึงรีบพลิกตัว เอาผ้าห่มห่อตัวไว้แน่น ขยับห่างจากเขาไกลสักหน่อย จากนั้นก็จมเข้าสู่ความฝันอันแสนหวานอย่างไร้ความกังวล